“อัญชลี ไพรีรัก” โดดขึ้นเวทีพันมิตรฯ แฉนาทีวิกฤต 3 พิธีกร “เอเอสทีวี” ส่งท้ายขบวนพันธมิตรฯ โดนหมาหมู่เข้าลอบทำร้ายเฉียดตาย ทั้งโดนขว้างปา-รุมตีอย่างป่าเถื่อน เผยตะโกนร้องเรียกให้ตำรวจช่วยจนหมดเสียง แต่กลับยืนดูประชาชนโดนทำร้ายโดยไม่สนใจห้ามปราม ด้านหลานอดีตทูตสหรัฐฯ โดนลูกหลงบาดแผลฉกรรจ์เย็บถึง 9 เข็ม
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นางสาวอัญชลี ไพรีรัก เล่าเหตุการณ์
นางสาวอัญชลี ไพรีรัก พิธิกรเวทีพันธมิตรฯ กระโดดขึ้นเวทีแฉละเอียดยิบนาทีวิกฤตถูกม็อบถ่อยทำร้ายขณะอยู่ท้ายขบวน ช่วงที่มีการเคลื่อนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่มของวันที่ 25 พ.ค. โดยนางสาวอัญชลีกล่าวถึงสถานการณ์ขณะนั้นว่า ตนกำลังเก็บของอยู่กับนางสาวกมลพร วรกุล พิธีกรเอเอสทีวี และนายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที รวมน้องทีมงานอีก 1 คน โดยทั้งหมดได้ร่วมร้องเพลงปลุกใจไปด้วย แต่ทันใดนั้นก็มีสิ่งของจำนวนมาก ขว้างปาเข้ามาราวห่าฝน ทั้งก้อนหิน ขวด ไม้ ลูกกระสุนยาง และตัวนอต
นางสาวอัญชลี เปิดเผยว่า ขณะนั้นทั้ง 4 คนต่างพยายามหลบ โดยมีเสียงตะโกนมาไกลๆ บอกว่าให้ยกแขนขึ้นป้องกันไว้ ตอนนั้นน้องเก๋ (นางสาวกมลพร) ได้ถามว่าเมื่อไรจะหยุดเสียที โดยทั้งหมดตะโกนเรียกให้ตำรวจเข้ามาช่วย แต่ตำรวจเหล่านั้นกลับยืนเฉย และมองดูประชาชนโดนทำร้ายโดยมิได้ห้ามปราม ทั้งที่มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือและโดนรุมท้ำร้ายอย่างป่าเถื่อน
“เราถูกหมาหมู่รุมกัด ทุกคนส่งเสียงร้องโอ๊ยๆ ตลอดเวลา สักพักก็มีหินก้อนใหญ่ปลิวมาตรงหัวยุทธิยง พร้อมกับล้มลง เลือดอาบท่วมตัว หลังจากนั้นก็มีทีมงานเริ่มเข้ามาช่วยดันเข้าไปในรถซึ่งมีหลังคาผ้าใบ แต่ก็แออัดมาก โดยมีเสียงขว้างปายังหนาแน่นไม่ขาดสาย จนน้องเก๋กมลพรถามว่า เราจะรอดไปได้ไหมเนี่ย ขณะที่น้องอีกคนโดนปาอย่างจังที่ใบหน้าจนโหนกแก้มร้าว” นางสาวอัญชลี กล่าวและเพิ่มเติมว่า
ตอนนั้นเริ่มรู้สึกกันแล้วว่าพึ่งตำรวจไม่ได้แล้ว ก็เลยตะโกนเรียกทีม รปภ.ให้เข้ามารับ แต่ก็มีเสียงตะโกนกลับมาว่า รปภ.ท้ายขบวน ก็โดนฝ่ายตรงข้ามที่มีมากกว่าเข้ามารุมตีไม่ยั้ง พอดีมีมอเตอร์ไซค์กลุ่มหนึ่งโฉบเข้ามาช่วยเหลือทัน พร้อมกับบอกว่าเป็นฝ่ายเดียวกัน และได้นำตัวคนเจ็บ (ยุทธิยง) แยกย้ายไปโรงพยาบาล (วชิระ) ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด พร้อมกับนำตนเองและนางสาวกมลพร ไปยังเวทีพันธมิตรฯ
นางสาวอัญชลี ยังกล่าวอีกว่า หลังจากนั้นนายยุทธิยงได้โทรศัพท์เข้ามาบอกว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่โรงพยาบาลเพียงคนเดียว โดยไม่มีหมออยู่เวรเลย ตนเองจึงให้มอเตอร์ไซค์คันเดิมพาไปหานายยุทธิยง พร้อมกับพากันไปส่งที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งต่อมาพบว่าก้อนหินที่ปามาและตนเองได้เก็บไว้ เอามาชั่งน้ำหนักได้ถึง 2.3 กิโลกรัม แม้บาดแผลจะแตกแค่ประมาณ 2 ซม.กว่าๆ แต่เป็นแผลลึก อาการยังคงน่าเป็นห่วง
ส่วนน้องคนที่ถูกหินปาโหนกแก้มร้าว นางสาวอัญชลีทราบภายหลังว่าได้กลับไปทำงานต่อที่เอเอสทีวี ซึ่งได้เจอกันในช่วงหลังและได้สอบถามว่าทำไมยังทำงาน ไม่ไปหาหมอแล้วนอนพักบาดเจ็บ แต่น้องคนดังกล่าวบอกว่าเป็นหน้าที่ของวันสำคัญ เขาต้องการที่จะทำภารกิจให้เสร็จลุล่วงก่อน แต่ท้ายสุดก็ยอมไปพบแพทย์
**หลานอดีตทูต “กษิต” โดนลูกหลงเย็บ 9 เข็ม
นางสาวอัญชลี กล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุรุมทำร้ายท้ายขบวนฯ ได้รับแจ้งภายหลังว่า นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐอเมริกา และครอบครัว ก็โดนรุมทำร้าย โดยพบว่า นายพราย ภิรมย์ หลานนายกษิต ซึ่งทำงานกับกลุ่มกรีนพีซ ทำร้ายจนมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะต้องเย็บถึง 9 เข็ม และพบว่าทรัพย์สินหลายอย่าที่ติดตัวสูญหายขณะโดนรุมทำร้ายด้วย