THL พร้อมตีความกรณีเข้าซื้อหุ้น สกายคลิฟ์ฟ ที่โจทย์ฟ้องร้อง ไม่ผิดเงื่อนไขการร่วมทุนตามที่ถูกฟ้องแต่อย่างใด ขณะที่ศาลได้นัดชี้สองสถานและกำหนดแนวทางการดำเนินคดี 21 ก.ค.นี้ เพื่อกำหนดหัวข้อพิพาท และแต่งตั้งกรรมการใหม่แทนคนเก่า และให้ "กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ" เป็นกรรมการผู้จัดการ "ทุ่งคำ"
นายจอห์น ปีเตอร์ มิลล์ส กรรมการบริหาร บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน)(THL ) แจ้งว่าตามติที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 5/2551 เมื่อ 2 มิถุนายน 51 แจ้งว่าบอร์ดมีมติตามคำแนะนำของคณะกรรมการสรรหาให้สมควรแต่งตั้ง นายแพทย์จอห์น ยังพิชิต ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารแทนนายสมศักดิ์ ร่วมคิด ที่ได้ลาออกเมื่อ 2 มิถุนายน 51 พร้อมอนุมัติการลาออกของนายสมศักดิ์ ร่วมคิด กรรมการบริหาร โดยมีผลตั้งแต่ 2 มิถุนายน 51 และแต่งตั้งพลเอกกิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ของ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ทั้งนี้ตั้งแต่เมื่อ 1 เมษายน 51
นอกจากนี้ บอร์ดยังรับทราบคดีความทางกฏหมายเรื่องซื้อขายสิทธิและผลประโยชน์ของหุ้น 25 % ของหุ้นทั้งหมด ในบริษัท สกายคลิฟ์ฟ จำกัด ระหว่างนายไต้ ชอง ยี และบริษัทสินธนา โฮลดิงส์ จำกัด
โดยเป็นผลจาก เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 51 นายไต้ ชอง ยี ในฐานะโจทก์ ได้ยื่นคำฟ้องบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด(มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1 บริษัท สกายคลิฟฟ์ จำกัด เป็นจำเลยที่ 2 บริษัท สินธนา โฮลดิงส์ จำกัดเป็นจำเลยที่ 3 นายโรนัลด์ อึ้งวาย ชอย เป็นจำเลยที่ 4 นายจอห์น ปีเตอร์ มิลล์ส เป็นจำเลยที่ 5 และนางสาวมณฑา คงคำ เป็นจำเลยที่ 6 ในข้อหาผิดสัญญาร่วมทุนโจทก์ได้ยื่นขอต่อศาลเรียกร้องให้จำเลยทั้งหก ร่วมกันชำระค่าเสียหาย ดังต่อไปนี้
1. ให้คืนเงินค่าหุ้น 36,500,000 บาท พร้อมกับดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับจากวันที่ได้รับชำระจนถึงวันที่ยื่นคำฟ้องเท่ากับ 2,541,623.03 บาท รวมแล้วเป็น 39,041,623.03 บาทและดอกเบี้ยร้อยละ7.5 ต่อปีนับจากวันที่โจทก์ยื่นคำฟ้องจนชำระเสร็จ
2. ให้ชำระค่าเสียหายซึ่งเป็นค่าขาดประโยชน์ 260,358,000 บาท และดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันที่โจทก์ยื่นคำฟ้องจนกระทั่งชำระเสร็จ
3. ชำระค่าเสียหายซึ่งทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงจากการบอกเลิกสัญญาร่วมทุน 50,000,000 บาทและดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันที่โจทก์ยื่นคำฟ้องจนกระทั่งชำระเสร็จ รวมค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องทั้งหมด เป็นเงินทั้งสิ้น 349,399,623.03 บาท
ศาลได้นัดชี้สองสถานและกำหนดแนวทางการดำเนินคดีในวันที่ 21 กรกฏาคม 51 เพื่อกำหนดหัวข้อพิพาทและหน้าที่การนำสืบของทั้งสองฝ่ายและในวันนัดพิจารณา ศาลจะพยายามไกล่เกลี่ยคู่กรณีทั้งสองฝ่าย หากคู่กรณีไม่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ ศาลจะกำหนดข้อพิพาทและหน้าที่นำสืบของคู่กรณีแต่ละฝ่าย หลังจากนั้น จะจัดตารางการรับฟังการพิจารณาสำหรับการนำสืบพยานของแต่ละฝ่าย
อย่างไรก็ตาม มีความเห็นทางกฎหมายโดยึดหลักจากข้อเท็จจริง มีข้อโต้แย้งว่าจำเลยทั้ง 6 ไม่ได้ทำผิดสัญญาร่วมทุน เพราะข้อเท็จจริงโจทก์เป็นผู้ทำผิดสัญญา ดังนั้นจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดหรือมีหน้าที่ที่จะต้องชำระค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้อง และจำเลยที่ 1 ไม่เคยได้รับชำระใด ๆ และอื่น ๆ ซึ่งไม่เป็นการกระทำในเชิงผิดสัญญาร่วมทุน
