ตำรวจ ปดส.จับเว็บมาสเตอร์เว็บไซต์ www.nisitgirl.com เปิดให้เผยแพร่ภาพลามกอนาจาร เจ้าตัวอ้าง ลบไม่ทัน เพราะผู้ไปเข้าใช้บริการเยอะ ทั้งไม่มีเจตนาให้เป็นที่เผยแพร่ข้อมูลและภาพลามก
วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ บก.ปดส.เมื่อเวลา 11.00 น.พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบช.ก.พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส.พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.ฝป.10 บก.ปดส.และ พ.ต.ท.ปัญญา ชะเอมเทศ สว.ฝป.10 บก.ปดส.ร่วมกับ นายวินัย อยู่สบาย ผอ.สำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที แถลงข่าวจับกุม นายบุญญฤทธิ์ อรุณทรัพย์ อายุ 25 ปี เว็บมาสเตอร์ของเว็บไซต์ www.nisitgirl.com พร้อมของกลาง เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 7 เครื่อง โดยจับกุมได้ บริเวณชั้น 13 อาคาร กสท บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ถนนเจริญกรุง แขวงและเขตบางรัก กทม.เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจค้นบริเวณชั้น 14 อาคารเดียวกัน และยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 14 เครื่อง มาตรวจสอบ หลังสืบทราบว่ามีการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการโหลดและถ่ายข้อมูลลามกอนาจาร หรือที่เรียกว่า สังคมแชร์ไฟล์ หรือ บิททอเรนท์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไอซีทีจะได้ขยายผลตรวจสอบว่าแต่ละเครื่องมีผู้ใดเป็นเจ้าของ และมีการถ่ายโอนข้อมูลที่ผิดกฎหมายหรือไม่ หากพบการกระทำผิดก็จะประสานตำรวจ ปดส.จับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า ได้รับนโยบายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ บช.ก.ปราบปรามสื่อลามกตามเว็บไซต์ต่างๆ อย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาการเผยแพร่ภาพไม่เหมาะสมลงบนอินเทอร์เน็ตได้สร้างความเสียหายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของภาพถ่ายและผู้ใกล้ชิด และก่อให้เกิดความเสียหายต่อเด็กและเยาวชนที่เข้าไปดู นอกจากนี้ ยังมีการนำภาพลามกอนาจารเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ทางการค้า นอกจากนี้ อยากฝากไปยังผู้ประกอบการอินเตอร์เน็ตให้ตรวจสอบเว็บไซต์ที่อยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดอย่าให้มีคนนำภาพไม่เหมาะสมเข้าไปโพสต์
สอบสวน นายบุญญฤทธิ์ รับว่า เปิดเว็บไซต์ไว้ให้ผู้สนใจโพสต์กระทู้ความคิดเห็นทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการเผยแพร่ข้อมูลลามกอนาจาร แต่ที่มีข้อมูลลามกอนาจารในรูปแบบต่างๆ อยู่ในเว็บไซต์ที่ตนดูแลนั้น ก็เพราะมีเว็บไซต์ลามกไม่ต่ำกว่า 10 แห่งเข้ามาใช้เว็บไซต์ของตนเป็นช่องทางเผยแพร่ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ กระทู้ข้อความ หรือทำลิงก์ไว้ เมื่อตนกับผู้แลคนอื่นๆ ทราบก็พยายามลบกระทู้ต่างๆ ทิ้ง แต่ก็ทำไม่ทันเพราะแต่ละวันมีผู้เข้าชม และมีกระทู้ในเว็บไซต์เป็นหลักหมื่น
นายบุญญฤทธิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่คดีตนเสร็จสิ้นแล้ว ตนจะปรับปรุงระบบคัดกรองกระทู้ต่างๆ ก่อนจะนำออกเผยแพร่ขึ้นทางหน้าเว็บไซต์ และจะให้ข้อมูลเว็บไซต์ลามกที่เข้ามาใช้เว็บไซต์ตนเป็นช่องทางเผยแพร่ให้กับตำรวจเพื่อจะได้ขยายผลในการดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมอบนโยบายในการป้องกันปราบปรามสื่อลามกอนาจารทุกรูปแบบอย่างจริงจัง จึงขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตตรวจสอบเว็บไซต์ของตัวเอง หากตรวจสอบพบการกระทำผิดตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมาย รวมทั้งจะขยายผลไปยังบุคคลที่โพสต์ข้อมูลที่ผิดกฎหมายด้วย
ขณะที่ นายวินัย กล่าวว่า หลังจากมีกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์บังคับใช้นั้นทาง ไอซีที ได้มีมาตรการป้องกันและปราบปรามอย่างต่อเนื่อง ทั้งการตั้งศูนย์เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และประสานตำรวจ โดยเฉพาะ บก.ปดส.ในการปราบปรามอย่างจริงจัง สำหรับเว็บไซต์ลามกอนาจารที่จดทะเบียนในประเทศนั้นตรวจสอบ พบว่า ขณะนี้มีมากถึง 200-300 แห่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ทำได้แต่สกัดกั้นเนื่องจากยังไม่มีกฎหมายรองรับ แต่หลังจากที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องบังคับใช้แล้วก็เชื่อว่าในการป้องกันและปราบปรามจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ภายหลังแถลงข่าวตำรวจควบคุมตัว นายบุญญฤทธิ์ ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปดส.ดำเนินคดีข้อหา ยินยอมให้มีการนำข้อมูลลามกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ซึ่งประชาชนเข้าถึงได้ และเพื่อประสงค์แห่งการค้า แจกจ่าย ทำให้แพร่หลายซึ่งภาพลามก ตามมาตรา 15 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 287(1) ประมวลกฎหมายอาญา ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ บก.