ปชป. ตั้งกระทู้ไล่ "เจ๊เพ็ญ"ใช้สื่อรัฐคุกคามวิทยุชุมชน ขณะเดียวกันปิดกั้นข่าวสารฝ่ายตรงข้ามด้านเจ๊ลิ้นรัว ยันอุดช่องว่างระหว่างเทคโนโลยีและกฎหมาย ยอมรับตกเป็นเป้า เพราะมีพวกอิจฉาริษยา
วันนี้(15 พค) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธาน นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีถึงวิทยุชุมชนและสื่อท้องถิ่น ว่า รัฐบาลสกัดกั้นวิทยุชุมชนไม่ให้เติบโต เพราะกลัวว่าจะทำลายเสถียรภาพของรัฐบาล จึงให้กรมประชาสัมพันธ์เข้ามาดูแล ในช่วงยังไม่มีองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ทำให้วิทยุชุมชนถูกควบคุมกระดิกตัวไม่ได้ และยังโดนข้อหาไปรบกวนคลื่นวิทยุการบิน จึงสงสัยนโยบายรัฐบาลในการจัดการสื่อ เพราะมีการจับกุมวิทยุชุมชนตลอด และมีการแทรกแซงในการเสนอเนื้อหา โดยบังคับให้เสนอข่าวเกี่ยวกับรัฐบาล ซึ่งถือว่าขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 46 นอกจากนี้การจัดการสื่อภาครัฐ ยังขัดกับนโยบายรัฐบาลที่ระบุว่า จะสนับสนุนการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้านและเป็นธรรม เพราะมีการปิดกั้นการเสนอข้อมูลของฝ่ายค้าน และใช้สื่อของรัฐเสนอข่าวสารฝ่ายรัฐบาลเพียงด้านเดียว และยังมีการพูดว่าจะเข้าไปจัดการอะไรบางอย่างใน อสมท.เนื่องจากผลประกอบการไม่ตรงเป้า ไม่แน่ใจว่ามีวาระซ่อนเร้นอะไรหรือไม่
นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ปัญหาวิทยุชุมชนเกิดขึ้นเพราะยังไม่มีองค์กรมาจัดสรรคลื่นความถี่ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบัน ไม่ใช่มาเกิดเฉพาะรัฐบาลชุดนี้ ทั้งนี้รัฐบาลชุดนี้ ไม่ได้สนับสนุนให้เกิดวิทยุชุมชนจำนวนมาก แต่ที่เกิดขึ้นหลายพันสถานีเป็นนโยบายของรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งรัฐบาลชุดนี้พยายามวางระบบให้วิทยุชุมชนรับผิดชอบสังคมได้จริง ไม่ใช่มีธุรกิจเข้ามาแทรก ส่วนราชการไม่ได้ไปไปยุ่งกับวิทยุชุมชนเลย แต่ไปดูในส่วนกรมประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้วันนี้เทคโนโลยีไปเร็วกว่ากฎหมาย ซึ่งรัฐบาลพยายามถมช่องว่างระหว่างเทคโนโลยีกับกฎหมาย โดยให้กฎหมายตอบโจทย์ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริงก่อน การพัฒนาจะเกิดขึ้นเองตามกรอบกฎหมายและจรรยาบรรณโดยที่รัฐบาลไม่ต้องเข้าไปยุ่ง ส่วนสื่อของรัฐ ที่ฝ่ายค้านต้องการเวลาบ้าง ก็เป็นเรื่องที่จะพิจารณาต่อไป
นอกจากนี้นายอภิชาติ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การลงพื้นที่ติดตามงาน ขอให้ใช้ขบวนรถน้อยๆหน่อย เพราะชาวบ้านวิจารณ์ว่า นึกว่า นายกฯทักษิณ มา ทำให้นายจักรภพ กล่าวว่า มีเสียงแซวว่า ขบวนรถตรวจราชการของตนหรูหรา เรื่องนี้ไม่ได้แตกต่างอะไรจากการตรวจราชการทั่วไป ไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรจากตน เป็นเรื่องน้ำจิ้มสีสัน อาจทำให้คนหมั่นไส้บ้างและประเด็นการทำงานเบี่ยงไป แต่ตนก็ระวังตัวอยู่ตลอดเวลา
