ศาลอนุญาต “จำเลยแม้ว” บินปร๋อไปนอกได้เกือบเดือน

“ท่านเปา” เจ้าของสำนวนทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาฯ อนุญาต “ทักษิณ” ออกนอกประเทศนานเกือบเดือน หลังอ้างเหตุเดินทางไปอังกฤษบริหารสโมสรฟุตบอล แต่สั่งกำชับให้กลับมารายงานตัว 11 เม.ย.นี้ ขณะที่ “ทนาย” ยันอดีตเจ้านายพร้อมสอบคำให้การพรุ่งนี้ (12 มี.ค.) ส่วน “อัยการ” ชี้ไม่มีสิทธิ์ลี้ภัยหลังพ้นจากตำแหน่งทางการเมืองแล้ว

วันนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ว่า นายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก ซึ่งอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นจำเลยที่ 1-2 ได้มีคำสั่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศหลังเสร็จสิ้นสอบคำให้การในวันที่ 12 มี.ค.นี้ โดยคำร้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า มีภารกิจต้องเดินทางไปยังประเทศอังกฤษ เพื่อบริหารงานสโมสรฟุตบอลแมนฯ ซิตี้ นอกจากนี้ยังมีภารกิจที่ต้องเดินทางไปประเทศอื่นๆ ด้วย ซึ่งจะเดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. - 10 เม.ย. ทั้งนี้นายทองหล่อ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกนอกประเทศได้ตามระยะเวลาที่ระบุในคำร้อง โดยมีคำสั่งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องกลับมารายงานตัวในวันที่ 11 เม.ย.นี้

ด้าน นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวปฏิเสธว่าไม่สามารถกล่าวถึงรายละเอียดคำร้องที่ยื่นได้ เพราะคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ซึ่งมีความละเอียดอ่อน อย่างไรก็ดียืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปศาลเพื่อสอบคำให้การในวันนัดพิจารณาคดีครั้งแรก พรุ่งนี้ ( 12 มี.ค.) เวลา 09.30 น. อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ นายพิชิฏ ทนายความปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตสืบพยานลับหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 1-2 ด้วยหรือไม่ ซึ่ง นายพิชิฏ กล่าวเพียงว่า ขอให้รอฟังการพิจารณาของศาลในวันพรุ่งนี้

ด้าน นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูง หนึ่งในคณะทำงานอัยการรับผิดชอบคดี กล่าวถึงการสอบคำให้การ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าศาลจะได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟัง ซึ่งความผิดที่อัยการยื่นฟ้องมี 2 ข้อหา คือเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ป.ป.ช. ให้ความยินยอมคู่สมรสทำสัญญาที่ทำการหน่วยงานของรัฐ และเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ กำกับ ดูแล กิจการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์ตัวเอง หรือผู้อื่น ตามความผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และ 157 ที่มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี โดยคำฟ้องระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในฐานะเป็นตัวการ โดยมีคุณหญิงพจมาน คู่สมรส เป็นผู้สนับสนุน ซึ่งเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะให้การปฏิเสธเหมือนกรณีของคุณหญิงพจมาน และคาดว่าศาลคงจะกำหนดวันนัดตรวจสอบพยานหลักฐาน พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันเดียวกับคุณหญิงพจมาน ที่ 29-30 เม.ย.นี้

นายนันทศักดิ์ กล่าวด้วยว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 จะยื่นคำร้องขอให้ศาลอนุญาตสืบพยานลับหลังจำเลย ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 ทวิ บัญญัติว่าภายหลังที่ศาลสอบคำให้การจำเลยแล้ว เมื่อศาลเห็นว่าเป็นการสมควรเพื่อให้การพิจารณาเป็นไปโดยรวดเร็วไม่ชักช้า ศาลมีอำนาจพิจารณาและสืบพยานลับหลังจำเลยได้ ตาม (1) ในคดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน 10 ปี โดยฐานความผิดที่ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ มีอัตราโทษตั้งแต่ 1 -10 ปี ทั้งนี้หากจำเลยยื่นคำร้องที่จะสละสิทธิ์การเดินทางมาศาลเพื่อฟังการสืบพยาน ก็เป็นสิทธิของจำเลย แต่การขอสืบพยานลับหลังดังกล่าวอาจทำให้จำเลยเองที่จะเสียโอกาสในการรับฟังรายละเอียดคำเบิกความพยานโจทก์ที่จำเลยจะต้องคัดค้าน

ส่วนประเด็นที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะขอลี้ภัยในต่างประเทศนั้น นายนันทศักดิ์ กล่าวว่า การขอลี้ภัยคงทำไม่ได้ เพราะผู้ที่จะขอลี้ภัยจะต้องเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้น แต่เวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ดำรงตำแหน่งใด ๆ ทางการเมืองแล้ว จึงไม่เข้าเงื่อนไขในการขอลี้ภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ ( 12 มี.ค.) เวลา 09.30 น. ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งนัดพิจารณาคดีครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การ พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลสอบคำให้การคุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 2 ไปแล้วเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยคุณหญิงพจมาน ให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา ฐานเป็นคู่สมรส หรือมีส่วนได้ส่วนเสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ ที่เจ้าหน้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฎิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินการ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 100 และฐานเป็นผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และ157 ศาลฎีกาฯ จึงนัดตรวจสอบพยานหลักฐานคดีในวันที่ 29-30 เม.ย. เวลา 10.00 น