xs
xsm
sm
md
lg

“ชูวิทย์” ไล่ “บรรหาร” เลี้ยงหลานถ้าพรรคชาติไทยถูกยุบ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

“บรรหาร” ส่ง “นิกร” เบิกความเป็นพยานชั้นไต่สวน คดีฟ้องหมิ่น “ชูวิทย์” กล่าวหากลับคำร่วมรัฐบาล ขณะที่ จอมแฉชูวิทย์ เย้ย “เติ้ง” น่าสงสาร แนะไปเลี้ยงหลาน หากพรรคชาติไทยถูกยุบ ยึดคติ “คนล้มไม่ข้ามแต่ต้องกระทืบซ้ำ”

วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนมูลฟ้อง ในคดีที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย มอบอำนาจให้ นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีที่ นายชูวิทย์ แถลงข่าวที่หน้าที่ทำการพรรคชาติไทย เกี่ยวกับการตัดสินใจร่วมรัฐบาล และวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับฉายา “หลงจู๊” ของนายบรรหาร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 และ 20 ม.ค.2551

โดยในวันนี้ทนายโจทก์ นำ นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ขึ้นเบิกความเป็นปากแรกสรุปว่า การแถลงข่าวของจำเลย ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง เนื่องจากจำเลยไม่พอใจ ที่ไม่ได้รับเลือกให้ลงสมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วน ลำดับที่ 1 ของพรรคชาติไทย ในเขต กทม.ซึ่งในการแถลงข่าวนั้น จำเลยได้ให้ความหมายของคำว่า “หลงจู๊” ซึ่งเป็นฉายาของโจทก์ ไปในทางลบ ทั้งที่ความจริงคำว่า “หลงจู๊” นั้น มีความหมายว่า “ผู้จัดการ” ส่วนคำว่าพรรคปลาไหล นั้น เป็นฉายาในยุคที่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นหัวหน้าพรรคชาติไทย ซึ่งได้มาจากลักษณะท่าทาง และมีความแตกต่างจากตัวโจทก์ นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า การตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน นั้นเป็นมติของคณะกรรมการบริหารพรรคชาติไทย ทั้ง 40 คน ไม่ใช่การตัดสินใจของโจทก์เพียงลำพัง การที่จำเลยแถลงข่าวทีริมถนนนั้นเปรียบเสมือนการประจาน ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดคิดว่า โจทก์เป็นนักการเมืองไม่ดี สร้างความเสียหายแก่โจทก์อย่างร้ายแรง

ทนายจำเลยถามค้านว่า โจทก์ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนยืนยันไม่เข้าร่วมกับพรรคพลังประชาชนในการจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ นายนิกร ตอบว่า โจทก์มักกล่าวว่าจะต้องรอดูผลการเลือกตั้งก่อน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า มีเพียงพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเดียวที่ประกาศไม่เข้าร่วมจัดรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน หลังจากนั้นทนายจำเลยได้ขออนุญาตศาลเปิด แผ่นวีซีดี บันทึกคำให้สัมภาษณ์ของนายบรรหาร เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2550 ซึ่งเป็นวันรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ระบบสัดส่วน ที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง โดยนายบรรหาร ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ทำนองว่าจะไม่เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน พร้อมกับมีพยานเอกสารบันทึกถอดเทปคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว ไว้ให้ศาลพิจารณาด้วย ซึ่ง นายนิกร ยอมรับว่า บันทึกดังกล่าวตรงกับคำให้สัมภาษณ์ในแผ่นวีซีดีจริง

นอกจากนี้ นายนิกร ยังตอบคำถามค้านทนายจำเลย ยืนยันว่า ที่หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 22 มี.ค.2551 เสนอข่าวว่าโจทก์กล่าวว่าในการบรรยายพิเศษต่อที่ประชุมพรรคชาติไทยว่าเป็นผู้ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนนั้น อาจเป็นการตีพิมพ์ที่ผิดพลาด เพราะการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลขึ้นอยู่กับมติของคณะกรรมการบริหารพรรค

หลังเบิกความแล้วเสร็จ ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องอีกครั้ง ในวันที่ 16 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ภายหลัง นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนไม่อยากพูดอะไรมากเพราะคดีขึ้นสู่ศาลแล้ว แต่เห็นว่านายนิกร ไม่ควรมาเสียเวลาในคดีนี้ เพราะควรเอาเวลาไปเตรียมตัวขึ้นศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคชาติไทยจะดีกว่า นอกจากนี้ ยังอยากฝากถึงนายบรรหารว่า อย่าโกรธตนเลยเพราะเรื่องที่ตนพูดเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

“ผมยืนยันว่า ยังเคารพท่านบรรหารเหมือนเดิม แต่หากท่านบรรหารเป็นคนใจกว้างจริง วันนี้ท่านน่าจะเตรียมตัวหาอาชีพใหม่ หรือกลับไปเลี้ยงหลานที่บ้านดีกว่า” นายชูวิทย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่า พรรคชาติไทยจะถูกพิพากษาให้ยุบพรรคหรือไม่ นายชูวิทย์กล่าว คดีนี้ถ้าเป็นการเล่นไฮโล ก็เหมือนเปิดถ้วยแทง และตนยึดถือสุภาษิตที่ว่า “คนล้มอย่าข้าม แต่คนล้มต้องกระทืบซ้ำ” แต่ในฐานะอดีตสมาชิกพรรคยอมรับว่าก็รู้สึกสงสารพรรคชาติไทยอยู่เหมือนกัน



กำลังโหลดความคิดเห็น