สตช.วางยุทธศาสตร์ยุติโจรใต้ก่อเหตุ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติวางยุทธศาสตร์ยุติปัญหาความไม่สงบและความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเน้นยุติเหตุร้ายรายวันเป็นหลัก

วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษก ตร.กล่าวถึงสถานการณ์ความุรนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ว่า สถานการณ์โดยรวมดีขึ้น มีการก่อเหตุลดน้อยลง ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดนโยบายการทำในพื้นที่ภาคใต้ คือ 1.น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าถึง เข้าใจ พัฒนา และ เศรษฐกิจพอเพียง นโยบายของรัฐบาล กอ.รมน.และ ตร.ในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ มาเป็นกรอบแนวคิดในการกำหนดนโยบาย 2.พิทักษ์ คุ้มครองประชาชน และอำนวยความยุติธรรมอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม 3.ยึดหลักธรรมาภิบาล เน้นการสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของประชาชน 4.พัฒนาประสิทธิภาพกำลังพลและครอบครัว หน่วยงานตำรวจและระบบงาน 5.สร้างเอกภาพและบูรณาการทุกภาคส่วนในการแก้ปัญหา

พล.ต.ต.สุรพล กล่าวต่อว่า มีนโยบายเน้นหนัก คือ 1.ยุติเหตุร้ายรายวัน และมุ่งสถาปนาความสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ได้โดยเร็ว 2.ปฏิบัติการเชิงรุกดำรงความริเริ่มในการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง 3.เพิ่มศักยภาพ ระบบสืบสวนสอบสวน วิทยาการ นิติวิทยาศาสตร์ ให้มีความรวดเร็วและเป็นธรรม 4.ตำรวจต้องเป็นที่รักศรัทธาเชื่อมั่นของประชาชน และประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา 5.ความสัมพันธ์แนวชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน การทำงานมีเป้าหมายสูงสุด คือ (1.ยุติการก่อการร้ายรายวัน (2.ควบคุมพื้นที่เส้นทางคมนาคม ประชาชนและฝ่ายตรงกันข้ามได้อย่างเด็ดขาด (3.พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ปลอดภัย ประชาชนดำเนินชีวิตได้อย่างปกติและมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินสูงสุด (4.อำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม (5.ความมั่นคงของสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

พล.ต.ต.สุรพล กล่าวต่อว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีลำดับขั้นในการแก้ปัญหา คือ 1.สร้างความพร้อมในการปฏิบัติทุกด้านทั้งบุคคล หน่วยงาน และระบบงาน 2.เพิ่มประสิทธิภาพในการพิทักษ์ประชาชน 3.เพิ่มประสิทธิภาพในการอำนวยความยุติธรรม รวดเร็ว เสมอภาค เป็นธรรม 4.ลดเงื่อนไขในการปฏิบัติที่ไม่ชอบธรรมต่อประชาชนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความร่วมมือ สำหรับการกำหนดพื้นที่เป้าหมายนั้นประกอบด้วย 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ประกอบด้วย 53 หมู่บ้าน เขตเทศบาล 34 แห่ง หมู่บ้านที่มีความรุนแรงขนาดปานกลาง 457 หมู่บ้าน และเส้นทางการคมนาคมหลัก คือ เส้นทาง 410 ระยะทาง 163.7 กม. เส้นทาง 42 ระยะทาง 239.1 กม.

รองโฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า หลังจากที่คนร้ายมีการยิงถล่มตำรวจจนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการกดดันตรวจจับอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมาสามารถวิสามัญฯ คนร้ายได้ 6 คน พบของกลางเป็นปืนพกตรวจสอพบก่อเหตุมาแล้ว 12 คดี และพบปืนเอชเคที่ปล้นมาจากเขื่อนบางลาง ก่อเหตุมาแล้ว 12 คดีเช่นเดียวกัน และที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามกดดันคนร้านตรวจจับอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว