xs
xsm
sm
md
lg

ประหารชีวิต!! อดีตพนักงานไฟฟ้าแม่เมาะค้ายาบ้า

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
อุทธรณ์ยืนประหารชีวิต “อดีตพนักงานโรงไฟฟ้าแม่เมาะ” ค้ายาบ้ากว่าแสนเม็ด 1.2 ล้านบาท ศาลชี้พฤติการณ์ชัดเจน


วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 902 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวินัย อนุรักษ์ธรรมดี อายุ 31 ปี อดีตพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประจำโรงไฟฟ้า อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, นางนงนุช อนุรักษ์ธรรมดี อายุ 53 ปี มารดานายวินัย และนางชายามล สนิทแสง อายุ 46 ปี ทั้งหมดเป็นชาวจังหวัดลำปาง เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐาน มีแมทเอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ความผิดพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102 และฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา 138

โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 26 ส.ค.48 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค.48 เวลาประมาณ 08.45 น. จำเลยทั้งสามได้มียาบ้าจำนวน 60 มัด รวม 120,000 เม็ด ราคา 1.2 ล้านบาท ไว้ในครอบครอง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.ท.ประสงค์ อามมณี กก.5 บก.สส.ปช.ปส. กับพวก รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดนำยาบ้ามาส่งให้กับลูกค้าบริเวณอนุสรณ์สถาน ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. โดยรถกระบะ ทะเบียน บบ-4101 ลำปาง เมื่อเจ้าหน้าที่คอยสังเกตการณ์และเมื่อรถต้องสงสัยมาถึงจึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคนขับได้ขับรถกระบะชนรถของเจ้าหน้าที่เพื่อแหวกทางหลบหนีจนได้รับความเสียหาย ก่อนจะขับรถย้อนขึ้นบนทางยกระดับ ดอนเมืองโทลล์เวย์ เจ้าหน้าที่จึงได้ยิงสกัดที่ยางรถด้านหน้าขวาแตก แต่จำเลยที่ 1 ยังคงขับรถหลบหนี ระหว่างนั้นจำเลยที่ 2 ได้โยนถุงพลาสติกที่บรรจุยาบ้า 30 มัด จำนวน 60,000 เม็ด ในที่สุดเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจำกุมได้บริเวณ หน้าอาคารฝ่ายโภชนาการ บริษัท การบินไทยฯ ก่อนจะตามไปตรวจยึดยาบ้าที่อยู่ภายในรถอีกจำนวน 30 มัด รวม 60,000 เม็ด

คดีนี้จำเลยที่ 1 และ 3 ให้การปฏิเสธ ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ และศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1 และ 3 ส่วนจำเลยที่ 2 ระหว่างการพิจารณาคดีได้เสียชีวิตลง ศาลจำมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 ต่อมาจำเลยที่ 1 และ 3 ยื่นอุทธรณ์อ้างว่ายาบ้าของกลางเป็นของจำเลยที่ 2 เพียงคนเดียว

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า เจ้าพนักงานตำรวจมีการประชุมวางแผนการจับกุมอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ จำเลยมีพฤติการณ์ส่อพิรุธอย่างยิ่ง หากบริสุทธิ์ใจควรให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น โดยไม่คิดจะหลบหนี ทั้งจำเลยที่ 1 ยังถอยรถชนเจ้าหน้าที่เพื่อหลบหนี และในช่วงขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวัน เจ้าหน้าที่ย่อมเห็นเหตุการณ์อย่างชัดเจน ไม่มีเหตุระแวงสงสัยว่าจะเบิกความกลั่นแกล้งให้จำเลยที่ 1 และ 3 ต้องได้รับโทษอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และ 3 ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นชอบแล้ว พิพากษายืนประหารชีวิต
กำลังโหลดความคิดเห็น