ตร.กองปราบ นำกำลังตำรวจคอมมานโด กว่า 50 นาย พร้อมหมายค้น บุกค้นร้านค้าของเก่า 3 แห่ง ใน จ.ปทุมธานี หลังสืบทราบมีแก๊งโจรกรรมลักขโมยอุปกรณ์จำพวกมิเตอร์น้ำ ฝาท่อ นอต ป้ายจราจร สายไฟฟ้า มาขายให้กับร้านดังกล่าว พบ 1 ใน 3 ร้าน เจ้าของไม่สามารถแสดงหลักฐานการซื้อขาย ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลาง ดำเนินคดีขยายผลหาที่มาที่ไปของสิ่งของต้องสงสัย
วันนี้ (12 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 12 มี.ค.พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบก.ป.นำกำลังตำรวจคอมมานโดกองปราบปราม จำนวน 50 กว่านาย พร้อมหมายค้นศาลอาญา ที่ 81/2551 ลงวันที่ 12 มี.ค.2551 เข้าตรวจค้นร้านค้าของเก่าในจังหวัดปทุมธานี หลังสืบทราบว่ามีการรับซื้ออุปกรณ์ต่างๆเช่น มิเตอร์น้ำ ฝาท่อ น็อต ป้ายจราจร สายไฟฟ้า จากคนร้ายที่ขโมยมาทำให้เกิดความเสียหายรวมมูลค่าหลายล้านบาท
โดยเจ้าหน้าที่แบ่งกำลังเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเข้าตรวจค้นที่ร้าน “ทรัพย์สุวรรณ รีไซเคิ่ล” ตั้งอยู่เลขที่ 24/1 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจหาสิ่งของที่ถูกโจรกรรมนำมาขายให้กับร้านรับซื้อของเก่า พบนายชัชวาลย์ ผลสุวรรณ์ อายุ 38 ปี เจ้าของร้านดังกล่าว ให้การว่า ร้านตนมีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ มีใบอนุญาตประกอบการถูกต้อง และไม่เคยรับซื้อสิ่งของต้องสงสัยว่าถูกโจรกรรมมา
จากการตรวจสอบโดยรอบบริเวณกำลังตำรวจพบสายไฟ ลวดทองแดง กระป๋องน้ำ เศษเหล็ก ขวดเบียร์ ซึ่งกระจายอยู่ทั่วโกดังของร้านแต่ไม่พบสิ่งของต้องสงสัยว่าถูกโจรกรรมจากที่อื่นมา หลังจากนั้นจึงตรวจสอบบัญชีการซื้อ-ขายของเก่าประจำร้าน แต่ นายชัชวาลย์ อ้างว่า สมุดที่บันทึกไม่อยู่ที่ร้านโดยเก็บไว้ที่พัก จึงแจ้งข้อหาเป็นผู้ค้าของเก่าไม่จัดทำบัญชีคุมการซื้อ-ขายของเก่า
กำลังอีกชุดนำหมายค้นศาลอาญา ที่ 82/2551 เข้าตรวจค้นร้านรับซื้อของเก่า “ไทยฐามณี” เลขที่ 40/1 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา ซึ่งเป็นร้านของ นายกิติวุฒิ มีหกวงศ์ จากตรวจสอพบสิ่งของต้องสงสัยหลายรายการ อาทิ นอตขนาดใหญ่คล้ายกับนอตเสาไฟฟ้าแรงสูง บรรจุในถุงพลาสติกซุกซ่อนไว้ด้านหลังโกดังเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบโครงเหล็กคล้ายกับโครงเหล็กเสาไฟฟ้าแรงสูง แผ่นอะลูมิเนียมครอบแผงวงจรไฟฟ้าภายในตัวอาคารอีกเป็นจำนวนมาก จึงขอตรวจสอบสมุดคุมการซื้อ-ขาย แต่ นายกิติวุฒิ ไม่สามารถนำมาแสดงและอ้างว่าสมุดบันทึกการซื้อ-ขายไม่ได้อยู่ที่ร้าน มีเพียงกล้องวงจรปิดบันทึกภาพผู้นำมาขายให้ หากตำรวจต้องการสามารถตรวจสอบได้ในภายหลัง เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหา เป็นผู้ค้าของเก่าไม่จัดทำบัญชีคุมการซื้อ-ขายของเก่า ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา เพื่อดำเนินคดีและขยายผลหาที่มาที่ไปของสิ่งของต้องสงสัยดังกล่าว
ต่อมา พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 ได้เดินทางมาที่ร้าน “ไทยฐามณี” พร้อมสั่งการให้ตำรวจ สภ.ลำลูกกา เร่งตรวจสอบว่ามีการรับซื้อสิ่งของซึ่งถูกโจรกรรมมาหรือไม่ รวมทั้งเฝ้าระวังกลุ่มคนร้ายที่จะลงมือโจรกรรมสิ่งของมาขายให้กับร้านรับซื้อของเก่า เพื่อตัดวงจรปัญหาการโจรกรรมสาธารณสมบัติอีกทางหนึ่ง
