ฆาตกรโหดฆ่าปาดคอแล้วกระหน่ำแทงสาวโรงงานขนมปังที่เพิ่งท้องได้ 2 เดือนไม่ยั้งจนร่างพรุนถึง 18 แผล ตำรวจยังจับต้นชนปลายไม่ถูก เพราะน้องสามีผู้ตายเห็นชายแปลกหน้าที่ห้องใกล้เคียง ขณะที่เพื่อนผู้ตายระบุมีปากเสียงรุนแรงกับแฟนเก่าในคืนก่อนเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมง ส่วนในห้องข้าวของถูกรื้อค้นและทรัพย์สินของมีค่าบางส่วนหายไป และสภาพศพถูกถลกกางเกงลงมากองที่ปลายเท้า ยังไม่รู้เป็นการอำพรางคดีหรือไม่
วันนี้(20 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น พ.ต.ต.กฤษณะ จันทร์ประเสริฐ สารวัตรเวร สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งเหตุหญิงสาวถูกฆ่าเสียชีวิตภายในแฟลตเรืองยศ เลขที่ 924 /22-23 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นและรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาคย์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง
ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวสองคูหา 5 ชั้น บริเวณชั้นที่ 3 ห้อง 303 พบศพนางสาวรุ่งฤดี จันทิบุตร อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 29 หมู่ 7 ตำบลไร่ศรีสุข อำเภอเสนางนิคม จ.อำนาจเจริญ สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขายาวสีดำ โดยกางเกงทั้งหมดถูกถอดลงมาถึงปลายเท้า ถูกปาดคอ บริเวณลำตัวมีบาดแผลถูกแทงตามลำตัว 18 แผล นอนจมกองเลือด ข้าวของในห้องถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย พบมีร่องรอยการต่อสู้ นอกจากนี้ยังพบรอยเท้าเปื้อนคราบเลือดจำนวนหนึ่งบริเวณทางเดินบนชั้น3
จากการสอบปากคำ นายทิพรัตน์ ศรีพุฒ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่68/1 หมู่10 ต.หลุมข้าว อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี พนักงานโรงงานขนมปังพีอาร์ ฟู้ดส์กรุ๊ป จำกัด สามีผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่ที่ห้องดังกล่าวด้วยกัน 3 คน มีตน น้องสาว และภรรยา ทั้งนี้ตนกับภรรยาทำงานที่เดียวกัน ตนทำงานสองกะ คือกะเช้าและกะดึก โดยภรรยา ทำหน้าที่จ่ายขนมปัง ส่วนตน ทำงานหน้าเตา แต่จะทำงานกันคนละเวลา
นายทิพรัตน์ กล่าวต่อว่า ช่วงตี2 ตนได้ออกไปทำงานกะแรก กลับมาตอน 6 โมงเช้าเพื่ออาบน้ำ เตรียมตัวไปทำงานกะเช้า 7โมง ซึ่งขณะนั้นภรรยาตื่นขึ้นมาพูดคุยกับตนแล้ว กระทั้งถึงเวลา 7 โมงตนได้ออกไปทำงาน โดยแฟนสาวจะเข้าเวรตอน 8 โมง จึงจะเดินทางออกมาทีหลัง ก่อนออกจากห้องตนได้ล็อกประตูไว้เรียบร้อย และเดินทางออกมา
“ ขณะที่ผมอยู่ที่ทำงาน เวลาประมาณ 8 โมงเช้า เพื่อนร่วมงานเดินมาถามว่าทำไมแฟนผมถึงยังไม่มาทำงานอีก ผมจึงโทรศัพท์ไปหาแฟน แต่ปรากฏว่าไม่มีใครรับสาย จากนั้นจึงขี่มอเตอร์ไซร์ไปที่ห้อง เมื่อไปถึงพบห้องไม่ได้ล็อกประตู เมื่อเปิดประตูเข้าไปเมื่อเปิดเข้าไปเห็นแฟนอยู่ในสภาพเปลือยท่อนล่าง นอนเสียชีวิตอยู่กลางห้อง ผมจึงโทรเรียกน้องสาวและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มาตรวจสอบยังที่เหตุ” นายทิพรัตน์ กล่าว
