xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ชะตา “วัฒนา - ทุจริตที่ดินคลองด่าน” 9 ก.ค.นี้ ท้าผิดจริงให้ประหาร!!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย และประธานพรรคเพื่อแผ่นดิน จำเลย
ศาลฎีกานักการเมืองไต่สวนจำเลยปากสุดท้ายคดีทุจริตที่ดินคลองด่าน “วัฒนา อัศวเหม” ขึ้นเบิกความแก้ต่างให้ตัวเอง ระบุถูก “ทักษิณ” กลั่นแกล้งทางการเมืองจากจนต้องตกเป็นจำเลย ท้าผิดจริงให้ประหาร ศาลสั่งคู่ความแถลงปิดคดี 25 มิ.ย.พร้อมนัดอ่านคำพิพากษา 9 ก.ค.นี้ บ่ายโมง

วันนี้ (8 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ ผู้พิพากษาอาวุโส เจ้าของสำนวนคดีดำ อม.2/2550 พร้อมองค์คณะผู้พิพากษารวม 9 คน ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานจำเลย คดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย และประธานพรรคเพื่อแผ่นดินเป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และ 157 ในการใช้อำนาจข่มขู่ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นร่วมออกโฉนดที่ดิน 1,900 ไร่ ทับที่คลองสาธารณประโยชน์ และที่เทขยะมูลฝอยซึ่งเป็นที่สงวนหวงห้าม เพื่อนำไปขายให้กรมควบคุมมลพิษเพื่อก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสีย ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

โดยในวันนี้ศาลนัดไต่สวนพยานจำเลยปากสุดท้าย ซึ่งนายวัฒนา จำเลย ขึ้นเบิกโดยใช้คำว่าใช่หรือไม่ใช่และขยายความประกอบเป็นบางคำถามต่อจากนัดก่อนสรุปได้ว่า ตนเองถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สรุปสำนวนชี้มูลความผิดอย่างไม่ได้ให้ความเป็นธรรม และเลือกปฏิบัติด้วยการกล่าวโทษดำเนินคดีกับตัวพยานเพียงคนเดียว โดยไม่มีการดำเนินการกับ บริษัท ปาล์ม บีช ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทซึ่งเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อ และขอให้มีการออกโฉนดที่ดิน ส่วนเจ้าหนักงานที่ดินเกี่ยวข้องกับการออกโฉนดที่ดินที่มีปัญหาก็ไม่ได้ถูกดำเนินการเนื่องจากใดๆ เนื่องจากป.ป.ช.สรุปความเห็นว่าคดีขาดอายุความ

นายวัฒนาเบิกความต่อว่า นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังสรุปสำนวนชี้มูความผิดตนเองโดยรับฟังพยานที่พนักงานสอบสวนกองปราบปราม สอบสวนไว้ในคดีอื่นและให้การไว้ก่อนที่จะมีการสอบสวนดำเนินคดีกับตน ซึ่งถือว่าไม่ได้เป็นการดำเนินการตามหลักนิติธรรม นอกจากนี้การชี้มูลความผิดตนเรื่องใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต ตาม ประมวลกฎหมายอาญา ม.148 ถือว่าไม่ถูกต้องเพราะขณะที่ตนดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ก็ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลกรมที่ดิน จึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิดทางกฎหมาย

“ การที่ ป.ป.ช. ชี้มูลว่า ผมผิด ตาม ม.148 ถือว่าไม่ถูกต้อง ผมต้องพบวิบากกรรมกับคดีคลองด่านมานาน 15 ปีแล้ว ผมไม่ได้ท้าทายศาล ความผิดตาม ม.148 มีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต แต่หากผมผิดในตามที่ถูกกล่าวหาจริงให้เอาผมประหารชีวิตเลยดีกว่า ” นายวัฒนา กล่าว

นอกจากนี้ นายวัฒนา ยังเบิกความย้ำด้วยว่าที่ต้องตกเป็นจำเลยในคดีนี้เพราะถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง จาก .พ.ต.ท.ทักษฺณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เนื่องจากในช่วงปี 2546 ตนเองซึ่งเป็นเคยเป็นอดีตประธานที่ปรึกษาพรรคราษฎรไม่ยอมที่จะควบรวมกับพรรคไทยรักไทย ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับระบอบเผด็จการรัฐสภา ซึ่งการไม่ยินยอมทำตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ในครั้งนั้นนอกจากจะถูกกลั่นแกล้งให้ต้องตกเป็นจำเลยในคดีนี้แล้ว ยังถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษซึ่งสื่อมวลชนวิจารณ์กันว่าเป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้ามของ พ.ต.ท.ทักษิณ ดำเนินคดีบุกรุกป่าสงวน ใน อ.กระปง จ.พังงา อีกหนึ่งคดีด้วย

ทั้งนี้ หลังนายวัฒนาเบิกความเสร็จสิ้น ศาลแถลงให้คู่ความยื่นคำแถลงปิดคดีเป็นรายลักษณ์อักษร ภายในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ โดยหากไม่ยื่นมาภายในกำหนดถือว่าไม่ติดใจที่จะแถลงปิดคดี อย่างไรก็ดีเนื่องจากคดี มีพยานหลักฐานจำนวนมาก โดยมีพยานฝ่ายโจทก์ 40 ปาก พยานจำเลย 14 ปาก และพยานที่ศาลเรียกมาอีก 9 ปาก มีพยานเอกสารอีก 28 แฟ้มจำนวนหลายพันหน้า และพยานวัตถุอีกหลายรายการ ทำให้ศาลอาจพิจารณาและพิพากษาคดีไม่ทันภายในระยะเวลา 7 วัน หลังคู่ความยื่นแถลงปิดคดีตามกฎหมายกำหนด จึงกำหนดให้นัดอ่านคำพิพากษาคดีในวันที่ 9 ก.ค.นี้ เวลา 14.00 น.

ภายหลัง นายวัฒนากล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่าตนรู้สึกสบายในที่ได้พิสูจน์ความจริง และมั่นใจในพยานหลักฐานที่ได้นำมาต่อสู้ถือในศาล ซึ่งแตกต่างจากในชั้น ป.ป.ช.ที่เหมือนเป็นการกล่าวหาข้างเดียว ส่วนคำแถลงปิดคดีของตนคงต้องชี้ให้ศาลเห็นในทุกประเด็นที่ได้ต่อสู้มา ซึ่งตุลาการทุกท่านเป็นผู้ที่ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม จึงมั่นในว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากคำพิพากษา
กำลังโหลดความคิดเห็น