ตำรวจ สน.ทองหล่อ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อย.บุกทลายคลังเครื่องสำอางปลอม พร้อมจับกุมเจ้าของชาวฟิลิปปินส์ที่ผลิตเครื่องสำอางยี่ห้อ “อเมลิต้า” ในระบบขายตรง ดำเนินคดี
วันนี้ (2 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.สรเสริญ ใช้สถิตย์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ สว.สป. ภก.มานิตย์ อุรณากูร รองเลขาธิการ อย. และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ร่วมกันแถลงการจับกุม นางอเมลิต้า มณีชัยฤทธิกุล อายุ 59 ปี ชาวฟิลิปปินส์ และน.ส.ศิริรัตน์ สุพรหมอินทร์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 12 ต.ปากชม อ.ปากชม จ.เลย พร้อมของกลาง เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมสารต้องห้าม เช่น ไฮโดควิโน กรดเลทิโนอิก หรือกรดวิตามินเอ เครื่องสำอางสำเร็จรูปยี่ห้ออเมลิต้า และวัตถุดิบในการผลิตเครื่องสำอางยี่ห้อต่างๆ เช่น เครื่องปั่น หม้อบรรจุ ที่ตักสารเคมี ถ้วยตวง รวมทั้งสารต้องห้ามดังกล่าว จำนวนหลายกิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
พ.ต.อ.จิรพัฒน์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก อย.ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภค ว่าบริษัท อเมลิต้า จำกัด มีการผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางไม่ถูกต้องตามกฏหมาย จึงประสานมายังตำรวจ สน.ทองหล่อ จากนั้นได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลเลขที่ 133/2551 ลงวันที่ 1 พ.ค. เข้าตรวจค้นภายในบริษัท อเมลิต้า เลขที่ 62/10 ซอยสุขุมวิท 49/6 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตทวีวัฒนา กทม. และหมายค้นเลขที่ 134/2551 ลงวันที่ 2 พ.ค. เข้าตรวจค้นที่อาคารแอลดีแมนชั่น ห้อง 121 เลขที่ 66/2 ซอยพร้อมพรรค แขวงคลองตันเหนือ เขตทวีวัฒนา กทม. เมื่อเวลา 11.00 น.ในวันนี้ โดยเมื่อตำรวจและเจ้าหน้าที่ของ อย.ไปถึงพบของกลางทั้งหมดจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำตัวทั้ง 2 คนมาสอบปากคำ
พ.ต.อ.จิรพัฒน์ กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำนางอเมลิต้าให้การว่า ได้เปิดขายเครื่องสำอางมาประมาณ 3 ปีแล้ว โดยจะรับวัตถุดิบต่างๆ มาจากประเทศไต้หวัน และฟิลิปปินส์ จากนั้นนำเข้ามาผลิตเป็นเครื่องสำอางเอง พร้อมเปิดบริษัทขายตรงให้แก่ลูกค้าด้วย ส่วน น.ส.ศิริรัตน์ ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เรื่อง ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ามีการใช้ชื่อ น.ส.ศิริรัตน์ เพื่อเปิดห้องในการเก็บวัตถุดิบที่แอลดีแมนชั่นดังกล่าว
ภก.มานิตย์ อุรณากูร รองเลขาธิการ อย.กล่าวว่า ขอเตือนผู้บริโภคอย่าซื้อเครื่องสำอางยี่ห้อดังกล่าวมาใช้เพราะอาจได้รับอันตรายจากสารเคมี โดยเฉพาะจากสารไฮโดควิโนจะเกิดอาการระคายเคือง เกิดจุดด่างขาวที่หน้า ผิวหน้าดำเป็นฝ้าถาวร รักษาไม่หาย ส่วนกรดเลทิโนอิก หรือกรดวิตามินเอ จะทำให้ใบหน้าแดง แสบร้อนอย่างรุนแรง เกิดอาการอักเสบ ผิวหน้าลอกอย่างรุนแรง เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์
ภก.มานิตย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ขอให้สังเกตสลากก่อนซื้อเป็นอันดับแรก ซึ่งสลากที่ถูกต้องจะต้องมีภาษาไทย และมีข้อบังคับครบถ้วน เช่น ชื่อและประเภทผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบสำคัญ วิธีใช้ ชื่อและที่ตั้งแหล่งผลิต วันเดือนปีที่ผลิต ปริมาณสุทธิ ซึ่งควรซื้อจากบริษัทหรือจากร้านที่น่าเชื่อถือ ไม่ควรซื้อจากคำโฆษณา
เบื้องต้น ตำรวจนำตัวไปดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2535 ในข้อหา ผลิตเพื่อขายเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหา ผลิตเพื่อขายเครื่องสำอางที่มีการควบคุมสลาก โดยไม่มีสลาก หรือมีสลาก แต่สลากหรือการแสดงสลากนั้นไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากนั้นควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดีต่อไป