ปดส.เมื่อเวลา 11.00 น.พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบช.ก.พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส.พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.ฝป.10 บก.ปดส.และ พ.ต.ท.ปัญญา ชะเอมเทศ สว.ฝป.10 บก.ปดส.ร่วมกับ นายวินัย อยู่สบาย ผอ.สำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที แถลงข่าวจับกุม นายบุญญฤทธิ์ อรุณทรัพย์ อายุ 25 ปี เว็บมาสเตอร์ของเว็บไซต์ www.nisitgirl.com พร้อมของกลาง เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 7 เครื่อง โดยจับกุมได้ บริเวณชั้น 13 อาคาร กสท บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ถนนเจริญกรุง แขวงและเขตบางรัก กทม.เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจค้นบริเวณชั้น 14 อาคารเดียวกัน และยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 14 เครื่อง มาตรวจสอบ หลังสืบทราบว่ามีการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการโหลดและถ่ายข้อมูลลามกอนาจาร หรือที่เรียกว่า สังคมแชร์ไฟล์ หรือ บิททอเรนท์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไอซีทีจะได้ขยายผลตรวจสอบว่าแต่ละเครื่องมีผู้ใดเป็นเจ้าของ และมีการถ่ายโอนข้อมูลที่ผิดกฎหมายหรือไม่ หากพบการกระทำผิดก็จะประสานตำรวจ ปดส.จับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า ได้รับนโยบายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ บช.ก.ปราบปรามสื่อลามกตามเว็บไซต์ต่างๆ อย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาการเผยแพร่ภาพไม่เหมาะสมลงบนอินเทอร์เน็ตได้สร้างความเสียหายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของภาพถ่ายและผู้ใกล้ชิด และก่อให้เกิดความเสียหายต่อเด็กและเยาวชนที่เข้าไปดู นอกจากนี้ ยังมีการนำภาพลามกอนาจารเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ทางการค้า นอกจากนี้ อยากฝากไปยังผู้ประกอบการอินเตอร์เน็ตให้ตรวจสอบเว็บไซต์ที่อยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดอย่าให้มีคนนำภาพไม่เหมาะสมเข้าไปโพสต์
สอบสวน นายบุญญฤทธิ์ รับว่า เปิดเว็บไซต์ไว้ให้ผู้สนใจโพสต์กระทู้ความคิดเห็นทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการเผยแพร่ข้อมูลลามกอนาจาร แต่ที่มีข้อมูลลามกอนาจารในรูปแบบต่างๆ อยู่ในเว็บไซต์ที่ตนดูแลนั้น ก็เพราะมีเว็บไซต์ลามกไม่ต่ำกว่า 10 แห่งเข้ามาใช้เว็บไซต์ของตนเป็นช่องทางเผยแพร่ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ กระทู้ข้อความ หรือทำลิงก์ไว้ เมื่อตนกับผู้แลคนอื่นๆ ทราบก็พยายามลบกระทู้ต่างๆ ทิ้ง แต่ก็ทำไม่ทันเพราะแต่ละวันมีผู้เข้าชม และมีกระทู้ในเว็บไซต์เป็นหลักหมื่น
นายบุญญฤทธิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่คดีตนเสร็จสิ้นแล้ว ตนจะปรับปรุงระบบคัดกรองกระทู้ต่างๆ ก่อนจะนำออกเผยแพร่ขึ้นทางหน้าเว็บไซต์ และจะให้ข้อมูลเว็บไซต์ลามกที่เข้ามาใช้เว็บไซต์ตนเป็นช่องทางเผยแพร่ให้กับตำรวจเพื่อจะได้ขยายผลในการดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมอบนโยบายในการป้องกันปราบปรามสื่อลามกอนาจารทุกรูปแบบอย่างจริงจัง จึงขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตตรวจสอบเว็บไซต์ของตัวเอง หากตรวจสอบพบการกระทำผิดตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมาย รวมทั้งจะขยายผลไปยังบุคคลที่โพสต์ข้อมูลที่ผิดกฎหมายด้วย
ขณะที่ นายวินัย กล่าวว่า หลังจากมีกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์บังคับใช้นั้นทาง ไอซีที ได้มีมาตรการป้องกันและปราบปรามอย่างต่อเนื่อง ทั้งการตั้งศูนย์เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และประสานตำรวจ โดยเฉพาะ บก.ปดส.ในการปราบปรามอย่างจริงจัง สำหรับเว็บไซต์ลามกอนาจารที่จดทะเบียนในประเทศนั้นตรวจสอบ พบว่า ขณะนี้มีมากถึง 200-300 แห่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ทำได้แต่สกัดกั้นเนื่องจากยังไม่มีกฎหมายรองรับ แต่หลังจากที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องบังคับใช้แล้วก็เชื่อว่าในการป้องกันและปราบปรามจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ภายหลังแถลงข่าวตำรวจควบคุมตัว นายบุญญฤทธิ์ ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปดส.ดำเนินคดีข้อหา ยินยอมให้มีการนำข้อมูลลามกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ซึ่งประชาชนเข้าถึงได้ และเพื่อประสงค์แห่งการค้า แจกจ่าย ทำให้แพร่หลายซึ่งภาพลามก ตามมาตรา 15 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 287(1) ประมวลกฎหมายอาญา ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