“เติ้ง” ส่งทนายฟ้องหมิ่น “ชูวิทย์” แล้ว กรณีให้สัมภาษณ์ทำนองว่า “ไม่มีสัจจะ ยึดประโยชน์ส่วนตัว” นัดไต่สวน 31 มี.ค.นี้ สัปดาห์หน้าขู่ฟ้องแพ่งอีก 100 ล้าน ด้าน “ชูวิทย์” เดินทางมาศาลอ้างมารอรับหมาย เผยจะฟ้องกลับบ้างเรียกค่าเสียหายแค่ร้อยเดียว.
คลิกที่นี่ เพื่อฟังเสียง "ชูวิทย์"รอรับหมาย"เติ้ง"ฟ้อง เผยจะฟ้องกลับ"เติ้ง"ร้อยเดียว
วันนี้ (29 ม.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย โดยนายนิกร จำนง ผู้รับมอบอำนาจได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยโจทก์ระบุฟ้องความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 18-20 ม.ค. 51 จำเลยได้จัดเตรียมโต๊ะ เก้าอี้ รวมทั้งภาพข่าวจากหนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับมานั่งแถลงข่าวบริเวณริมถนน ที่ทำการพรรคชาติไทย โดยนำภาพถ่ายของโจทก์เท่าตัวจริงวางไว้บนเก้าอี้ ทั้งกล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ทำนองว่า “วันนี้ท่านควรวางบทบาทได้แล้วคนที่ตั้งฉายาท่านว่า “หลงจู๊” คนบางคนไม่รู้ว่าหลงจู๊แปลว่าอะไร ผมรู้ว่าหลงจู๊มันต่างกับเถ้าแก่อย่างไร แต่หลงจู๊นั้นเอาประโยชน์ต่อหน้าเท่านั้น ไม่คิดอื่นใด มีความคับแคบ เห็นประโยชน์ส่วนตัว ท่านไร้สัจจะ ท่านไม่มีจุดยืน หลอกลวงชาวบ้าน โกหกประชาน ท่านยกข้ออ้างบังหน้า ยอมโดนด่าเพื่อเข้าร่วมรัฐบาล ท่านปล้นคะแนนชาวบ้าน ลุ่มหลงลาภยศ สังคมผิดหวัง คนอย่างท่านไม่มีสัจจะ ยึดถือประโยชน์ส่วนตัว ไม่มีจุดยืน การเมืองสับสน เพราะมีคนอย่างท่าน และข้อความอื่นๆ ซึ่งล้วนเป็นเท็จ”
การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นดูแคลนว่าเป็นนักการเมืองไม่ดี ไม่น่าคบ หลอกลวงประชาชน สร้างความเสียหายแก่โจทก์อย่างร้ายแรงเนื่องจากมีการเตรียมการจงใจอย่างทุจริต ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย ศาลรับคำร้องไว้ และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ครั้งแรกในวันที่ 31 มี.ค.นี้ เวลา 09.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ได้เดินทางมาที่ศาลอาญาเช่นกัน พร้อมกับกล่าวว่าวันนี้ตนมารอรับหมายศาลด้วยตัวเอง รออยู่ครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มีใครมา ถ้าคิดว่าหลักฐานชัดเจนจริงก็ฟ้องได้ แต่ยืนยันได้ว่าหลักฐานที่ตนมีอยู่ก็ชัดเจนมากกว่า
“ท่านจะเอาเงินร้อยล้านมาปิดปากผม ปิดไม่อยู่ เดี๋ยวผมจะฟ้องกลับ 100 บาท เป็นค่าแท็กซี่ที่ไปลงคะแนน ผมมาตั้งแต่ 10 โมงแล้ว จนต้องนั่งกินข้าวปลาไหลผัดเผ็ด เมื่อวานทำท่าเหมือนจะไม่ลง ที่แท้ก็ออกเสียงเห็นชอบ สังคมวันนี้ต้องเชื่อถือนักการเมืองอาวุโสได้ ไม่อย่างนั้นเราจะเชื่อใครได้อีก และผมไม่ใช่คนวิจารณ์อะไรมั่วซั่ว ผมจะคอยติดตามพรรคการเมืองทุกพรรค แต่จะติดตามพรรคชาติไทยเป็นพิเศษ ถ้าพวกท่านทำไม่เหมาะสมผมก็ต้องออกมาพูด แต่อย่าเรียกว่าเป็นการจองเวรจองกรรรมกันเลย” นายชูวิทย์ กล่าว
ด้าน นายมนัสชน สุจจิตรจูล ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากพรรคชาติไทย กล่าวว่า สัปดาห์หน้า ทีมทนายความจากพรรคชาติไทยจะมายื่นฟ้องนายชูวิทย์อีกครั้ง ฐานกระทำละเมิดเรียกค่าเสียหายจำนวนทุนทรัพย์ 100 ล้านบาทด้วย
คลิกที่นี่ เพื่อฟังเสียง "ชูวิทย์"รอรับหมาย"เติ้ง"ฟ้อง เผยจะฟ้องกลับ"เติ้ง"ร้อยเดียว
วันนี้ (29 ม.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย โดยนายนิกร จำนง ผู้รับมอบอำนาจได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยโจทก์ระบุฟ้องความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 18-20 ม.ค. 51 จำเลยได้จัดเตรียมโต๊ะ เก้าอี้ รวมทั้งภาพข่าวจากหนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับมานั่งแถลงข่าวบริเวณริมถนน ที่ทำการพรรคชาติไทย โดยนำภาพถ่ายของโจทก์เท่าตัวจริงวางไว้บนเก้าอี้ ทั้งกล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ทำนองว่า “วันนี้ท่านควรวางบทบาทได้แล้วคนที่ตั้งฉายาท่านว่า “หลงจู๊” คนบางคนไม่รู้ว่าหลงจู๊แปลว่าอะไร ผมรู้ว่าหลงจู๊มันต่างกับเถ้าแก่อย่างไร แต่หลงจู๊นั้นเอาประโยชน์ต่อหน้าเท่านั้น ไม่คิดอื่นใด มีความคับแคบ เห็นประโยชน์ส่วนตัว ท่านไร้สัจจะ ท่านไม่มีจุดยืน หลอกลวงชาวบ้าน โกหกประชาน ท่านยกข้ออ้างบังหน้า ยอมโดนด่าเพื่อเข้าร่วมรัฐบาล ท่านปล้นคะแนนชาวบ้าน ลุ่มหลงลาภยศ สังคมผิดหวัง คนอย่างท่านไม่มีสัจจะ ยึดถือประโยชน์ส่วนตัว ไม่มีจุดยืน การเมืองสับสน เพราะมีคนอย่างท่าน และข้อความอื่นๆ ซึ่งล้วนเป็นเท็จ”
การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นดูแคลนว่าเป็นนักการเมืองไม่ดี ไม่น่าคบ หลอกลวงประชาชน สร้างความเสียหายแก่โจทก์อย่างร้ายแรงเนื่องจากมีการเตรียมการจงใจอย่างทุจริต ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย ศาลรับคำร้องไว้ และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ครั้งแรกในวันที่ 31 มี.ค.นี้ เวลา 09.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ได้เดินทางมาที่ศาลอาญาเช่นกัน พร้อมกับกล่าวว่าวันนี้ตนมารอรับหมายศาลด้วยตัวเอง รออยู่ครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มีใครมา ถ้าคิดว่าหลักฐานชัดเจนจริงก็ฟ้องได้ แต่ยืนยันได้ว่าหลักฐานที่ตนมีอยู่ก็ชัดเจนมากกว่า
“ท่านจะเอาเงินร้อยล้านมาปิดปากผม ปิดไม่อยู่ เดี๋ยวผมจะฟ้องกลับ 100 บาท เป็นค่าแท็กซี่ที่ไปลงคะแนน ผมมาตั้งแต่ 10 โมงแล้ว จนต้องนั่งกินข้าวปลาไหลผัดเผ็ด เมื่อวานทำท่าเหมือนจะไม่ลง ที่แท้ก็ออกเสียงเห็นชอบ สังคมวันนี้ต้องเชื่อถือนักการเมืองอาวุโสได้ ไม่อย่างนั้นเราจะเชื่อใครได้อีก และผมไม่ใช่คนวิจารณ์อะไรมั่วซั่ว ผมจะคอยติดตามพรรคการเมืองทุกพรรค แต่จะติดตามพรรคชาติไทยเป็นพิเศษ ถ้าพวกท่านทำไม่เหมาะสมผมก็ต้องออกมาพูด แต่อย่าเรียกว่าเป็นการจองเวรจองกรรรมกันเลย” นายชูวิทย์ กล่าว
ด้าน นายมนัสชน สุจจิตรจูล ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากพรรคชาติไทย กล่าวว่า สัปดาห์หน้า ทีมทนายความจากพรรคชาติไทยจะมายื่นฟ้องนายชูวิทย์อีกครั้ง ฐานกระทำละเมิดเรียกค่าเสียหายจำนวนทุนทรัพย์ 100 ล้านบาทด้วย