“สงกรานต์” ฤดูกาลสาดน้ำที่เย็นฉ่ำ ของเมืองไทย และถือเป็นวันปีใหม่ไทยด้วย การเฉลิมฉลองต้องเกิดขึ้นตามนิสัย “วันไหน ๆ พี่ไทยก็เมา” และสิ่งที่เกิดตามมานั่นก็คือ อุบัติเหตุ จาก “เมาแล้วขับ” มาตรการที่ถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่องคือ 3 ม 2 ข 1 ร หวังลดสถิติเจ็บ-ตาย
จากปีที่ผ่านมาช่วง 7 วันอันตราย 11-17 เมษายน 2550 พบว่ามีอัตราการเสียวชิตเฉพาะในกรุงเทพมหานครอยู่ที่ 12 ราย บาดเจ็บ 83 ราย แม้ตัวเลขจะไม่สูง แต่หากไม่เกิดขึ้นเลยคงจะดีที่สุด
และสาเหตุของการเสียชีวิตสูงสุดยังคงเกิดจากรถจักรยานยนต์ พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. ดูแลงานด้านการจราจร เผยว่า ช่วงเทศกาลผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ไม่ชอบที่จะสวมหมวกนิรภัย เพราะรู้สึกเกะกะ และสาเหตุอีกอย่างคือมักชอบขับขี่รถด้วยความประมาทหวาดเสียว ที่สำคัญคือ เมาแล้วขับ อีกทั้งมักจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ออกมาเล่นสงกรานต์กัน
“เพื่อเป็นการป้องกันและกวดขันวินัยจราจรรวมถึงบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อลดอุบัติเหตุ ได้สั่งการให้ทุก สน.ตั้งด่านกวดขันอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มักจะมีวัยรุ่นรวมกลุ่มกันเข้ามาเที่ยวทั้งย่านถนนข้าวสาร ซอยโชคชัย4 โดยเน้นตรวจผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย และหากไม่มีหรือไม่พกใบอนุญาตขับขี่รถจะต้องถูกยึดรถจนกว่าเจ้าของรถจะนำหลักฐานมาแสดง และต้องมีใบอนุญาตขับขี่จึงจะสามารถนำรถกลับไปได้ รวมถึงให้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์อย่างเข้มงวดด้วย และที่สำคัญจะกวดขันการแข่งรถด้วย” พล.ต.ต.ภาณุ กล่าว
ไม่เพียงแต่การกวดขันรถจักรยานยนต์เท่านั้นรถยนต์ที่มักจะขนทั้งคนทั้งน้ำเข้ามาเล่นในถนนที่มีการจราจรหนาแน่น นอกจากทำให้รถติดจากการหยุดเล่นสาดน้ำแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และอันตรายจากการเล่นสาดน้ำที่รุนแรง พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุและปัญหาการจราจรแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน กองบัญชาการตำรวจนครบาลจึงห้ามรถยนต์ดังกล่าวเข้าถนนสายสำคัญและในจุดที่มีการเล่นสงกรานต์หนาแน่น หากฝ่าฝืนจะถูกจับกุมข้อหาบรรทุกสิ่งของตกหล่นบนทางอันอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่นปรับไม่เกิน 500 บาท และยังมีความผิดข้อหาฝ่าฝืนข้อบังคับเจ้าพนักงาน โทษปรับไม่เกิน 1,000 บาทด้วย
ส่วนการเล่นสงกรานต์นั้น พล.ต.ต.ภาณุ เผยว่า ห้ามเล่นแป้งทุก ห้ามปืนฉีดน้ำความดันสูง พื้นที่ทั่วกรุง ส่วนพื้นที่ที่มีผู้คนออกมาสาดน้ำกันจำนวนมาก และอยกฝากเตือนกลุ่มวัยรุ่นสาว ๆ ให้แต่งตัวมิดชิด จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของบุคคลที่ฉวยโอกาสลวนลามได้
นอกจากการตั้งด่านตรวจสกัดที่ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว พล.ต.ต.ภาณุ ยังเผยอีกว่าได้ร่วมกับทางกรุงเทพมหานครในการสอดส่องดูแลความเรียบร้อย โดย กทม. ได้ดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือซีซีทีวี (CCTV) จำนวน 26 จุด ที่บริเวณสนามหลวง และถนนราชดำเนินกลาง เพื่อดูแลความปลอดภัยและความสะดวกของเส้นทางจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อีกทั้งกล้องซีซีทีวียังช่วยในการสอดส่องการลอบวางระเบิดในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการรักษาความปลอดภัยอีกด้วย
ไม่เพียงแต่การสาดน้ำเท่านั้น เพราะเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาวให้ประชาชนได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ ผู้คนมากหน้าหลายตา ที่เข้ามาอาศัยเมืองหวงเป็นแหล่งทำมาหากิน จะได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ต้องห่างหายมานาน ไม่เว้นแม้แต่คนกรุงที่เปรียบเสมือนวันหยุดพักผ่อนติดต่อหลายวันจึงเลือกที่จะออกท่องเที่ยวต่างจังหวัด
ช่วงที่ไม่มีคนอยู่บ้านจึงเป็นช่องทางที่เหล่ามิจฉาชีพมักออกทำมาหากิน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ในฐานะแม่ทัพนครบาล ได้สั่งการไปยัง พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม่ รอง ผบช.น. ดูแลงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ดำเนินการแผนเฝ้าระภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ และป้องกันปราบปรามอาชญากรรรม โดยสั่งการไปยังกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ตั้งจุดตรวจค้น เพื่อป้องกันอาชญากรรมทั้งกลางวันและกลางคืน
พล.ต.ต.วิบูลย์ กล่าวว่า ในส่วนนี้ได้กำชับไปยังตำรวจทุกพื้นที่ ห้ามลา ห้ามขาด และให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้พอเพียงสำหรับให้บริการประชาชนในพื้นที่นั้น ๆ และเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราบริเวณธนาคาร ร้านทอง และร้านสะดวกซื้อที่จำหน่ายสินค้าตลอด 24 ชม. ปั๊มน้ำมัน รวมถึงสถานที่มีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นเป้าหมายของคนร้ายในการก่อเหตุ เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อย
นอกจากการเฝ้าระวังแล้ว พล.ต.ต.วิบูลย์ ยังบอกอีกว่า สั่งให้ฝ่ายสืบสวนจัดกำลัง หาข่าว และจับกุมผู้ต้องสงสัยกระทำผิด เกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้ไฟ การก่อความไม่สงบ หรือการประทุษร้ายต่อทรัพย์สินโดยเฉพาะการปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ ทั้งธนาคาร ร้านทอง ร้านอัญมณี ปั๊มน้ำมัน ร้านค้าสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง เคหสถาน หมู่บ้านจัดสรร หรือชุมชนขนาดใหญ่ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลตามโครงการ “ฝากบ้านไว้กลับตำรวจ” และโครงการเพื่อนบ้านเตือนภัย โดยเน้นเจ้าของบ้านที่เข้าร่วมโครงการแจ้งเลขหมายโทรศัพท์ต่อสถานีตำรวจกับเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงช่วยสอดส่องดูแล แจ้งเหตุผิดปกติให้ทราบ
ไม่เพียงแต่ดูแลความปลอดภัยจากเหล่ามิจฉาชีพเท่านั้น แต่ พล.ต.ต.วิบูลย์ บอกว่า ยังสั่งการให้ ดูแลถึงกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมในลักษณะบังคับ ข่มขู่เรียกเก็บค่าคุ้มครอง บังคับให้ซื้อสินค้า ขายสินค้าเกินราคา ทำร้ายร่างกายผู้ที่ไม่ยอมจ่ายค่าค่าคุ้มครอง ค่าจอดรถ เน้นบุคคลที่ทำตัวเป็นนักเลงท้องถิ่นหรืออันพาลตามที่จอดรถสาธารณะ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้คนไปพักผ่อนโดยเฉพาะสถานที่จัดงานสงกรานต์
พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ฝากไว้เพื่อความสบายใจของคนกรุงคือ “เดินทางไกลไม่ประมาท ปราศจากของมึนเมา ง่วงเพลียเราต้องพัก บ้านพักเราช่วยท่านดูแล” และขอให้เทศกาลสงกรานต์คือเทศกาลแห่งความสุข ปราศจากความเศร้า แต่สิ่งที่จะช่วยได้ดีที่สุด คือ “การมีสติ”
จากปีที่ผ่านมาช่วง 7 วันอันตราย 11-17 เมษายน 2550 พบว่ามีอัตราการเสียวชิตเฉพาะในกรุงเทพมหานครอยู่ที่ 12 ราย บาดเจ็บ 83 ราย แม้ตัวเลขจะไม่สูง แต่หากไม่เกิดขึ้นเลยคงจะดีที่สุด
และสาเหตุของการเสียชีวิตสูงสุดยังคงเกิดจากรถจักรยานยนต์ พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. ดูแลงานด้านการจราจร เผยว่า ช่วงเทศกาลผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ไม่ชอบที่จะสวมหมวกนิรภัย เพราะรู้สึกเกะกะ และสาเหตุอีกอย่างคือมักชอบขับขี่รถด้วยความประมาทหวาดเสียว ที่สำคัญคือ เมาแล้วขับ อีกทั้งมักจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ออกมาเล่นสงกรานต์กัน
“เพื่อเป็นการป้องกันและกวดขันวินัยจราจรรวมถึงบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อลดอุบัติเหตุ ได้สั่งการให้ทุก สน.ตั้งด่านกวดขันอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มักจะมีวัยรุ่นรวมกลุ่มกันเข้ามาเที่ยวทั้งย่านถนนข้าวสาร ซอยโชคชัย4 โดยเน้นตรวจผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย และหากไม่มีหรือไม่พกใบอนุญาตขับขี่รถจะต้องถูกยึดรถจนกว่าเจ้าของรถจะนำหลักฐานมาแสดง และต้องมีใบอนุญาตขับขี่จึงจะสามารถนำรถกลับไปได้ รวมถึงให้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์อย่างเข้มงวดด้วย และที่สำคัญจะกวดขันการแข่งรถด้วย” พล.ต.ต.ภาณุ กล่าว
ไม่เพียงแต่การกวดขันรถจักรยานยนต์เท่านั้นรถยนต์ที่มักจะขนทั้งคนทั้งน้ำเข้ามาเล่นในถนนที่มีการจราจรหนาแน่น นอกจากทำให้รถติดจากการหยุดเล่นสาดน้ำแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และอันตรายจากการเล่นสาดน้ำที่รุนแรง พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุและปัญหาการจราจรแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน กองบัญชาการตำรวจนครบาลจึงห้ามรถยนต์ดังกล่าวเข้าถนนสายสำคัญและในจุดที่มีการเล่นสงกรานต์หนาแน่น หากฝ่าฝืนจะถูกจับกุมข้อหาบรรทุกสิ่งของตกหล่นบนทางอันอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่นปรับไม่เกิน 500 บาท และยังมีความผิดข้อหาฝ่าฝืนข้อบังคับเจ้าพนักงาน โทษปรับไม่เกิน 1,000 บาทด้วย
ส่วนการเล่นสงกรานต์นั้น พล.ต.ต.ภาณุ เผยว่า ห้ามเล่นแป้งทุก ห้ามปืนฉีดน้ำความดันสูง พื้นที่ทั่วกรุง ส่วนพื้นที่ที่มีผู้คนออกมาสาดน้ำกันจำนวนมาก และอยกฝากเตือนกลุ่มวัยรุ่นสาว ๆ ให้แต่งตัวมิดชิด จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของบุคคลที่ฉวยโอกาสลวนลามได้
นอกจากการตั้งด่านตรวจสกัดที่ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว พล.ต.ต.ภาณุ ยังเผยอีกว่าได้ร่วมกับทางกรุงเทพมหานครในการสอดส่องดูแลความเรียบร้อย โดย กทม. ได้ดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือซีซีทีวี (CCTV) จำนวน 26 จุด ที่บริเวณสนามหลวง และถนนราชดำเนินกลาง เพื่อดูแลความปลอดภัยและความสะดวกของเส้นทางจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อีกทั้งกล้องซีซีทีวียังช่วยในการสอดส่องการลอบวางระเบิดในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการรักษาความปลอดภัยอีกด้วย
