“อัศวิน” ออกแผนเฝ้าระวังสงกรานต์ เน้นสายตรวจดูแลร้านสะดวกซื้อ ร้านทอง ปั๊มน้ำมัน สั่งสายสืบเฝ้าดูพฤติกรรมขาใหญ่ นักเลง ข่มขู่รีดไถ พร้อมเตือนระวังไฟไหม้ช่วงหน้าร้อน
วันนี้ (9 เม.ย.) พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.กล่าวถึงมาตรการกองบัญชาการตำรวจนครบาล ป้องกันปราบปรามอาชญากรรรมและการรณรงค์เตือนภัยประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า ได้มอบหมาย พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม เป็นผู้ควบคุมดูแลปฏิบัติ ตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน 2551 โดยสั่งการไปยังกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ตั้งจุดตรวจค้น เพื่อป้องกันอาชญากรรมทั้งกลางวันและกลางคืน โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละ สน.ให้พอเพียงสำหรับให้บริการประชาชนทั้งใน และเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราบริเวณธนาคาร ร้านทอง และร้านสะดวกซื้อที่จำหน่ายสินค้าตลอด 24 ชม.สถานที่มีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นเป้าหมายของคนร้ายในการก่อเหตุ เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
ผบช.น.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนจัดกำลัง หาข่าว และจับกุมผู้ต้องสงสัยกระทำผิด เกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนและการก่อความไม่สงบ หรือการกระทำการอื่นใดที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์สินโดยเฉพาะการปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ ธนาคาร ร้านทอง ร้านอัญมณี ปั๊มน้ำมัน ร้านค้าสะดวกซื้อที่มีการจำหน่ายสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง ศูนย์การค้า สถานที่ประกอบการที่มีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก เคหสถาน หมู่บ้านจัดสรร หรือชุมชนขนาดใหญ่ รวมถึงพวกที่มีพฤติกรรมในลักษณะบังคับ ข่มขู่เรียกเก็บค่าคุ้มครอง บังคับให้ซื้อสินค้า ขายสินค้าเกินราคา ขูดขีดสีรถ การด่อทอ ทำร้ายร่างกายผู้ที่ไม่ยอมจ่ายค่าจอดรถ หรือค่าคุ้มครอง โดยบุคคลที่กระทำตนเป็นนักเลงท้องถิ่นหรืออันพาลตามที่จอดรถสาธารณะ สถานที่ท่องเที่ยวๆ โดยเฉพาะสถานที่จัดงานสงกรานต์
“ส่วนนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลทรัพย์สินของประชาชนในช่วงเทศกาล ตามโครงการ “ฝากบ้านไว้กลับตำรวจ” และโครงการเพื่อนบ้านเตือนภัย โดยเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราบ้านที่รับฝากแล้ว ยังแจ้งเลขหมายโทรศัพท์ต่อสถานีตำรวจกับเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงช่วยสอดส่องดูแล แจ้งเหตุผิดปกติให้ทราบ ซึ่งยอดฝากบ้านไว้กลับตำรวจ บก.น.1-9 สูงถึง 145 หลังคาเรือน” พล.ต.ท.อัศวิน กล่าว
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อไปว่า ได้เน้นกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนายตรวจตรากลุ่มมิชฉาชีพที่อาศัยช่องทางในช่วงเทศกาล ฉวยโอกาสเข้าไปงัดแงะตามบ้านเรือนในชุมชนต่างๆ จึงได้ให้เพื่อนบ้านที่หากพบเห็นบุคคลแปลกหน้า ไม่เคยพบเห็นมาก่อนทำท่าทีเข้ามาเป็นช่างรับซ่อมเคลื่อนที่ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ส่วนการเกิดอัคคีภัยโดยเฉพาะช่วงนี้เป็นหน้าร้อน ให้ประชาชนระวัง ไม่ควรจุดธูปเทียน ตลอดจนการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแก๊สหุงต้ม ก่อนออกจากบ้านไปเล่นน้ำสงกรานต์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอัคคีภัยได้