"ชูวิทย์" บุกหน้าสภา นำภาพข่าว ขึ้นจอแอลซีดี ประจาน"บรรหาร" ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า จะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน แต่แล้วก็กลับคำ ด้าน"บรรหาร" สั่งทีมกฎหมายฟ้องแพ่ง-อาญา เรียกค่าเสียหายร้อยล้าน ข้อหาให้ร้าย เชื่อหลักฐานมัดแน่น
เมื่อเช้าวานนี้ (28 ม.ค.) บรรยากาศบริเวณหน้ารัฐสภา ซึ่งจะมีการประชุมสภาเพื่อ เลือกผู้มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คึกคักเป็นพิเศษ มีทั้งกลุ่ม ที่มาร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อน และกลุ่มที่มาสนับสนุน นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ในจำนวนนี้ก็มี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ได้เดินมาทำกิจกรรมทางการเมืองด้วย โดยมาเรียกร้องให้ ส.ส. นำผ้ามาปิดตาก่อนที่จะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะแม้จะเปิดตาก็มองไม่เห็นนายกฯ ตัวจริง เนื่องจากนายกฯ ตัวจริงอยู่ที่ประเทศฮ่องกง ไม่ได้อยู่ในสภา และก่อนหน้านี้ก็มี ส.ส.ไปประชุมร่วมกับนายกฯ ที่ฮ่องกง ไม่ได้ไปที่บ้านของนายสมัคร สุนทรเวช อีกทั้งนายกฯ ตัวจริงที่ฮ่องกง ก็ยังเป็นผู้ที่จัดตั้ง ครม.ทั้งหมด ดังนั้นตนจึงขอให้ประธานสภาฯ ยกเลิกการเลือกนายกฯ เพราะเลือกไม่ได้ เนื่องจากนายกฯ ตัวจริงไม่ได้อยู่ที่สภา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายชูวิทย์ ได้นำรถบรรทุก 6 ล้อ ซึ่งติดตั้งจอแอลซีดี มาฉายภาพการให้สัมภาษณ์ของนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ยืนยันว่า จะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางผ่านไปมาได้เห็นถึงพฤติกรรมก่อนการเลือกตั้ง และหลังเลือกตั้งของนายบรรหาร พร้อมทั้งระบุว่า จะให้รถคันดังกล่าวตระเวนฉายภาพ และคำให้สัมภาษณ์ของนายบรรหารไปทั่วกรุงเทพฯ เป็นเวลา 7 วัน 7 คืนด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการกระทำของนายชูวิทย์ ครั้งนี้ นายเกษม สรศักดิ์เกษม ประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคชาติไทย เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา นายบรรหาร ได้สั่งการแล้วว่า จะมีการดำเนินการฟ้องนายชูวิทย์ เป็นการส่วนตัว ทั้งในความผิดทางแพ่ง และอาญา โดยความผิดทางแพ่ง จะฟ้องร้องนายชูวิทย์ ในข้อหาหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ส่วนในความผิดอาญาในถ้อยคำฐานหมิ่นประมาทนั้น จะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลอาญา ให้มีการดำเนินคดีจนถึงที่สุด
นายเกษม กล่าวด้วยว่า ถ้อยคำความผิดของนายชูวิทย์ ที่จะมัดตัวในทางคดี คือ การแถลงข่าวเมื่อ วันที่ 18 ม.คง ที่ผ่านมา บริเวณหน้าพรรคชาติไทย ที่ได้นำรูปนายบรรหาร มาประกอบการแถลงข่าวนั้น ถือเป็นการใช้ถ้อยคำให้ร้าย หมิ่นประมาท ความผิดหลักฐานชัดเจน เรื่องนี้นายบรรหารเสียหาย เป็นการส่วนตัว และไม่ได้ฟ้องในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง
สำหรับการแถลงข่าวที่หน้ารัฐสภาเมื่อเช้าวานนี้นั้น ต้องดูถ้อยคำความผิดด้วยว่า มีคำกล่าวร้าย ให้ร้ายมากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้จำเป็นจะต้องมีการนำเทปมาเปิดดูอย่างละเอียดต่อไป เพื่อดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ จนถึงที่สุด
เมื่อเช้าวานนี้ (28 ม.ค.) บรรยากาศบริเวณหน้ารัฐสภา ซึ่งจะมีการประชุมสภาเพื่อ เลือกผู้มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คึกคักเป็นพิเศษ มีทั้งกลุ่ม ที่มาร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อน และกลุ่มที่มาสนับสนุน นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ในจำนวนนี้ก็มี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ได้เดินมาทำกิจกรรมทางการเมืองด้วย โดยมาเรียกร้องให้ ส.ส. นำผ้ามาปิดตาก่อนที่จะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะแม้จะเปิดตาก็มองไม่เห็นนายกฯ ตัวจริง เนื่องจากนายกฯ ตัวจริงอยู่ที่ประเทศฮ่องกง ไม่ได้อยู่ในสภา และก่อนหน้านี้ก็มี ส.ส.ไปประชุมร่วมกับนายกฯ ที่ฮ่องกง ไม่ได้ไปที่บ้านของนายสมัคร สุนทรเวช อีกทั้งนายกฯ ตัวจริงที่ฮ่องกง ก็ยังเป็นผู้ที่จัดตั้ง ครม.ทั้งหมด ดังนั้นตนจึงขอให้ประธานสภาฯ ยกเลิกการเลือกนายกฯ เพราะเลือกไม่ได้ เนื่องจากนายกฯ ตัวจริงไม่ได้อยู่ที่สภา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายชูวิทย์ ได้นำรถบรรทุก 6 ล้อ ซึ่งติดตั้งจอแอลซีดี มาฉายภาพการให้สัมภาษณ์ของนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ยืนยันว่า จะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางผ่านไปมาได้เห็นถึงพฤติกรรมก่อนการเลือกตั้ง และหลังเลือกตั้งของนายบรรหาร พร้อมทั้งระบุว่า จะให้รถคันดังกล่าวตระเวนฉายภาพ และคำให้สัมภาษณ์ของนายบรรหารไปทั่วกรุงเทพฯ เป็นเวลา 7 วัน 7 คืนด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการกระทำของนายชูวิทย์ ครั้งนี้ นายเกษม สรศักดิ์เกษม ประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคชาติไทย เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา นายบรรหาร ได้สั่งการแล้วว่า จะมีการดำเนินการฟ้องนายชูวิทย์ เป็นการส่วนตัว ทั้งในความผิดทางแพ่ง และอาญา โดยความผิดทางแพ่ง จะฟ้องร้องนายชูวิทย์ ในข้อหาหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ส่วนในความผิดอาญาในถ้อยคำฐานหมิ่นประมาทนั้น จะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลอาญา ให้มีการดำเนินคดีจนถึงที่สุด
นายเกษม กล่าวด้วยว่า ถ้อยคำความผิดของนายชูวิทย์ ที่จะมัดตัวในทางคดี คือ การแถลงข่าวเมื่อ วันที่ 18 ม.คง ที่ผ่านมา บริเวณหน้าพรรคชาติไทย ที่ได้นำรูปนายบรรหาร มาประกอบการแถลงข่าวนั้น ถือเป็นการใช้ถ้อยคำให้ร้าย หมิ่นประมาท ความผิดหลักฐานชัดเจน เรื่องนี้นายบรรหารเสียหาย เป็นการส่วนตัว และไม่ได้ฟ้องในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง
สำหรับการแถลงข่าวที่หน้ารัฐสภาเมื่อเช้าวานนี้นั้น ต้องดูถ้อยคำความผิดด้วยว่า มีคำกล่าวร้าย ให้ร้ายมากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้จำเป็นจะต้องมีการนำเทปมาเปิดดูอย่างละเอียดต่อไป เพื่อดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ จนถึงที่สุด
