ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุกตลอดชีวิตหนุ่มใหญ่ส่งยาบ้าเกือบแสนเม็ดให้เอเยนต์ในปั๊มน้ำมัน จำเลยยื่นฎีกาขอลดโทษ ศาลประชุมเห็นพ้องไม่เปลี่ยนแปลงกำหนดโทษ ชี้เป็นมหันตภัยต่อมวลมนุษยชาติ
วันนี้ (10 เม.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลมีคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวิมล หรือ มล เกตุเทียน อายุ 38 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 19 ม.ค.2549 ระบุความผิดสรุปจำเลยว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2548 เวลาประมาณ 18.00 น.จำเลยได้บังอาจมียาบ้าชนิดกลมแบนสีส้ม และสีเขียว จำนวน 50 มัด รวม 94,800 เม็ด ห่อด้วยกระดาษสาซุกซ่อนในถุงพลาสติกสีฟ้า พันด้วยพลาสติกและเทปกาว ก่อนถูก พ.ต.ต.นนทวรรธน์ อัมรานนท์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.พร้อมกำลัง เข้าตรวจค้นจับกุมได้เพื่อเตรียมส่งให้เอเยนต์ภายในปั๊มน้ำมันบางจาก ต.บางหว้า อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 3780 อ่างทอง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จำเลยให้การรับสารภาพโดยตลอด ไม่ต่อสู้คดี
คดีนี้ทั้งศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลย คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลงโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต ริบของกลาง จำเลยยื่นฎีกาขอให้ศาลฎีกาลงโทษสถานเบาด้วยเนื่องจากให้การรับสารภาพ
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า การที่จำเลยมีของกลางจำนวนมากไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งตามสภาพและลักษณะแห่งการกระทำผิดนับเป็นมหันตภัยต่อมวลมนุษยชาติ สามารถทำลายทรัพยากรมนุษย์ บั่นทอนความสงบสุขของสังคม และเศรษฐกิจของชาติสุดคณานับ ที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยมานั้นเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดี และนับเป็นคุณแก่จำเลยมากแล้ว ศาลฎีกาจึงไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลล่างทั้งสองได้ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน