ตำรวจสั่งล่าแฟนเก่าสาวโรงงานขนมปังชาวลาว ที่สวมชื่อคนไทย เข้ามาทำงาน โดยสงสัยอาจเป็นผู้ลงมือฆ่าปาดคอ และแทงพรุนเหยื่อเคราะห์ร้าย หลังจากคืนก่อนเกิดเหตุ มีปากเสียงกันรุนแรง
วันนี้ (21 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาคย์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร เปิดเผยถึงคดีสาวโรงงานขนมปัง ถูกคนร้ายบุกเข้าไปใช้มีดเชือดคอ และแทงตามร่างกายจนพรุนกว่า 18 แผล โดยทิ้งศพเปลือยท่อนล่างไว้ ก่อนจะทำการชิงทรัพย์ สร้อยคอ และต่างหูทองคำ รวมทั้งโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปด้วย ว่า หลังเกิดเหตุทราบว่าแท้จริงแล้วผู้ตายเป็นชาวลาวสวมชื่อคนไทยเข้ามาทำงาน ซึ่งทาง พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.5 ได้สั่งการให้ชุดคลี่คลายคดีคอยติดตามผลพิสูจน์หลักฐาน และติดตามพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวนให้ละเอียดเพื่อหาว่ามีผู้ใดเกี่ยวพันกับเรื่องนี้บ้าง ซึ่งเท่าที่ดูจากพฤติกรรมของคนร้ายแล้ว คาดว่า ต้องเป็นคนใกล้ชิดกับผู้ตาย โดยลงมือก่อเหตุเพราะความโกรธแค้นอย่างมาก แต่อาจจะฉวยเอาทรัพย์สินของผู้ตายไปด้วยเพื่ออำพรางคดี
“เบื้องต้นผมได้ให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ไปหาข่าวตามโรงงานในละแวกใกล้เคียง เพื่อตามล่าหาตัว นายต้น แฟนเก่าผู้ตาย ตามคำให้การของพยาน ที่ระบุว่า ทั้งคู่เกิดมีปากเสียงกันก่อนที่ผู้ตายจะถูกฆาตกรรมโหด โดยคาดว่า นายต้น ก็น่าจะเป็นคนสัญชาติลาวหลบหนีเข้ามาทำงานอยู่ในประเทศไทยเช่นเดียวกัน ส่วนผลการชันสูตรศพของผู้ตายยังคงต้องรอผลการผ่าพิสูจน์วันนี้ และจะติดตามสอบถามผู้ต้องสงสัยว่ามีความคืบหน้าใดๆ เกิดขึ้นบ้างหรือไม่ เพื่อจะได้ทราบเบาะแสของคนร้าย” พ.ต.อ.พจน์ กล่าว
พ.ต.อ.พจน์ กล่าวอีกว่า ในส่วนผู้ต้องสงสัยจำนวน 8 ราย ที่นำมาสอบปากคำที่ สน.วัดพระยาไกร ไม่พบว่ามีใครมีพิรุธ ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ตรวจพบว่าม่สารเสพติดในร่างกายได้ส่งตัวไปดำเนินคดีแล้ว
ฆ่าปาดคอ แทงพรุนสาวโรงงานท้อง 2 เดือนดับสยอง!