ภาค 1 ฟิตจัด ระดมกวาดล้างใหญ่อาชญากรรม รวบ 5 โจ๋แก๊งฆ่าชิงทรัพย์ กะเทยคู่ขา ย่านบางปู ส่วนคดียิงตำรวจ สภ.คูคต จับผู้ต้องหาได้แล้ว 3 ราย ออกหมายจับล่ามือยิงอีก 2 เผยสถิติช่วงกวาดล้างภาค 1 จับผู้ต้องหาได้กว่า 1,900 ราย อาวุธปืนอาวุธสงครามอีกเพียบ
วันนี้ (17 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่อาคารอเนกประสงค์ กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ประกอบด้วย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รอง ผบช.ภ.1) ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด บช.ภ.1 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญที่เกิดขึ้นในพื้นที่ บช.ภ.1 และผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมตั้งแต่วันที่ 7-16 มี.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.รชต กล่าวว่า รายแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ จับกุมผู้ต้องหาแก๊งฆ่าชิงทรัพย์ ประกอบด้วย นายเอก (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นายต่อ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นายบอย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นายตี๋ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และ น.ส.ตาล (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและชิงทรัพย์ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมาที่ห้องพักเลขที่ 327 อาคารพรเพ็ญอพาร์ทเม้นท์ หมู่ 8 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
พล.ต.รชต กล่าวต่อว่า ในวันเกิดเหตุ นายเอก และ นายต่อ ได้วางแผนกับพวกที่เหลือว่าจะเข้าไถเงินนายบุญส่ง หรือ เจ๊หนึ่ง อี้สกุล หนุ่มกะเทยคู่ขาของนายเอก ที่ห้องพักดังกล่าว โดยเมื่อไปถึงนายเอกและนายต่อ ได้เข้าไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ตายกัน ก่อนจะพยายามรีดไถเงิน แต่ปรากฏว่าผู้ตายไม่ยอม นายเอก จึงเข้าไปล็อกคอนายบุญส่งไว้ ส่วนนายต่อได้ใช้เข็มขัดรัดคอนายบุญส่งจนถึงแก่ความตาย
จากนั้นทั้งคู่ก็ได้หยิบทรัพย์สินภายในห้องของผู้ตาย คือ เงินสดจำนวน 1,000 บาทเศษ โทรศัพท์มือถือโนเกีย N71 เหล้านอก 1 ขวด พร้อมบัตร และเอกสารสำคัญของผู้ตายออกไป แล้วนำโทรศัพท์ไปให้นายบอย นายตี๋ และ น.ส.ตาล นำไปขายที่ร้านตำลึงโฟน ซอยวังปลา ในราคา 2,300 บาท จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ได้พากันไปนั่งกินหมูกระทะที่ร้านชบาหมูกระทะ โดยภายหลังนายบอยได้นำเสื้อของนายเอกที่เปื้อนเลือดของผู้ตายไปเผาทิ้งที่ถังขยะหน้าห้องพักในซอยวังปลา จนภายหลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นผู้ก่อเหตุจึงติดตามจับกุมมาดำเนินคดี
พล.ต.ท.รชต กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่คนร้ายแก๊งค้ายาบ้าก่อเหตุยิง ส.ต.อ.ศราวุธ จันทรคติ อายุ 34 ปี ผบ.หมู่ ป.ช่วยราชการฝ่ายสืบสวน สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เสียชีวิตในช่วงเช้ามืดวันที่ 16 มี.ค.ที่บริเวณกลางสะพานคู่ ถนนเสมาฟ้าคราม ต.ประชาธิปัตย์ อ.ลำลูกกา ว่าคดีนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 3 คนประกอบด้วย นายวิษณุ หรือโต๊ด แววนิล อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171/4 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง น.ส.แอ๊ว (นามสมมติ) อายุ 16 ปี แฟนสาว และนายธนวัฒน์ หรือจ้อน แพงราษฎร์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 2 ต.สระยายโสม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้แล้ว
ส่วนผู้ต้องหาในคดีนี้ยังมีอีก 2 คน คือ นายศรีชล ยศทัพ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 5 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มือปืนที่ยิง ส.ต.อ.ศราวุธ เสียชีวิต และ นายชาญยุทธ เฉลยภาพ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/5 หมู่ที่ 4 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับไปแล้ว และอยู่ระหว่างไล่ล่าจับกุมมาดำเนินคดี
พล.ต.ท.รชต กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 7-16 มี.ค.ที่ผ่านมา กองบังคับการทุกจังหวัดในสังกัด บช.ภ.1 รวมทั้งศูนย์สืบสวน บช.ภ.1 ได้ระดมกำลังกวาดล้างอาชญกรรมในพื้นที่เพื่อลดปัญหาอาชญากรรม ตามนโยบายของ พล.ต.ท.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร.รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ผลปรากฏว่า สามารถจับกุมอาวุธปืน อาวุธสงคราม ได้ 7 ราย ได้อาวุธปืน จำนวน 118 กระบอก สามารถจับกุมมือปืนรับจ้างและผู้มีอิทธิพลได้ 27 ราย จับกุมคดีอุจกรรจ์ คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ ลักรถจยย.และรถยนต์ได้จำนวน 132 ราย จับกุมคดีค้างเก่าตามหมายจับได้ 35 ราย และสามารถจับกุมคดียาเสพติดได้ จำนวน 1,658 ราย
