ศาลอุทธรณ์ยกคำร้อง “อดีตเณรแอ” ขอประกันตัวคดีฉ้อโกงประชาชน หลังศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 20 ปี ชี้คดีมีโทษสูง เชื่อหากปล่อยตัวแล้วจะหลบหนี ด้านเจ้าตัวยังยิ้มระรื่นไม่สะทกสะท้าน ทักทายสื่ออย่างอารมณ์ดี พร้อมกล่าว “เชิญถ่ายรูปตามสบายเลย” แม้ถูกส่งตัวกลับเข้าเรือนจำ
วันนี้ (21 พ.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 609 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่นายหาญ รักษาจิตร์ หรืออดีตเณรแอ อายุ 48 ปี จำเลย ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำคุก 20 ปี ที่ได้ยื่นขอประกันตัวต่อศาลอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.51 ที่ผ่านมา
ศาลอุทธรณ์พิจารณาคำร้อง ประกอบคำพิพากษาชั้นต้น เห็นว่าจำเลยยื่นคำร้องขอประกันตัวชั่วคราว แต่เมื่อพิจารณาโทษที่ชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำคุกจำเลยไว้ 20 ปี เห็นว่ามีอัตราโทษสูง หากได้รับประกันตัวไป น่าเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี จึงเห็นควรให้ยกคำร้องแล้วให้แจ้งผลไม่อนุญาตให้ประกันตัวให้จำเลยทราบโดยเร็ว
ภายหลังศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ประกันตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เข้าควบคุมตัวอดีตเณรแอกลับไปควบคุมขังไว้ที่เรือนจำกลางคลองเปรมเช่นเดิม โดยนายหาญ อดีตเณรแอยังมีสีหน้ายิ้มแย้ม ทักทายกับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “เชิญถ่ายรูปตามสบายเลย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีฉ้อโกงประชาชนดังกล่าว อัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องว่า ระหว่างเดือน เม.ย.42 - 10 ก.ค.48 นายหาญหลอกลวงผู้เสียหายจำนวน 33 คน ว่านายหาญ เป็นอดีตเณรแอ จอมขมังเวท เป็นหมอผี มีเวทมนต์คาถา มนต์ดำ ไสยศาสตร์ เลี้ยงผี และมีความสามารถทำคุณไสย เสน่ห์ ฝังรูปฝังลอย ลงนะหน้าทอง ทำให้เกิดพลังเมตตามหานิยมให้คนรักคนหลง การงานสำเร็จ ค้าขายดี ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อเดินทางไปพบเพื่อทำพิธีกรรม หลอกลวงจนผู้เสียหายหลงเชื่อและได้มอบทรัพย์สินเงินสด รวมจำนวนทั้งสิ้น 910,000 บาท โดยเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.49 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุกกระทงละ 4 ปี รวม 25 กระทง รวมโทษจำคุก 100 ปี แต่คำให้การของจำเลยในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี จึงลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุก 75 ปี แต่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 (2) ให้รวมกระทงลงโทษในคดีที่มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 5 ปี ซึ่งจำคุกได้ไม่เกิน 20 ปี ดังนั้น จึงให้จำคุกจำเลยไว้เป็นเวลา 20 ปี ริบของกลางเครื่องประกอบพิธีกรรมต่างๆ พร้อมกับให้ชำระเงินคืนให้แก่ผู้เสียหายด้วย
ศาลยังไม่ยึดทรัพย์เณรแอ เหตุคดียังไม่สิ้นสุด
“จอมขมังเวทแอ” ค้านยึดทรัพย์ อ้างได้มาจากค่าครู