ตร.บุกรวบดีเจวิทยุชุมชนเมืองคอนฐานส่งสัญญาณรบกวนวิทยุการบิน

นครศรีธรรมราช – เจ้าหน้าที่บุกสถานีวิทยุชุมชน รวบดีเจและช่างเทคนิค ฐานฟุ้งสัญญาณรบกวนวิทยุการบิน เผยเคยสั่งปรับปรุงแล้วแต่ทำเมิน

เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (3 มิ.ย.) นายชัยณรงค์ แพรกปาน พนักงานปฏิบัติการระดับสูง สถานีตรวจสอบการใช้ความถี่วิทยุนครศรีธรรมราช ได้ร่วมกับศูนย์ตรวจสอบการใช้ความถี่วิทยุเขต 4 สงขลา และ พ.ต.ต.สุทัศน์ สงสยม สว.กลุ่มงานสืบสวน ภ.นครศรีธรรมราช นำหมายศาลจังหวัดปากพนังไปตรวจสอบสถานีวิทยุชุมชน ชื่อ “สถานีวิเศษสุข" คลื่นเอฟเอ็ม 93.75 เมกะเฮิรดซ์ อยู่เลขที่ 279 ม.1 ต.บางพระ อ.ปากพนัง ในข้อหา “จงใจทำให้เกิดการรบกวนและขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน มีให้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาต และตั้งสถานีคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ทั้งนี้ ทางศูนย์เฝ้าฟังความถี่ ได้รับการร้องเรียนมาว่า คลื่นวิทยุชุมชนดังกล่าวนั้นไปรบกวนข่ายสื่อสารวิทยุการบิน และหลังจากรับการร้องเรียนแล้วทางเจ้าหน้าที่ก็ออกตรวจสอบและส่งหนังสือให้เจ้าของคลื่นวิทยุรับทราบเพื่อปรับปรุงมาแล้วหลายครั้งแต่ไม่มีการดำเนินการปรับปรุงแต่อย่างใด จึงเข้าทำการจับกุมดำเนินคดี

โดยขณะเข้าทำการจับกุมมีดีเจของคลื่นจัดรายการ “ลูกทุ่งลุงขามหวาน” โดยดีเจ “ลุงขามหวาน” หรือ นายสมคิด บรรจุสุวรรณ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/1 ม.1 ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง นครศรีธรรมราช กำลังจัดรายการอยู่ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ และทำการควบคุมตัวนายสมคิด ดีเจ พร้อมกับ นายกิตตินันต์ จีนดำ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154 ถ.ชายน้ำ ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ช่างเทคนิค มาสอบปากคำ พร้อมตรวจยึดของกลางอุปกรณ์เครื่องส่ง เครื่องคอมพิวเตอร์ มิกซ์เสียง รวมทั้งอื่นๆ อีกหลายรายการ

ทั้งนี้ จากการสอบปากคำ นายสมคิด และ นายกิตตินันต์ ดีเจและช่างเทคนิคให้การว่า คลื่นความถี่วิทยุชุมชนดังกล่าวเป็นของ นายสุรศักดิ์ ยังวิเศษสุข ออกอากาศมาประมาณ 1 ปีเศษแล้ว ตนทั้งสองเป็นแค่นักจัดรายการและช่างเทคนิคโดยไม่ทราบว่าทางสถานีทำผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม นายชัยณรงค์ เพรกปาน พนักงานปฏิบัติการระดับสูง สถานีตรวจสอบการใช้ความถี่วิทยุนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า การเข้าจับกุมในครั้งนี้ได้รับการร้องเรียนจากหอบังคับการวิทยุการบินนครศรีธรรมราชว่าสถานีวิทยุชุมชนดังกล่าวมีการส่งคลื่นสัญญาณไปรวบกวนวิทยุการบิน จึงมีการตรวจสอบและส่งหนังสือให้ทางสถานีปรับปรุงแก้ไขมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่เดือนเมษายน 2551 ที่ผ่านมา

แต่ปรากฏว่า ทางเจ้าของสถานีวิทยุชุมชนแห่งนี้ไม่สนใจ และไม่มีการปรับปรุงแก้ไขแต่อย่างใด ทางศูนย์ตรวจสอบการใช้ความถี่วิทยุเขต 4 สงขลา จึงประสานมายังสถานีตรวจสอบการใช้ความถี่วิทยุนครศรีธรรมราช เพื่อเข้าทำการจับกุมในที่สุด

สำหรับการดำเนินคดีจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 เป็นโทษอาญา ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปี ซึ่งเป็นคดีอาญา โดยคลื่นดังกล่าวนี้ได้ตรวจสอบพบว่าไม่มีการดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หลังทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบโดยนำรถออกหาคลื่นดังกล่าวจนพบและทราบเป็นที่แน่ชัดจึงเข้าทำการจับกุมดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งเตือนการกระทำของวิทยุชุมชนต่างๆ นั้นต้องระวังการรบกวนอย่างเคร่งครัด และต้องระมัดระวังกันเองด้วย และในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราชนั้นมีความถี่ของคลื่นวิทยุชุมชนขณะนี้พบว่ามีเยอะขึ้นที่ไปรบกวนข่ายการบินรวมทั้งกิจการโทรคมนาคมอื่นๆ จึงขอให้ผู้ที่จัดตั้งสถานีวิทยุชุมชนระวัง และให้ความร่วมกับเจ้าหน้าที่ด้วย