บช.น.รับมือ 7 วันอันตราย อำนวยความสะดวก บขส.เต็มที่ ระหว่าง 11-16 เม.ย.เร่งระบายคนส่งกลับบ้าน พร้อมตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์พนักงานขับรถ งัดมุกเดิมดูแลจราจร กทม. 3 ม 2 ข 1 ร เล็งแก๊งซิ่งขับเล่นน้ำ สั่งทุก สน.ตั้งด่านสกัด เตือนโจ๋ขับรถไม่สวมหมวก ไม่พกใบขับขี่ ถูกยึดรถแน่!
วันนี้ (8 เม.ย.) พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลงานด้านจราจร เปิดเผยภายหลังให้นโยบายตำรวจจราจร บช.น.ในการประชุมบริหารงานจราจรประจำเดือน เพื่อเตรียมความพร้อมดูแลอำนวยความสะดวกการจราจรและบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในช่วง 7 วันอันตราย 11-17 เม.ย. นี้ ว่า ปี 2550 ในกรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บ 83 ราย สำหรับการอำนวยความสะดวกจราจรได้ประสานกับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จัดทางเข้าและออกของรถโดยสารต่างจังหวัด รวมทั้งที่จอดรถ ขสมก.ให้ประชาชนเดินทางเข้าสถานีได้สะดวก เพิ่มพื้นที่จอดรถรับส่งบริเวณที่ว่าง 35 ไร่ คาดว่าจะไม่มีผู้โดยสารตกค้างสามารถออกสู่ภูมิภาคได้หมดภายในเวลา 24.00 น. นอกจากนี้จะมีการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์พนักงานขับรถบริเวณทางออกของสถานีขนส่งทุกแห่ง
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งจะมีย่านที่นักท่องเที่ยวและประชาชนไปเล่นสาดน้ำจำนวนมาก เช่น ที่ถนนข้าวสาร ถนนสีลม ถนนอุทยาน ถนนโชคชัย 4 นอกจากการอำนวยความสะดวกการจราจรแล้ว จะยังคงมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อลดอุบัติเหตุตามมาตรการ 3 ม 2 ข 1 ร โดย เฉพาะรถจักรยานยนต์ซึ่งจะมีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันตระเวนไปตามที่ที่มีการเล่นสาดน้ำในจุดต่างๆ ได้สั่งการให้ทุก สน.ตั้งด่านกวดขันอย่างเข้มงวด เนื่องจากปีที่ผ่านมาพบว่าจะมีวัยรุ่นรวมกลุ่มกันเข้ามาเที่ยวย่านถนนข้าวสารทำให้ สน.ท้องที่ในเมืองต้องทำงานหนักมากขึ้น
ทั้งนี้ ขอเตือนให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัย และหากไม่มีหรือไม่พกใบอนุญาตขับขี่รถจะต้องถูกยึดรถจนกว่าเจ้าของรถจะนำหลักฐานมาแสดง และต้องมีใบอนุญาตขับขี่จึงจะสามารถนำรถกลับไปได้ นอกจากนี้จะกวดขันการแข่งรถด้วย
สำหรับรถกระบะบรรทุกคนและอุปกรณ์เล่นสาดน้ำ ซึ่งการตระเวนรถเล่นสาดน้ำโดยเฉพาะในถนนที่มีการจราจรหนาแน่นนั้น นอกจากทำให้รถติดจากการหยุดเล่นสาดน้ำแล้วยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และอันตรายจากการเล่นสาดน้ำที่รุนแรง ซึ่ง บช.น.ได้ออกข้อบังคับห้ามเข้าพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ ทางคู่ขนานลอยฟ้า ถนนบรมราชชนนี ถนนอรุณอมรินทร์ และถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ตั้งแต่วันที่ 11-16 เม.ย. หากฝ่าฝืนจะถูกจับกุมข้อหาบรรทุกสิ่งของตกหล่นบนทางอันอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่นปรับไม่เกิน 500 บาท และยังมีความผิดข้อหาฝ่าฝืนข้อบังคับเจ้าพนักงาน โทษปรับไม่เกิน 1,000 บาทด้วย
