ศาลแพ่งเป็นตัวกลางเจรจา “บจก.หมิงเหยิง” ผู้ผลิตไวน์ ฟ้อง “10 ผู้บริหารบินไทย” สั่งยกเลิกสัญญาซื้อไวน์ เสียหายกว่า 35 ล้าน การบินไทยยกสัญญาเอกชนมีค่าปรับร่วม 12 ล้าน ส่งสินค้าล่าช้า คุณภาพผิดสเปก ทนายจำเลย เผย ตกลงได้เคลียร์สัญญาจบแล้ว 8 จาก 12 สัญญา ส่วนที่เหลือรอเจรจาอีกครั้ง 20 มิ.ย.นี้
วันนี้ (6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 909 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์นัดพร้อมคู่ความ คดีหมายเลขดำ อ.3143/2550 ที่บริษัท หมิงเหยิง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยนางอำไพพรรณ พันธุ์คงชื่น ผู้ผลิตไวน์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง เรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ธุรกิจการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), นางงามนิตย์ สมบัติพิบูลย์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการเงินและการบัญชี, นายวัลลภ พุกกะณะสุต รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายการพาณิชย์, ร.อ.อ.ประสาท ขุนอินทร์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ, ร.อ.ท.นรหัช พลอยใหญ่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายรักษามาตรฐานและบริหารทั่วไป, ร.อ.ท.ชินวุฒิ นเรศเสนีย์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริการลูกค้า, นายกวิน อัศวฉัตรโรจน์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริหารงานสนับสนุนการบริการบนเครื่องบิน, นายพรชัย เสรีพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริหารทั่วไป,ร.อ.อ.ประวิทย์ ชินวัตร รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และนายสมชาย วัฒนะพยุงกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานจัดซื้อ พัสดุบริการบนเครื่องบิน เป็นจำเลยที่ 1-10 ในความผิดฐานกระทำผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11
โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 30 ส.ค.2550 สรุปว่าเมื่อปี พ.ศ.2548-2550 จำเลยที่ 1 เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ธุรกิจการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด จำเลยทั้งสิบได้ร่วมกันดำเนินการออกใบสั่งซื้อไวน์ของโจทก์ที่ได้รับคัดเลือกตามประกาศผลการคัดเลือก โดยเจตนาปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อหาเหตุยกเลิกการสั่งซื้อไวน์ของโจทก์ที่ได้รับการคัดเลือกมาโดยชอบด้วยประกาศฝ่ายจัดซื้อ โดยมีเจตนาทุจริต ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายไม่อาจขายไวน์ได้คิดเป็นเงินไม่น้อยกว่า 765,600 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 35,217,600 บาท เหตุเกิดที่แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.ขอให้ลงโทษตามกฎหมาย
ศาลนัดพร้อมวันนี้เพื่อให้คู่ความทั้งสองเจรจาตกลงกัน ซึ่งศาลสอบถามคู่ความทั้งสองฝ่ายแล้ว แถลงร่วมกันว่า ที่ผ่านมา บริษัทมีสัญญาที่ทำร่วมกันในการสั่งซื้อไวน์ รวม 12 สัญญา โดยเมื่อมีการบอกเลิกสัญญาแล้ว โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยในคดีอาญา รวม 5 สำนวน และคดีแพ่ง 2 สำนวน แต่อย่างไรก็ดี ทนายความจำเลย แถลงด้วยว่า หากมีการเจรจาตกลงกัน ต้องการให้พิจารณาถึงเหตุแห่งข้อพิพาทนี้ด้วยว่า เมื่อมีการทำสัญญาแล้วมีส่วนที่โจทก์ส่งสินค้าล่าช้า และกรณีคุณภาพสินค้าไม่ตรงกับเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ จนจำเลยต้องสั่งปรับ ซึ่งระหว่างโจทก์-จำเลย ยังมีเรื่องค่าปรับที่ต้องพิจารณานอกเหนือจากค่าเสียหายที่โจทก์ยกขึ้นมาเป็นข้อพิพาทนี้ด้วย ซึ่งทนายความจำเลยได้ ส่งเอกสารสรุปการทำสัญญาและการเรียกชำระค่าปรับมูลค่าประมาณ 12 ล้านบาทให้ศาลพิจารณาด้วย