“รักเกียรติ” ย้ำการจะสั่งพิจารณาลับคดี “แม้ว-อ้อ” ขึ้นอยู่กับศาลสั่งเท่านั้น

เลขาศาลฎีกาฯ คดีนักการเมือง เผยจำเลย “แม้ว-เมีย” มีสิทธิยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาฯ ทางลับได้ตามกฎหมาย ป.วิอาญา 177 แต่ศาลจะอนุญาตหรือไม่ขึ้นอยู่กับองค์คณะผู้พิพากษาจะพิจารณา ยันอดีตไม่เคยมีจำเลยรายใดกระทำ ย้ำ ม.177 ระบุชัดศาลมีอำนาจสั่งให้พิจารณาเป็นการลับ เมื่อเห็นสมควร แต่ต้องเพื่อประโยชน์แห่งความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันความลับของประเทศมิให้ล่วงรู้ถึงประชาชน

วันนี้ (21 เม.ย.) นายรักเกียรติ วัฒนพงษ์ เลขานุการแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจำเลยซึ่งถูกฟ้องในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อาทิ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา จำเลยที่ 1-2 ในคดีทุจริตซื้อขายทีดินย่านรัชดาภิเษก จะยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีเป็นการลับว่า เรื่องนี้ตามกฎหมายสามารถทำได้ โดยองค์คณะผู้พิพากษาจะใช้ดุลพินิจพิจารณาอนุญาตให้มีการพิจารณาคดีเป็นการลับได้หรือไม่นั้น เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 177 ที่ระบุว่า ศาลมีอำนาจสั่งให้พิจารณาเป็นการลับ เมื่อเห็นสมควรโดยพลการหรือโดยคำร้องขอของคู่ความฝ่ายใด แต่ต้องเพื่อประโยชน์แห่งความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันความลับอันเกี่ยวกับความปลอดภัยของประเทศมิให้ล่วงรู้ถึงประชาชน

นายรักเกียรติ กล่าวว่า หากองค์คณะผู้พิพากษาพิจารณาอนุญาตให้มีการพิจารณาคดีเป็นการลับแล้วตามมาตรา 178 ระบุว่า บุคคลที่จะมีสิทธิอยู่ในห้องพิจารณาได้ คือ โจทก์ จำเลย และทนาย ผู้ควบคุมตัวจำเลย พยานและผู้ชำนาญการพิเศษ ล่าม บุคคลผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องและได้รับอนุญาตจากศาล และพนักงานงานศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแก่ศาล แล้วแต่จะเห็นสมควร

“ที่ผ่านมายังไม่เคยมีจำเลยคนใดยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณาคดีเป็นการลับ ส่วนที่จำเลยอาจจะยื่นคำร้องของให้ศาลพิจารณาคดีเป็นการลับโดยอ้างเหตุผลการนำคำเบิกความในคดีไปเชื่อมโยงกับเรื่องทางการเมืองนั้นไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน” นายรักเกียรติกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีทุจริตที่ดินรัชดาภิเษก ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เป็นจำเลยที่ 1-2 ศาลนัดตรวจสอบพยานหลักฐานในวันที่ 29-30 เมษายนนี้ เวลา 10.00 น. โดย พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ไม่ต้องเดินทางมาศาลตามกำหนดนัดครั้งนี้ได้ เนื่องจากได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีลับหลัง โดยระบุว่ามีความจำเป็นต้องเดินทางไปทำธุรกิจต่างประเทศ ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาต คงมีเพียงในส่วนของคุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 2 เท่านั้นที่ต้องเดินทางมา