ตร.จับมือภาคเอกชน ประชาสัมพันธ์รณรงค์โทร.ไม่ขับ ดีเดย์บังคับใช้กฎหมาย 8 พ.ค.นี้ เว้นแต่ใช้อุปกรณ์เสริมที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องจับอุปกรณ์ ช่วงแรกพบแค่ตักเตือน จากนั้นจะเริ่มใช้กฏหมายเคร่งครัด พบฝ่าฝืน จะตรวจสอบชื่อเจ้าของรถก่อนส่งหมายเรียกไปตามที่อยู่เพื่อให้มาจ่ายค่าปรับ มีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท
วันนี้ (30 เม.ย.) ที่ตึกสำนักงานเซ็นทรัลเวิลด์ พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร) ในฐานะโฆษก ตร.ร่วมกับ นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท จำกัด แถลง เริ่มบังคับใช้กฎหมายโทร.ไม่ขับพร้อมทั้งปล่อยขบวนคาราวาน โทร.ไม่ขับ โดยมีศิลปิน นักแสดง และข้าราชการตำรวจร่วมขบวน
พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า กฎหมายว่าด้วยการห้ามผู้ขับขี่รถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ เว้นแต่ใช้อุปกรณ์เสริมที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องจับอุปกรณ์นั้นซึ่งมีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ตร.จึงร่วมกับเอกชนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบกฎหมายนี้โดยทั่วเพราะเมื่อกฎหมายมีผล ตำรวจก็ต้องดำเนินการ ต่อไปประชาชนจะอ้างว่าไม่ทราบกฎหมายก็คงไม่ได้แล้ว ซึ่ง ตร.ได้กำชับให้ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง กวดขันจับกุมผู้ที่ขับขี่รถในขณะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ นับแต่วันที่ 8 พฤษภาคมเป็นต้นไป ระหว่างนี้ตร.ได้เตรียมความพร้อมให้ความรู้ตำรวจให้เข้าใจกฎหมายข้อนี้ด้วย
โฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า ในช่วงแรก จะเน้นรณรงค์ก่อน โดยในช่วงแรกหากพบผู้กระทำผิดจะเริ่มจากการตักเตือนก่อน เมื่อผ่านไประยะหนึ่งที่เหมาะสมจากนั้นก็จะเริ่มบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครั้ง ส่วนหนึ่งมีกล้องตรวจจับความเร็วภาพที่มีทั่วประเทศ 50 ตัว ในการจับภาพ หากพบใครฝ่าผืนกฎหมาย จะตรวจสอบชื่อเจ้าของรถและส่งหมายเรียกไปตามที่อยู่เพื่อให้มาจ่ายค่าปรับ
วันนี้ (30 เม.ย.) ที่ตึกสำนักงานเซ็นทรัลเวิลด์ พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร) ในฐานะโฆษก ตร.ร่วมกับ นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท จำกัด แถลง เริ่มบังคับใช้กฎหมายโทร.ไม่ขับพร้อมทั้งปล่อยขบวนคาราวาน โทร.ไม่ขับ โดยมีศิลปิน นักแสดง และข้าราชการตำรวจร่วมขบวน
พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า กฎหมายว่าด้วยการห้ามผู้ขับขี่รถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ เว้นแต่ใช้อุปกรณ์เสริมที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องจับอุปกรณ์นั้นซึ่งมีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ตร.จึงร่วมกับเอกชนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบกฎหมายนี้โดยทั่วเพราะเมื่อกฎหมายมีผล ตำรวจก็ต้องดำเนินการ ต่อไปประชาชนจะอ้างว่าไม่ทราบกฎหมายก็คงไม่ได้แล้ว ซึ่ง ตร.ได้กำชับให้ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง กวดขันจับกุมผู้ที่ขับขี่รถในขณะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ นับแต่วันที่ 8 พฤษภาคมเป็นต้นไป ระหว่างนี้ตร.ได้เตรียมความพร้อมให้ความรู้ตำรวจให้เข้าใจกฎหมายข้อนี้ด้วย
โฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า ในช่วงแรก จะเน้นรณรงค์ก่อน โดยในช่วงแรกหากพบผู้กระทำผิดจะเริ่มจากการตักเตือนก่อน เมื่อผ่านไประยะหนึ่งที่เหมาะสมจากนั้นก็จะเริ่มบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครั้ง ส่วนหนึ่งมีกล้องตรวจจับความเร็วภาพที่มีทั่วประเทศ 50 ตัว ในการจับภาพ หากพบใครฝ่าผืนกฎหมาย จะตรวจสอบชื่อเจ้าของรถและส่งหมายเรียกไปตามที่อยู่เพื่อให้มาจ่ายค่าปรับ
