xs
xsm
sm
md
lg

“วัฒนา” เส้นเลือดก้านสมองอุดตัน ขอเลือนไต่สวนคดีคลองด่าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรมช.มหาดไทย จำเลยในคดีทุจริตคลองด่าน
อดีต รมช.มหาดไทย “วัฒนา อัศวเหม” ส่งทนาย แสดงใบรับรองแพทย์ ขอเลื่อนศาลไต่สวนคดีคลองด่าน เป็นคำรบสอง ระบุ เส้นเลือดอุดตันที่ก้านสมอง ทำให้สั่งการโต้ตอบ ความจำ การนึดคิดช้าลง ต้องกินยาจนมีผลทำให้น้ำท่วมปอด ปัสสาวะบ่อย ศาลถามทนาย เข้าโรงพยาบาลวันที่ 2 เม.ย.แต่วันที่ 3 กลับเป็นข่าวให้สัมภาษณ์ถือว่าไม่เหมาะสม โดยศาลนัดไต่สวนพยานอีกครั้ง 11 เม.ย.นี้

วันนี้ (8 เม.ย.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีดำ อม.2/2550 พร้อมองค์คณะผู้พิพากษารวม 9 คน ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานจำเลยครั้งที่สอง คดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย และประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และ 157 ในการใช้อำนาจข่มขู่ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นร่วมออกโฉนดที่ดิน 1,900 ไร่ ทับที่คลองสาธารณประโยชน์ และที่เทขยะมูลฝอยซึ่งเป็นที่สงวนหวงห้าม เพื่อนำไปขายให้กรมควบคุมมลพิษเพื่อก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสีย ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มการไต่สวนพยาน นายไพบูลย์ โพธิ์น้อย ทนายความ นายวัฒนา ยื่นคำร้องต่อศาลพร้อมใบรับรองแพทย์ ขอเลื่อนนัดไต่สวน นายวัฒนา จำเลย อีกเป็นครั้งที่สอง หลังจากเมื่อวันที่ 2 เม.ย.โดย นายไพบูลย์ แถลงต่อศาลว่า หลังจากที่ นายวัฒนา เข้าตรวจรักษาอาการสับสนเฉียบพลัน ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ด้วยการเอกซเรย์ตรวจสมองด้วยคอมพิวเตอร์แล้ว เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า นายวัฒนา มีอาการเส้นเลือดอุดตันที่ก้านสมอง ทำให้การโต้ตอบทำได้เชื่องช้า ความจำ และความนึกก็มีปัญหาเชื่องช้าด้วย ซึ่งระหว่างนี้ต้องกินยาที่มีผลข้างเคียง ทำให้มีน้ำท่วมปอด ซึ่งแพทย์ต้องให้กินยาเพื่อขับเป็นปัสสาวะ ดังนั้น จึงทำให้ นายวัฒนา ต้องเข้าห้องน้ำบ่อย ด้วยเหตุดังกล่าวจึงจะขออนุญาตศาลว่าหาก นายวัฒนา ไม่สามารถเดินทางมาเพื่อไต่สวนจะขอยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์ได้หรือไม่ ทั้งนี้ ศาลสอบถาม นายไพบูลย์ ทนายความ ย้ำว่า นายวัฒนา จะเดินทางมาศาลได้หรือไม่ นายไพบูลย์ ทนายความ จึงแถลงว่า หากอาการของนายวัฒนาไม่มีปัญหาจะพยายามมาศาลให้ได้ภายในกำหนเดวันนัดไต่สวนพยานจำเลย ที่เหลืออีก 2 นัด คือ วันที่ 11 และ 17 เม.ย.นี้

อย่างไรก็ดี เมื่อศาลถามว่า นายวัฒนา มีอาการป่วยโรคดังกล่าวตั้งแต่เมื่อใด นายไพบูลย์ แถลงว่า นายวัฒนา ป่วยเป็นโรคหัวใจนานแล้ว ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีอาการแสดงออก แต่เมื่อมีอาการเครียดต้องใช้สมองคิดอะไรมากๆ จึงทำให้เกิดอาการและเมื่อแพทย์ตรวจ จึงพบว่ามีอาการดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม นายวัฒนา ก็ต้องการที่จะมาให้การไต่สวน เพราะในชั้น ป.ป.ช.นายวัฒนา ไม่มีโอกาสต่อสู้อย่างเต็มที่ และให้การต่อสู้ในชั้น ป.ป.ช.อย่างคนตาบอด ทั้งนี้ศาลสอบถามอัยการโจทก์ ที่ทนายความจะเลื่อนนัดไต่สวนนายวัฒนา จำเลย วันนี้ออกไปก่อน แล้วไม่คัดค้าน ศาลจึงอนุญาตตามคำร้องของทนายความ แต่อย่างไรก็ดี ม.ล.ไกรฤกษ์ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ได้กล่าวกับ นายไพบูลย์ ทนายความ ด้วยว่า ทราบหรือไม่ว่าเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏข่าว นายวัฒนา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทางหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับเรื่องการสนับสนุนส่งเสริมการกีฬา ทั้งที่ก่อนหน้าทนายความแจ้งว่า นายวัฒนา ป่วยพักอยู่ที่ โรงพยาบาล ซึ่ง นายไพบูลย์ ทนายความ แถลงปฏิเสธว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ม.ล.ไกรฤกษ์ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน จึงกล่าวว่า ทนายความไม่ทราบไม่เป็นไร แต่ขอให้กลับไปตรวจดูด้วยว่าเป็นความจริงหรือไม่ เพราะหาก นายวัฒนา ป่วยจริง แต่ยังออกมาให้สัมภาษณ์ก็เป็นเรื่องไม่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม วันนี้ แม้ทนายความจะไม่สามารถนำ นายวัฒนา มาไต่สวนได้ แต่ทนายความเตรียมพยานปากอื่นขึ้นเบิกความแทน รวม 3 ปาก คือ นายชาย ศรีสงวนสกุล อายุ 66 ปี เซียนพระเครื่อง ซึ่งรู้จักกับ นายวัฒนา ก่อนปี 2531 โดยศาลสอบถามพยานปากนี้ เกี่ยวกับพระผงสุพรรณ ที่ยึดได้เป็นของกลางในคดีนี้ ที่มีการอ้างว่า นายวัฒนา ให้ พระผงสุพรรณ กับผู้ร่วมกระทำผิด ว่า มีมูลค่าเท่าใด นายชาย ตอบว่า พระดังกล่าวไม่ใช่พระเก๊ แต่เป็นพระที่น่าจะทำขึ้นไม่เกิน 30 ปี มูลค่าจึงอยู่ที่หลักร้อยบาทเกือบถึงพันบาท จนถึงหลักพันบาทต้น ( 900-2,000 บาท) ซึ่งพระผงสุพรรณดังกล่าวไม่ใช่รุ่นที่มีความต้องการสูงในตลาดเซียนพระ ขณะที่อัยการโจทก์ พยายามซักถามพยานความสัมพันธ์ ระหว่างพยานกับนายวัฒนา ในการธุรกิจ ว่า พยานมีหุ้นในบริษัท อินเตอร์ปาล์ม ออยล์ จำกัด ที่ถูกกล่าวหาคดีบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ อ.กะปง จ.พังงา ที่ นายวัฒนา ตกเป็นจำเลยร่วมด้วยใช่หรือไม่ นายชาย ตอบยอมรับว่า มีหุ้นในบริษัทดังกล่าวจริง เมื่อถึงการลงทุนธุรกิจอื่นๆ นายชาย ตอบว่า ได้ร่วมลงทุนธุรกิจกับนายวัฒนาในบริษัท นอร์ทเทิร์น จำกัด มูลค่าลงทุนสูงสุด 100 ล้านบาท

ส่วนพยานปากที่สอง คือ นายธนพล อินทนันท์ อายุ 49 ปี อาชีพทนายความ และจำเลยร่วมนายวัฒนา คดีบุกรุกที่ อ.กะปง จ.พังงา ให้การว่า เคยเป็นกรรมการ บริษัท ปาล์มบีช ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ที่ซื้อ-ขายที่ดินคดีนี้ โดย บจก.ปาล์มบีช ได้ซื้อที่ดินระหว่าปี 2531-2535 จากของ บริษัท สหมารีน จำกัดในเครือสหพัฒนพิบูล, บริษัท มารีน่า อินเตอร์คลับ จำกัด และบริษัท เหมืองแร่ ลานทอง จำกัด ที่มี นายสมพร อัศวเหม และ นายมั่น พัธโนทัย เป็นกรรมการผู้มีอำนาจและที่ดินชาวบ้านที่ทำนากุ้ง รวม 3,000 ไร่ เพื่อจะทำสนามกอล์ฟ แต่เมื่อก่อสร้างแล้วเกิดภาวะขาดทุน จึงนำที่ดินกลับมาทำนากุ้งในนามบริษัท คอลงด่าน มารีน จำกัด แต่เมื่อกิจการยังขาดทุนจึงขายที่ดินต่อ ซึ่งอัยการโจทก์ ซักถามพยานว่า ขณะที่ซื้อที่ดินมา พบว่าเป็นดิน ส.ค.1 ที่ใบเอกสารสิทธิ์ด้านหลังระบุว่าเป็นที่เทขยะ ใช่หรือไม่ นายธนพล ตอบยอมรับว่าใช่ แต่ที่ตัดสินใจซื้อ เพราะได้สอบถามเจ้าหน้าที่กรมที่ดินแล้ว และปี 2529 หน่วยงานรัฐได้ส่งเรื่องหารือคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า ที่ดินยังมีสภาพเป็นที่เทขยะหรือไม่ตามประกาศผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ.2472 ซึ่งกฤษฎีกา ระบุว่า ที่ดิน ได้มีการแบ่งแยกที่แล้วตามพระราชกฤษฎีกาที่ออกเมื่อปี 2473-2474 และได้มีการเสนอ ครม. แล้วในปี 2531 ประกอบกับทราบข่าวสถานทูตสหรัฐอเมริกา ก็ซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียง ย่านบางบ่อ จำนวนกว่า 2,000 ไร่ ซึ่งกรมที่ดินได้ออกโฉนดที่ดินให้ ดังนั้น พยานจึงเชื่อว่าที่ดินนั้นซื้อ-ขาย และออกโฉนดได้ เมื่ออัยการถามย้ำว่า ที่ดินที่บริษัทซื้อมาเพิ่งได้โฉนดเมื่อปี 2536-2537 เพียงแค่ 10 ไร่เศษ ใช่หรือไม่ นายธนพล ตอบว่า เมื่อซื้อที่ดินมาแล้วบริษัทพยายามขอออกโฉนดแต่ใช้เวลานานกว่าจะได้รับการออกโฉนด

เมื่ออัยการถามอีกว่า ในการซื้อขายที่ดินของบริษัทมีชื่อนายวัฒนาเกี่ยวข้องหรือไม่ และในการซื้อขายที่ดินเคยร้องขอความช่วยเหลือนายวัฒนาหรือไม่ นายธนพล ตอบว่า นายวัฒนาไม่มีชื่อเกี่ยวข้องด้วย ส่วนที่เคยร้องขอความช่วยเหลือนายวัฒนา เมื่อดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทยนั้น เพียงแค่การสอบถามเรื่องการออกโฉนดล่าช้าเท่านั้น

ส่วนพยานปากสุดท้าย นายสมศักดิ์ ตีระพัฒนกุล ประธานบริษัท ฟู๊ดแลนด์ ซูเปอร์มาเก็ต จำกัด ให้การว่า เคยเป็นกรรมการ บจก.ปาล์มบีช ซึ่งบริษัทจัดทำสนามกอล์ฟ โดยยืนยันว่านายวัฒนา ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นในบริษัท

ภายหลังศาลไต่สวนพยานทั้ง 3 ปากเสร็จสิ้นแล้ว ศาลนัดไต่สวนพยานจำเลยปากต่อไปในวันที่ 11 เมษายน นี้ เวลา 09.30 น.โดยศาลสั่งกำชับให้ทนายความนำพยานมาให้พร้อมไต่สวนด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น