นางสาววิไลพร ศรีพุฒ อายุ 19 ปี น้องสาวสามีผู้ตายเปิดเผยว่า หลังจากที่ทราบว่า พี่สะใภ้เสียชีวิต ก็รีบมาที่เกิดเหตุทันที ขณะที่ตนร้องโวยวายด้วยความตกใจ และรอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ก็พบว่ามีชายรูปร่างสูงประมาณ 180 ซม. สวมเสื้อยืดคอกลมลายทางสีขาวคาดฟ้า ตัดผมรองทรง ผิวสีดำแดง ซึ่งอยู่ในห้อง 305 ได้แง้มประตูออกมาดู ซึ่งห้องนี้ปกติแล้วตนจะรู้จักทุกคน เพราะทั้งหมดเป็นเพื่อนทำงานที่เดียวกัน แต่คนที่แง้มประตูออกมาตนไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน จึงไม่ทราบว่าเป็นใคร และตนได้สังเกตเห็นว่ามีรอยเท้า มุ่งตรงไปยังห้องดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบว่า สร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ ต่างหูทองหนัก 1สลึง 1 คู่ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องของพี่สะใภ้ได้หายไป ข้าวของในห้องถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ทั้งนี้พี่สะใภ้ตนยังตั้งท้อง 2 เดือน โดยเพิ่งทราบข่าวดีกันเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นภายในห้องใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบหาหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยได้เข้าไปตรวจค้นห้องเลขที่ 305 ซึ่งเป็นห้องที่มีรอยเท้าเปื้อนคราบเลือดไปติดอยู่ กระทั้งได้พบหลักฐาน เป็นมีด 2 คมยาวประมาณ ครึ่งเมตร และไขควง 1 อัน ทั้งยังพบนายคงศักดิ์ ปัญญา หรือเบี้ยว อายุ23 ปี อยู่ในห้องดังกล่าวด้วย หลังจากนั้นจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปยังโรงงานขนมปังพีอาร์ ฟู้ดส์กรุ๊ป จำกัด เพื่อควบคุมตัวเพื่อนร่วมห้องอีก 3คนของ นายคงศักดิ์ไปสอบปากคำยังสน.วัดพระยาไกร รวมทั้งได้เชิญตัวผู้ที่อาศัยอยู่ในห้องใกล้เคียงทั้งหมด รวม 8 ราย ไปสอบปากคำเช่นกัน จากนั้นได้ให้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบลายนิ้วมือ โดยพบผู้ต้องสงสัยมากที่สุดคือนายคงศักดิ์ หรือ เบี้ยว เนื่องจากขณะเกิดเหตุได้พักอาศัยอยู่ในห้องดังกล่าว และจากการตรวจปัจสาวะพบมีฉี่สีม่วง 2 คนคือ นายคงศักดิ์ และ นายเรี่ยม มลสิน อายุ 23 ปี ทำงานอยู่บริษัทเดียวกับผู้เสียชีวิต
นายคงศักดิ์เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่รู้เรื่องอะไรและไม่ได้ยิน เสียงใดๆทั้งสิ้นสำหรับไขควงและมีดเป็นของนายเรี่ยม เพื่อนร่วมห้อง ทั้งนี้ตนยอมรับว่าได้เสพยาจริง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตนไม่รู้เรื่องอะไรเลย สำหรับผู้ตายก่อนหน้าที่จะมาคบกับนายทิพรัตน์ ก็เคยคบกับตนมาก่อน จึงเป็นไปไม่ได้ที่ตนจะคิดร้ายกับผู้ตาย ส่วนที่ญาติผู้ตายอ้างว่า มีชายต้องสงสัยอยู่ในห้องตนนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ด้านนางสาวจันทกร วิวาสุข อาย 18 ปี เพื่อนสนิทผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ตายได้พาตนไปพบกับแฟนเก่าชื่อต้น ที่บริเวณวัดไทร ใกล้กับที่เกิดเหตุ โดยบอกว่าจะนัดคุยปัญหา เมื่อไปถึงผู้ตายได้ทะเลาะกับนายต้นอย่างรุนแรง เนื่องจากผู้ตายได้บอกกับนายต้นว่าท้องกับนายทิพรัตน์ ได้สองเดือนแล้ว จึงต้องการจะขอเลิกติดต่อกับนายต้นโดยเด็ดขาด เป็นเหตุให้นายต้นไม่พอใจ โมโหอย่างหนัก กระทั้งแยกย้ายกันกลับ และมาพบว่า ผู้ตายเสียชีวิตดังกล่าว
ด้านพ.ต.อ.พจน์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ไปนำตัวผู้พักอาศัยในห้อง 305 จำนวน4 ราย มาสอบปากคำยังสน. ซึ่งทั้งหมดยังคงให้ก่รปฎิเสธ สำหรับตัวผู้ตายเอง คนรอบข้างไม่ทราบความสัมพันธ์แน่ชัดว่า คบใครกี่คน เคยเป็นแฟนใครมาบ้าง และต้นเหตุที่แท้จริงเป็นอย่างไร ส่วนตัวนายคงศักดิ์ ที่อยู่ในห้องขณะเกิดเหตุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบเค้นอย่างหนัก เพราะญาติผู้ต้องหายืนยันว่าเห็นชายต้องสงสัยอาศัยอยู่ภายในห้องหลังเกิดเหตุ กระทั้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจึงหายตัวไป
“ วันนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้นภายในห้อง 305 และห้องใกล้เคียงโดยละเอียดอีกครั้ง เผื่อจะพบหลักฐานสำคัญ สำหรับนายต้น ซึ่งเป็นแฟนเก่าของผู้ตาย และมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวมาสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป โดยผู้ต้องสงสัยทั้งหมดยังถูกควบคุมตัวที่สน.เพื่อสอบปากคำให้ละเอียดอีกครั้ง “พ.ต.อ.พจน์ กล่าว
วันนี้(20 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น พ.ต.ต.กฤษณะ จันทร์ประเสริฐ สารวัตรเวร สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งเหตุหญิงสาวถูกฆ่าเสียชีวิตภายในแฟลตเรืองยศ เลขที่ 924 /22-23 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นและรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาคย์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง
ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวสองคูหา 5 ชั้น บริเวณชั้นที่ 3 ห้อง 303 พบศพนางสาวรุ่งฤดี จันทิบุตร อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 29 หมู่ 7 ตำบลไร่ศรีสุข อำเภอเสนางนิคม จ.อำนาจเจริญ สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขายาวสีดำ โดยกางเกงทั้งหมดถูกถอดลงมาถึงปลายเท้า ถูกปาดคอ บริเวณลำตัวมีบาดแผลถูกแทงตามลำตัว 18 แผล นอนจมกองเลือด ข้าวของในห้องถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย พบมีร่องรอยการต่อสู้ นอกจากนี้ยังพบรอยเท้าเปื้อนคราบเลือดจำนวนหนึ่งบริเวณทางเดินบนชั้น3