วันนี้ (17 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่อาคารอเนกประสงค์ กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ประกอบด้วย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รอง ผบช.ภ.1) ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด บช.ภ.1 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญที่เกิดขึ้นในพื้นที่ บช.ภ.1 และผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมตั้งแต่วันที่ 7-16 มี.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.รชต กล่าวว่า รายแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ จับกุมผู้ต้องหาแก๊งฆ่าชิงทรัพย์ ประกอบด้วย นายเอก (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นายต่อ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นายบอย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นายตี๋ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และ น.ส.ตาล (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและชิงทรัพย์ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมาที่ห้องพักเลขที่ 327 อาคารพรเพ็ญอพาร์ทเม้นท์ หมู่ 8 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
พล.ต.รชต กล่าวต่อว่า ในวันเกิดเหตุ นายเอก และ นายต่อ ได้วางแผนกับพวกที่เหลือว่าจะเข้าไถเงินนายบุญส่ง หรือ เจ๊หนึ่ง อี้สกุล หนุ่มกะเทยคู่ขาของนายเอก ที่ห้องพักดังกล่าว โดยเมื่อไปถึงนายเอกและนายต่อ ได้เข้าไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ตายกัน ก่อนจะพยายามรีดไถเงิน แต่ปรากฏว่าผู้ตายไม่ยอม นายเอก จึงเข้าไปล็อกคอนายบุญส่งไว้ ส่วนนายต่อได้ใช้เข็มขัดรัดคอนายบุญส่งจนถึงแก่ความตาย
จากนั้นทั้งคู่ก็ได้หยิบทรัพย์สินภายในห้องของผู้ตาย คือ เงินสดจำนวน 1,000 บาทเศษ โทรศัพท์มือถือโนเกีย N71 เหล้านอก 1 ขวด พร้อมบัตร และเอกสารสำคัญของผู้ตายออกไป แล้วนำโทรศัพท์ไปให้นายบอย นายตี๋ และ น.ส.ตาล นำไปขายที่ร้านตำลึงโฟน ซอยวังปลา ในราคา 2,300 บาท จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ได้พากันไปนั่งกินหมูกระทะที่ร้านชบาหมูกระทะ โดยภายหลังนายบอยได้นำเสื้อของนายเอกที่เปื้อนเลือดของผู้ตายไปเผาทิ้งที่ถังขยะหน้าห้องพักในซอยวังปลา จนภายหลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นผู้ก่อเหตุจึงติดตามจับกุมมาดำเนินคดี
พล.ต.ท.รชต กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่คนร้ายแก๊งค้ายาบ้าก่อเหตุยิง ส.ต.อ.ศราวุธ จันทรคติ อายุ 34 ปี ผบ.หมู่ ป.ช่วยราชการฝ่ายสืบสวน สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เสียชีวิตในช่วงเช้ามืดวันที่ 16 มี.ค.ที่บริเวณกลางสะพานคู่ ถนนเสมาฟ้าคราม ต.ประชาธิปัตย์ อ.ลำลูกกา ว่าคดีนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 3 คนประกอบด้วย นายวิษณุ หรือโต๊ด แววนิล อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171/4 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง น.ส.แอ๊ว (นามสมมติ) อายุ 16 ปี แฟนสาว และนายธนวัฒน์ หรือจ้อน แพงราษฎร์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 2 ต.สระยายโสม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้แล้ว
ส่วนผู้ต้องหาในคดีนี้ยังมีอีก 2 คน คือ นายศรีชล ยศทัพ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 5 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มือปืนที่ยิง ส.ต.อ.ศราวุธ เสียชีวิต และ นายชาญยุทธ เฉลยภาพ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/5 หมู่ที่ 4 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับไปแล้ว และอยู่ระหว่างไล่ล่าจับกุมมาดำเนินคดี
พล.ต.ท.รชต กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 7-16 มี.ค.ที่ผ่านมา กองบังคับการทุกจังหวัดในสังกัด บช.ภ.1 รวมทั้งศูนย์สืบสวน บช.ภ.1 ได้ระดมกำลังกวาดล้างอาชญกรรมในพื้นที่เพื่อลดปัญหาอาชญากรรม ตามนโยบายของ พล.ต.ท.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร.รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ผลปรากฏว่า สามารถจับกุมอาวุธปืน อาวุธสงคราม ได้ 7 ราย ได้อาวุธปืน จำนวน 118 กระบอก สามารถจับกุมมือปืนรับจ้างและผู้มีอิทธิพลได้ 27 ราย จับกุมคดีอุจกรรจ์ คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ ลักรถจยย.และรถยนต์ได้จำนวน 132 ราย จับกุมคดีค้างเก่าตามหมายจับได้ 35 ราย และสามารถจับกุมคดียาเสพติดได้ จำนวน 1,658 ราย