ไม่เพียงแต่การสาดน้ำเท่านั้น เพราะเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาวให้ประชาชนได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ ผู้คนมากหน้าหลายตา ที่เข้ามาอาศัยเมืองหวงเป็นแหล่งทำมาหากิน จะได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ต้องห่างหายมานาน ไม่เว้นแม้แต่คนกรุงที่เปรียบเสมือนวันหยุดพักผ่อนติดต่อหลายวันจึงเลือกที่จะออกท่องเที่ยวต่างจังหวัด
ช่วงที่ไม่มีคนอยู่บ้านจึงเป็นช่องทางที่เหล่ามิจฉาชีพมักออกทำมาหากิน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ในฐานะแม่ทัพนครบาล ได้สั่งการไปยัง พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม่ รอง ผบช.น. ดูแลงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ดำเนินการแผนเฝ้าระภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ และป้องกันปราบปรามอาชญากรรรม โดยสั่งการไปยังกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ตั้งจุดตรวจค้น เพื่อป้องกันอาชญากรรมทั้งกลางวันและกลางคืน
พล.ต.ต.วิบูลย์ กล่าวว่า ในส่วนนี้ได้กำชับไปยังตำรวจทุกพื้นที่ ห้ามลา ห้ามขาด และให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้พอเพียงสำหรับให้บริการประชาชนในพื้นที่นั้น ๆ และเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราบริเวณธนาคาร ร้านทอง และร้านสะดวกซื้อที่จำหน่ายสินค้าตลอด 24 ชม. ปั๊มน้ำมัน รวมถึงสถานที่มีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นเป้าหมายของคนร้ายในการก่อเหตุ เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อย
นอกจากการเฝ้าระวังแล้ว พล.ต.ต.วิบูลย์ ยังบอกอีกว่า สั่งให้ฝ่ายสืบสวนจัดกำลัง หาข่าว และจับกุมผู้ต้องสงสัยกระทำผิด เกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้ไฟ การก่อความไม่สงบ หรือการประทุษร้ายต่อทรัพย์สินโดยเฉพาะการปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ ทั้งธนาคาร ร้านทอง ร้านอัญมณี ปั๊มน้ำมัน ร้านค้าสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง เคหสถาน หมู่บ้านจัดสรร หรือชุมชนขนาดใหญ่ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลตามโครงการ “ฝากบ้านไว้กลับตำรวจ” และโครงการเพื่อนบ้านเตือนภัย โดยเน้นเจ้าของบ้านที่เข้าร่วมโครงการแจ้งเลขหมายโทรศัพท์ต่อสถานีตำรวจกับเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงช่วยสอดส่องดูแล แจ้งเหตุผิดปกติให้ทราบ
ไม่เพียงแต่ดูแลความปลอดภัยจากเหล่ามิจฉาชีพเท่านั้น แต่ พล.ต.ต.วิบูลย์ บอกว่า ยังสั่งการให้ ดูแลถึงกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมในลักษณะบังคับ ข่มขู่เรียกเก็บค่าคุ้มครอง บังคับให้ซื้อสินค้า ขายสินค้าเกินราคา ทำร้ายร่างกายผู้ที่ไม่ยอมจ่ายค่าค่าคุ้มครอง ค่าจอดรถ เน้นบุคคลที่ทำตัวเป็นนักเลงท้องถิ่นหรืออันพาลตามที่จอดรถสาธารณะ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้คนไปพักผ่อนโดยเฉพาะสถานที่จัดงานสงกรานต์
พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ฝากไว้เพื่อความสบายใจของคนกรุงคือ “เดินทางไกลไม่ประมาท ปราศจากของมึนเมา ง่วงเพลียเราต้องพัก บ้านพักเราช่วยท่านดูแล” และขอให้เทศกาลสงกรานต์คือเทศกาลแห่งความสุข ปราศจากความเศร้า แต่สิ่งที่จะช่วยได้ดีที่สุด คือ “การมีสติ”