จากการสอบปากคำ นายทิพรัตน์ ศรีพุฒ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่68/1 หมู่10 ต.หลุมข้าว อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี พนักงานโรงงานขนมปังพีอาร์ ฟู้ดส์กรุ๊ป จำกัด สามีผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่ที่ห้องดังกล่าวด้วยกัน 3 คน มีตน น้องสาว และภรรยา ทั้งนี้ตนกับภรรยาทำงานที่เดียวกัน ตนทำงานสองกะ คือกะเช้าและกะดึก โดยภรรยา ทำหน้าที่จ่ายขนมปัง ส่วนตน ทำงานหน้าเตา แต่จะทำงานกันคนละเวลา
นายทิพรัตน์ กล่าวต่อว่า ช่วงตี2 ตนได้ออกไปทำงานกะแรก กลับมาตอน 6 โมงเช้าเพื่ออาบน้ำ เตรียมตัวไปทำงานกะเช้า 7โมง ซึ่งขณะนั้นภรรยาตื่นขึ้นมาพูดคุยกับตนแล้ว กระทั้งถึงเวลา 7 โมงตนได้ออกไปทำงาน โดยแฟนสาวจะเข้าเวรตอน 8 โมง จึงจะเดินทางออกมาทีหลัง ก่อนออกจากห้องตนได้ล็อกประตูไว้เรียบร้อย และเดินทางออกมา
“ ขณะที่ผมอยู่ที่ทำงาน เวลาประมาณ 8 โมงเช้า เพื่อนร่วมงานเดินมาถามว่าทำไมแฟนผมถึงยังไม่มาทำงานอีก ผมจึงโทรศัพท์ไปหาแฟน แต่ปรากฏว่าไม่มีใครรับสาย จากนั้นจึงขี่มอเตอร์ไซร์ไปที่ห้อง เมื่อไปถึงพบห้องไม่ได้ล็อกประตู เมื่อเปิดประตูเข้าไปเมื่อเปิดเข้าไปเห็นแฟนอยู่ในสภาพเปลือยท่อนล่าง นอนเสียชีวิตอยู่กลางห้อง ผมจึงโทรเรียกน้องสาวและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มาตรวจสอบยังที่เหตุ” นายทิพรัตน์ กล่าว
นางสาววิไลพร ศรีพุฒ อายุ 19 ปี น้องสาวสามีผู้ตายเปิดเผยว่า หลังจากที่ทราบว่า พี่สะใภ้เสียชีวิต ก็รีบมาที่เกิดเหตุทันที ขณะที่ตนร้องโวยวายด้วยความตกใจ และรอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ก็พบว่ามีชายรูปร่างสูงประมาณ 180 ซม. สวมเสื้อยืดคอกลมลายทางสีขาวคาดฟ้า ตัดผมรองทรง ผิวสีดำแดง ซึ่งอยู่ในห้อง 305 ได้แง้มประตูออกมาดู ซึ่งห้องนี้ปกติแล้วตนจะรู้จักทุกคน เพราะทั้งหมดเป็นเพื่อนทำงานที่เดียวกัน แต่คนที่แง้มประตูออกมาตนไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน จึงไม่ทราบว่าเป็นใคร และตนได้สังเกตเห็นว่ามีรอยเท้า มุ่งตรงไปยังห้องดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบว่า สร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ ต่างหูทองหนัก 1สลึง 1 คู่ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องของพี่สะใภ้ได้หายไป ข้าวของในห้องถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ทั้งนี้พี่สะใภ้ตนยังตั้งท้อง 2 เดือน โดยเพิ่งทราบข่าวดีกันเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นภายในห้องใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบหาหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยได้เข้าไปตรวจค้นห้องเลขที่ 305 ซึ่งเป็นห้องที่มีรอยเท้าเปื้อนคราบเลือดไปติดอยู่ กระทั้งได้พบหลักฐาน เป็นมีด 2 คมยาวประมาณ ครึ่งเมตร และไขควง 1 อัน ทั้งยังพบนายคงศักดิ์ ปัญญา หรือเบี้ยว อายุ23 ปี อยู่ในห้องดังกล่าวด้วย หลังจากนั้นจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปยังโรงงานขนมปังพีอาร์ ฟู้ดส์กรุ๊ป จำกัด เพื่อควบคุมตัวเพื่อนร่วมห้องอีก 3คนของ นายคงศักดิ์ไปสอบปากคำยังสน.วัดพระยาไกร รวมทั้งได้เชิญตัวผู้ที่อาศัยอยู่ในห้องใกล้เคียงทั้งหมด รวม 8 ราย ไปสอบปากคำเช่นกัน จากนั้นได้ให้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบลายนิ้วมือ โดยพบผู้ต้องสงสัยมากที่สุดคือนายคงศักดิ์ หรือ เบี้ยว เนื่องจากขณะเกิดเหตุได้พักอาศัยอยู่ในห้องดังกล่าว และจากการตรวจปัจสาวะพบมีฉี่สีม่วง 2 คนคือ นายคงศักดิ์ และ นายเรี่ยม มลสิน อายุ 23 ปี ทำงานอยู่บริษัทเดียวกับผู้เสียชีวิต
นายคงศักดิ์เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่รู้เรื่องอะไรและไม่ได้ยิน เสียงใดๆทั้งสิ้นสำหรับไขควงและมีดเป็นของนายเรี่ยม เพื่อนร่วมห้อง ทั้งนี้ตนยอมรับว่าได้เสพยาจริง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตนไม่รู้เรื่องอะไรเลย สำหรับผู้ตายก่อนหน้าที่จะมาคบกับนายทิพรัตน์ ก็เคยคบกับตนมาก่อน จึงเป็นไปไม่ได้ที่ตนจะคิดร้ายกับผู้ตาย ส่วนที่ญาติผู้ตายอ้างว่า มีชายต้องสงสัยอยู่ในห้องตนนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ด้านนางสาวจันทกร วิวาสุข อาย 18 ปี เพื่อนสนิทผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ตายได้พาตนไปพบกับแฟนเก่าชื่อต้น ที่บริเวณวัดไทร ใกล้กับที่เกิดเหตุ โดยบอกว่าจะนัดคุยปัญหา เมื่อไปถึงผู้ตายได้ทะเลาะกับนายต้นอย่างรุนแรง เนื่องจากผู้ตายได้บอกกับนายต้นว่าท้องกับนายทิพรัตน์ ได้สองเดือนแล้ว จึงต้องการจะขอเลิกติดต่อกับนายต้นโดยเด็ดขาด เป็นเหตุให้นายต้นไม่พอใจ โมโหอย่างหนัก กระทั้งแยกย้ายกันกลับ และมาพบว่า ผู้ตายเสียชีวิตดังกล่าว
ด้านพ.ต.อ.พจน์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ไปนำตัวผู้พักอาศัยในห้อง 305 จำนวน4 ราย มาสอบปากคำยังสน. ซึ่งทั้งหมดยังคงให้ก่รปฎิเสธ สำหรับตัวผู้ตายเอง คนรอบข้างไม่ทราบความสัมพันธ์แน่ชัดว่า คบใครกี่คน เคยเป็นแฟนใครมาบ้าง และต้นเหตุที่แท้จริงเป็นอย่างไร ส่วนตัวนายคงศักดิ์ ที่อยู่ในห้องขณะเกิดเหตุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบเค้นอย่างหนัก เพราะญาติผู้ต้องหายืนยันว่าเห็นชายต้องสงสัยอาศัยอยู่ภายในห้องหลังเกิดเหตุ กระทั้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจึงหายตัวไป
“ วันนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้นภายในห้อง 305 และห้องใกล้เคียงโดยละเอียดอีกครั้ง เผื่อจะพบหลักฐานสำคัญ สำหรับนายต้น ซึ่งเป็นแฟนเก่าของผู้ตาย และมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวมาสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป โดยผู้ต้องสงสัยทั้งหมดยังถูกควบคุมตัวที่สน.เพื่อสอบปากคำให้ละเอียดอีกครั้ง “พ.ต.อ.พจน์ กล่าว
