“เสกสรร แสนภูมิ” หวั่นอันธพาลครองเมือง หลังผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ปล่อยให้คนดีถูกกุ้ยข้างถนนทำร้ายร่างกาย ชูการเมืองภาคประชาชนล้มระบอบทักษิณอีกรอบ เชื่อ “แม้ว” คนเดียวทำบ้านเมืองแตกแยก
นายเสกสรร แสนภูมิ อดีต ส.ส.สุรินทร์ ได้กล่าวบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อเวลา 00.10 น.ที่ผ่านมาว่า สถานการณ์เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่น่าหดหู่อย่างยิ่ง เมื่อท้ายขบวนกลุ่มพันธมิตรฯ ถูกพวกกุ้ย พวกอันธพาล วิ่งเข้ามารุมทำร้ายร่างกาย เจอทั้งหิน ขวด ปาเข้าใส่ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย
เป็นที่น่าสังเกตว่า แทนที่ตำรวจจะเข้าไปจับกุม หรือห้ามปรามพวกม็อบถ่อย กลับใช้ปืนยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่เข้าใจทำไมปล่อยให้ม็อบเข้าทำร้ายร่างกายคนบริสุทธิ์ ตำรวจรู้เห็นเป็นใจกับม็อบเหล่านั้นหรือไม่ ถึงไม่ทำอะไร
วันนี้ตำรวจต้องแยกให้ออก ใครคืออันธพาล ใครคือคนบริสุทธิ์ อย่าปล่อยให้อันธพาลครองเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ตำรวจต้องกล้าจับกุมผู้ที่กำลังกระทำความผิดซึ่งหน้า ไม่ใช่ยืนนิ่งปล่อยให้คนเหล่านั้นแสดงความป่าเถื่อนโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เราคงพึ่งพาตำรวจไม่ได้อีกแล้ว การเมืองภาคประชาชนเท่านั้นคือความหวังสุดท้ายของการเปลี่ยนแปลงที่จะนำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น
ขณะเดียวกัน นายเสกสรรยังแสดงความรู้สึกเสียใจที่คนไทยกำลังออกมาห่ำหันกันเอง ต้องมาเสียเลือดเสียเนื้อให้กับคนคนเดียว ที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เราควรร่วมแรงร่วมใจ ไม่ใช่ออกมาห่ำหันเอาเป็นเอาตายกันอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
“สมัยก่อนเราอยู่กันอย่างความสงบสุข แต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามา บ้านเมืองแตกแยกไปหมด พยายามอ้างทำเพื่อชาติ แต่ท้ายที่สุดก็ทำเพื่อตัวเองและพวกพ้อง โดยมีสมัครพรรคพวก อย่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย คอยสนับสนุนค้ำจุนทุนสามานย์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำมือ พ.ต.ท.ทักษิณ เติบโตจนสร้างความเสียหายให้กับสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์” นายเสกสรร กล่าว
นายเสกสรร ยังตำหนิการบริหารงานของรัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่หวังเพียงอย่างเดียว คือ เร่งตัดตอนกระบวนการยุติธรรม ครอบงำศาล หวังแก้ถูกให้เป็นผิด เพื่อคนคนหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้ยังพบกลุ่มฝ่ายซ้ายจำนวนหนึ่งกำลังวางกลยุทธ์ สถาปนาประชาธิปไตยสมัยใหม่ หวังเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยยกเลิกสถาบันพระมหากษัตริย์
คนเหล่านี้กำลังถูกควบคุมโดยคนบางคน ที่คอยครอบงำคุมฐานเสียง สร้างภาพให้ตัวเองเป็นวีรบุรุษ คนคนนี้จึงไม่ต่างอะไรไปจาก “ทรชนของประเทศ” เราไม่ควรอ่อนแอหรืออ่อนข้อให้กับอำนาจเหล่านี้ ต้องรู้ทันกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น อย่าหลงใหลกับสิ่งที่คนเหล่านั้นยื่นมาให้
นายเสกสรร แสนภูมิ อดีต ส.ส.สุรินทร์ ได้กล่าวบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อเวลา 00.10 น.ที่ผ่านมาว่า สถานการณ์เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่น่าหดหู่อย่างยิ่ง เมื่อท้ายขบวนกลุ่มพันธมิตรฯ ถูกพวกกุ้ย พวกอันธพาล วิ่งเข้ามารุมทำร้ายร่างกาย เจอทั้งหิน ขวด ปาเข้าใส่ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย
เป็นที่น่าสังเกตว่า แทนที่ตำรวจจะเข้าไปจับกุม หรือห้ามปรามพวกม็อบถ่อย กลับใช้ปืนยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่เข้าใจทำไมปล่อยให้ม็อบเข้าทำร้ายร่างกายคนบริสุทธิ์ ตำรวจรู้เห็นเป็นใจกับม็อบเหล่านั้นหรือไม่ ถึงไม่ทำอะไร
วันนี้ตำรวจต้องแยกให้ออก ใครคืออันธพาล ใครคือคนบริสุทธิ์ อย่าปล่อยให้อันธพาลครองเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ตำรวจต้องกล้าจับกุมผู้ที่กำลังกระทำความผิดซึ่งหน้า ไม่ใช่ยืนนิ่งปล่อยให้คนเหล่านั้นแสดงความป่าเถื่อนโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เราคงพึ่งพาตำรวจไม่ได้อีกแล้ว การเมืองภาคประชาชนเท่านั้นคือความหวังสุดท้ายของการเปลี่ยนแปลงที่จะนำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น
ขณะเดียวกัน นายเสกสรรยังแสดงความรู้สึกเสียใจที่คนไทยกำลังออกมาห่ำหันกันเอง ต้องมาเสียเลือดเสียเนื้อให้กับคนคนเดียว ที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เราควรร่วมแรงร่วมใจ ไม่ใช่ออกมาห่ำหันเอาเป็นเอาตายกันอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
“สมัยก่อนเราอยู่กันอย่างความสงบสุข แต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามา บ้านเมืองแตกแยกไปหมด พยายามอ้างทำเพื่อชาติ แต่ท้ายที่สุดก็ทำเพื่อตัวเองและพวกพ้อง โดยมีสมัครพรรคพวก อย่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย คอยสนับสนุนค้ำจุนทุนสามานย์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำมือ พ.ต.ท.ทักษิณ เติบโตจนสร้างความเสียหายให้กับสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์” นายเสกสรร กล่าว
นายเสกสรร ยังตำหนิการบริหารงานของรัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่หวังเพียงอย่างเดียว คือ เร่งตัดตอนกระบวนการยุติธรรม ครอบงำศาล หวังแก้ถูกให้เป็นผิด เพื่อคนคนหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้ยังพบกลุ่มฝ่ายซ้ายจำนวนหนึ่งกำลังวางกลยุทธ์ สถาปนาประชาธิปไตยสมัยใหม่ หวังเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยยกเลิกสถาบันพระมหากษัตริย์
คนเหล่านี้กำลังถูกควบคุมโดยคนบางคน ที่คอยครอบงำคุมฐานเสียง สร้างภาพให้ตัวเองเป็นวีรบุรุษ คนคนนี้จึงไม่ต่างอะไรไปจาก “ทรชนของประเทศ” เราไม่ควรอ่อนแอหรืออ่อนข้อให้กับอำนาจเหล่านี้ ต้องรู้ทันกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น อย่าหลงใหลกับสิ่งที่คนเหล่านั้นยื่นมาให้