นายจอห์น ปีเตอร์ มิลล์ส กรรมการบริหาร บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน)(THL ) แจ้งว่าตามติที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 5/2551 เมื่อ 2 มิถุนายน 51 แจ้งว่าบอร์ดมีมติตามคำแนะนำของคณะกรรมการสรรหาให้สมควรแต่งตั้ง นายแพทย์จอห์น ยังพิชิต ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารแทนนายสมศักดิ์ ร่วมคิด ที่ได้ลาออกเมื่อ 2 มิถุนายน 51 พร้อมอนุมัติการลาออกของนายสมศักดิ์ ร่วมคิด กรรมการบริหาร โดยมีผลตั้งแต่ 2 มิถุนายน 51 และแต่งตั้งพลเอกกิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ของ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ทั้งนี้ตั้งแต่เมื่อ 1 เมษายน 51
นอกจากนี้ บอร์ดยังรับทราบคดีความทางกฏหมายเรื่องซื้อขายสิทธิและผลประโยชน์ของหุ้น 25 % ของหุ้นทั้งหมด ในบริษัท สกายคลิฟ์ฟ จำกัด ระหว่างนายไต้ ชอง ยี และบริษัทสินธนา โฮลดิงส์ จำกัด
โดยเป็นผลจาก เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 51 นายไต้ ชอง ยี ในฐานะโจทก์ ได้ยื่นคำฟ้องบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด(มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1 บริษัท สกายคลิฟฟ์ จำกัด เป็นจำเลยที่ 2 บริษัท สินธนา โฮลดิงส์ จำกัดเป็นจำเลยที่ 3 นายโรนัลด์ อึ้งวาย ชอย เป็นจำเลยที่ 4 นายจอห์น ปีเตอร์ มิลล์ส เป็นจำเลยที่ 5 และนางสาวมณฑา คงคำ เป็นจำเลยที่ 6 ในข้อหาผิดสัญญาร่วมทุนโจทก์ได้ยื่นขอต่อศาลเรียกร้องให้จำเลยทั้งหก ร่วมกันชำระค่าเสียหาย ดังต่อไปนี้
1. ให้คืนเงินค่าหุ้น 36,500,000 บาท พร้อมกับดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับจากวันที่ได้รับชำระจนถึงวันที่ยื่นคำฟ้องเท่ากับ 2,541,623.03 บาท รวมแล้วเป็น 39,041,623.03 บาทและดอกเบี้ยร้อยละ7.5 ต่อปีนับจากวันที่โจทก์ยื่นคำฟ้องจนชำระเสร็จ
2. ให้ชำระค่าเสียหายซึ่งเป็นค่าขาดประโยชน์ 260,358,000 บาท และดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันที่โจทก์ยื่นคำฟ้องจนกระทั่งชำระเสร็จ
3. ชำระค่าเสียหายซึ่งทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงจากการบอกเลิกสัญญาร่วมทุน 50,000,000 บาทและดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันที่โจทก์ยื่นคำฟ้องจนกระทั่งชำระเสร็จ รวมค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องทั้งหมด เป็นเงินทั้งสิ้น 349,399,623.03 บาท
ศาลได้นัดชี้สองสถานและกำหนดแนวทางการดำเนินคดีในวันที่ 21 กรกฏาคม 51 เพื่อกำหนดหัวข้อพิพาทและหน้าที่การนำสืบของทั้งสองฝ่ายและในวันนัดพิจารณา ศาลจะพยายามไกล่เกลี่ยคู่กรณีทั้งสองฝ่าย หากคู่กรณีไม่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ ศาลจะกำหนดข้อพิพาทและหน้าที่นำสืบของคู่กรณีแต่ละฝ่าย หลังจากนั้น จะจัดตารางการรับฟังการพิจารณาสำหรับการนำสืบพยานของแต่ละฝ่าย
อย่างไรก็ตาม มีความเห็นทางกฎหมายโดยึดหลักจากข้อเท็จจริง มีข้อโต้แย้งว่าจำเลยทั้ง 6 ไม่ได้ทำผิดสัญญาร่วมทุน เพราะข้อเท็จจริงโจทก์เป็นผู้ทำผิดสัญญา ดังนั้นจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดหรือมีหน้าที่ที่จะต้องชำระค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้อง และจำเลยที่ 1 ไม่เคยได้รับชำระใด ๆ และอื่น ๆ ซึ่งไม่เป็นการกระทำในเชิงผิดสัญญาร่วมทุน