พันธมิตรฯ เคราะห์ร้ายเผยเหตุระทึกหน้าแยก จปร. แก๊งมอเตอร์ไซค์เสื้อแดงนับร้อยคันเหิมเกริมระดมขว้างขวดเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมจนหัวร้างข้างแตกไปตามๆ กัน ไร้วี่แววตำรวจเข้าระงับเหตุ ด้าน รพ.วชิระ เผยมีผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะ 16 ราย อาการไม่สาหัส โดยบางส่วนแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว
วันนี้ (26 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสังเกตการณ์ที่โรงพยาบาลวชิระ เพื่อติดตามความคืบหน้าอาการผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และม็อบต้าน เบื้องต้นพยาบาลได้ระบุว่ามีผู้บาดเจ็บที่ถูกส่งตัวมาจำวน 16 ราย โดยยังไม่มีผู้บาดเจ็บสาหัส ซึ่งบางรายแพทย์ได้ทำแผลอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว
นายอรัญ ประมูลชัย อายุ 60 ปี หนึ่งในผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ซึ่งได้รับบาดเจ็บถูกทำร้ายที่ตาซ้าย ซึ่งแพทย์เย็บแผลและให้กลับบ้านได้แล้วนั้น เปิดเผยว่า ได้เดินทางมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตั้งแต่ 17.00 น. โดยเหตุผลที่ตัดสินใจมาร่วมเพราะต้องการมาต่อสู้กับระบอบทักษิณ และนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
นายอรัญ ยังได้เผยถึงนาทีม็อบถ่อยเข้าทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ในระหว่างที่เคลื่อนขบวนจากถนนราชดำเนินเพื่อมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล เมื่อมาถึงบริเวณแยก จปร. พบแก๊งจักรยานยนต์นับร้อยคันและใส่เสื้อสีแดงทุกคน ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นกลุ่มแก๊งบางเขนได้ใช้ขวดเครื่องดื่มชูกำลังขว้างปาใส่กลุ่มพันธมิตรฯ และบางส่วนได้รื้อแผงเหล็กกั้นริมถนนออกด้วย ทำให้ช่วงเวลานั้นเกิดเหตุปะทะกันจนได้รับบาดเจ็บไปทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าหลังจากรักษาอาการบาดเจ็บแล้วจะกลับมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ อีกแน่นอน
ด้าน นายจักรรินทร์ คันทิก อายุ 35 ปี หนึ่งในผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ระบุว่า ได้เดินทางมาร่วมชุมนุมตั้งแต่ช่วงเย็น ซึ่งได้ร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ตั้งแต่ครั้งที่สนามหลวงแล้ว ส่วนเหตุผลที่มาร่วมชุมนุมวันนี้เนื่องจากรู้สึกว่านับตั้งแต่มีรัฐบาลมาก็ยังไม่เห็นผลงานอะไรเลย ขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้น ข้าวของแพงขึ้น
นายจักรรินทร์ เล่าถึงช่วงนาทีชุลมุนด้วยว่า ตนเองถูกทำร้ายจากแก๊งมอเตอร์ไซค์บางเขนเช่นเดียวกัน ขณะกำลังเคลื่อนขบวนผ่านบริเวณแยก จปร. โดยได้รับบาดเจ็บที่ข้อศอกทั้งสองข้าง ถูกก้อนหินปาใส่ฟันทำให้ฟันหักไปหนึ่งซี่
ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุพบว่าตำรวจได้นำแผงเหล็กมากั้นระหว่างทางเดินไปยังทำเนียบรัฐบาล แต่มีพวกเดินเท้าตามมาอีกกลุ่มใหญ่ และกลุ่มเดินเท้าได้ขว้างปาหินเพื่อเปิดทางมาตลอด ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจหายไปหมดเลย ปล่อยให้พันธมิตรฯ ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ มีผู้อาการหนักถึงขั้นหมดสติ ซึ่งบางคนโดนท่อนไม้ตีเข้าที่หน้าจนเลือดอาบ ทราบว่าหลังมาถึง รพ.ก็ถูกย้ายตัวไปรักษาที่อื่น อย่างไรก็ตาม มีคนแนะนำให้ตนไปแจ้งความ แต่คิดว่าคงจะไม่มีประโยชน์อะไรและคงจะไม่มีอะไรคืบหน้า
วันนี้ (26 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสังเกตการณ์ที่โรงพยาบาลวชิระ เพื่อติดตามความคืบหน้าอาการผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และม็อบต้าน เบื้องต้นพยาบาลได้ระบุว่ามีผู้บาดเจ็บที่ถูกส่งตัวมาจำวน 16 ราย โดยยังไม่มีผู้บาดเจ็บสาหัส ซึ่งบางรายแพทย์ได้ทำแผลอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว
นายอรัญ ประมูลชัย อายุ 60 ปี หนึ่งในผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ซึ่งได้รับบาดเจ็บถูกทำร้ายที่ตาซ้าย ซึ่งแพทย์เย็บแผลและให้กลับบ้านได้แล้วนั้น เปิดเผยว่า ได้เดินทางมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตั้งแต่ 17.00 น. โดยเหตุผลที่ตัดสินใจมาร่วมเพราะต้องการมาต่อสู้กับระบอบทักษิณ และนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
นายอรัญ ยังได้เผยถึงนาทีม็อบถ่อยเข้าทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ในระหว่างที่เคลื่อนขบวนจากถนนราชดำเนินเพื่อมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล เมื่อมาถึงบริเวณแยก จปร. พบแก๊งจักรยานยนต์นับร้อยคันและใส่เสื้อสีแดงทุกคน ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นกลุ่มแก๊งบางเขนได้ใช้ขวดเครื่องดื่มชูกำลังขว้างปาใส่กลุ่มพันธมิตรฯ และบางส่วนได้รื้อแผงเหล็กกั้นริมถนนออกด้วย ทำให้ช่วงเวลานั้นเกิดเหตุปะทะกันจนได้รับบาดเจ็บไปทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าหลังจากรักษาอาการบาดเจ็บแล้วจะกลับมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ อีกแน่นอน
ด้าน นายจักรรินทร์ คันทิก อายุ 35 ปี หนึ่งในผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ระบุว่า ได้เดินทางมาร่วมชุมนุมตั้งแต่ช่วงเย็น ซึ่งได้ร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ตั้งแต่ครั้งที่สนามหลวงแล้ว ส่วนเหตุผลที่มาร่วมชุมนุมวันนี้เนื่องจากรู้สึกว่านับตั้งแต่มีรัฐบาลมาก็ยังไม่เห็นผลงานอะไรเลย ขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้น ข้าวของแพงขึ้น
นายจักรรินทร์ เล่าถึงช่วงนาทีชุลมุนด้วยว่า ตนเองถูกทำร้ายจากแก๊งมอเตอร์ไซค์บางเขนเช่นเดียวกัน ขณะกำลังเคลื่อนขบวนผ่านบริเวณแยก จปร. โดยได้รับบาดเจ็บที่ข้อศอกทั้งสองข้าง ถูกก้อนหินปาใส่ฟันทำให้ฟันหักไปหนึ่งซี่
ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุพบว่าตำรวจได้นำแผงเหล็กมากั้นระหว่างทางเดินไปยังทำเนียบรัฐบาล แต่มีพวกเดินเท้าตามมาอีกกลุ่มใหญ่ และกลุ่มเดินเท้าได้ขว้างปาหินเพื่อเปิดทางมาตลอด ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจหายไปหมดเลย ปล่อยให้พันธมิตรฯ ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ มีผู้อาการหนักถึงขั้นหมดสติ ซึ่งบางคนโดนท่อนไม้ตีเข้าที่หน้าจนเลือดอาบ ทราบว่าหลังมาถึง รพ.ก็ถูกย้ายตัวไปรักษาที่อื่น อย่างไรก็ตาม มีคนแนะนำให้ตนไปแจ้งความ แต่คิดว่าคงจะไม่มีประโยชน์อะไรและคงจะไม่มีอะไรคืบหน้า