จุดต่อมากำลังตำรวจอีกชุดได้นำหมายค้นศาลอาญา ที่ 83/2551 เข้าตรวจร้านรับซื้อของเก่าไม่มีชื่อและเลขที่ ริมถนนลำลูกกา-คูคต ต.บึงทองหลาง อ.ลำลูกกา แต่ไม่พบสิ่งของต้องสงสัย นอกจากนี้ ยังมีการตรวจค้นร้านของเก่าในละแวกใกล้เคียงอีก 2 ร้าน แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.ฐิติราช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ได้รับร้องเรียนจากประชาชนทั้งใน กทม.และปริมณฑล ว่า มีแก๊งโจรกรรมตระเวนลักมิเตอร์น้ำ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งยังมีแก๊งขโมยนอตเสาไฟฟ้าแรงสูงในท้องที่ สน.หนองจอก เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ทำให้รัฐเสียหายหลายสิบล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงเร่งออกตรวจตราร้านรับซื้อของเก่า พร้อมขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการว่าอย่าซื้อของผิดกฎหมายจากมิจฉาชีพ เพราะมีโทษฐานรับซื้อของเก่าได้
วันนี้ (12 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 12 มี.ค.พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบก.ป.นำกำลังตำรวจคอมมานโดกองปราบปราม จำนวน 50 กว่านาย พร้อมหมายค้นศาลอาญา ที่ 81/2551 ลงวันที่ 12 มี.ค.2551 เข้าตรวจค้นร้านค้าของเก่าในจังหวัดปทุมธานี หลังสืบทราบว่ามีการรับซื้ออุปกรณ์ต่างๆเช่น มิเตอร์น้ำ ฝาท่อ น็อต ป้ายจราจร สายไฟฟ้า จากคนร้ายที่ขโมยมาทำให้เกิดความเสียหายรวมมูลค่าหลายล้านบาท
โดยเจ้าหน้าที่แบ่งกำลังเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเข้าตรวจค้นที่ร้าน “ทรัพย์สุวรรณ รีไซเคิ่ล” ตั้งอยู่เลขที่ 24/1 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจหาสิ่งของที่ถูกโจรกรรมนำมาขายให้กับร้านรับซื้อของเก่า พบนายชัชวาลย์ ผลสุวรรณ์ อายุ 38 ปี เจ้าของร้านดังกล่าว ให้การว่า ร้านตนมีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ มีใบอนุญาตประกอบการถูกต้อง และไม่เคยรับซื้อสิ่งของต้องสงสัยว่าถูกโจรกรรมมา
จากการตรวจสอบโดยรอบบริเวณกำลังตำรวจพบสายไฟ ลวดทองแดง กระป๋องน้ำ เศษเหล็ก ขวดเบียร์ ซึ่งกระจายอยู่ทั่วโกดังของร้านแต่ไม่พบสิ่งของต้องสงสัยว่าถูกโจรกรรมจากที่อื่นมา หลังจากนั้นจึงตรวจสอบบัญชีการซื้อ-ขายของเก่าประจำร้าน แต่ นายชัชวาลย์ อ้างว่า สมุดที่บันทึกไม่อยู่ที่ร้านโดยเก็บไว้ที่พัก จึงแจ้งข้อหาเป็นผู้ค้าของเก่าไม่จัดทำบัญชีคุมการซื้อ-ขายของเก่า
กำลังอีกชุดนำหมายค้นศาลอาญา ที่ 82/2551 เข้าตรวจค้นร้านรับซื้อของเก่า “ไทยฐามณี” เลขที่ 40/1 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา ซึ่งเป็นร้านของ นายกิติวุฒิ มีหกวงศ์ จากตรวจสอพบสิ่งของต้องสงสัยหลายรายการ อาทิ นอตขนาดใหญ่คล้ายกับนอตเสาไฟฟ้าแรงสูง บรรจุในถุงพลาสติกซุกซ่อนไว้ด้านหลังโกดังเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบโครงเหล็กคล้ายกับโครงเหล็กเสาไฟฟ้าแรงสูง แผ่นอะลูมิเนียมครอบแผงวงจรไฟฟ้าภายในตัวอาคารอีกเป็นจำนวนมาก จึงขอตรวจสอบสมุดคุมการซื้อ-ขาย แต่ นายกิติวุฒิ ไม่สามารถนำมาแสดงและอ้างว่าสมุดบันทึกการซื้อ-ขายไม่ได้อยู่ที่ร้าน มีเพียงกล้องวงจรปิดบันทึกภาพผู้นำมาขายให้ หากตำรวจต้องการสามารถตรวจสอบได้ในภายหลัง เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหา เป็นผู้ค้าของเก่าไม่จัดทำบัญชีคุมการซื้อ-ขายของเก่า ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา เพื่อดำเนินคดีและขยายผลหาที่มาที่ไปของสิ่งของต้องสงสัยดังกล่าว
ต่อมา พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 ได้เดินทางมาที่ร้าน “ไทยฐามณี” พร้อมสั่งการให้ตำรวจ สภ.ลำลูกกา เร่งตรวจสอบว่ามีการรับซื้อสิ่งของซึ่งถูกโจรกรรมมาหรือไม่ รวมทั้งเฝ้าระวังกลุ่มคนร้ายที่จะลงมือโจรกรรมสิ่งของมาขายให้กับร้านรับซื้อของเก่า เพื่อตัดวงจรปัญหาการโจรกรรมสาธารณสมบัติอีกทางหนึ่ง
จุดต่อมากำลังตำรวจอีกชุดได้นำหมายค้นศาลอาญา ที่ 83/2551 เข้าตรวจร้านรับซื้อของเก่าไม่มีชื่อและเลขที่ ริมถนนลำลูกกา-คูคต ต.บึงทองหลาง อ.ลำลูกกา แต่ไม่พบสิ่งของต้องสงสัย นอกจากนี้ ยังมีการตรวจค้นร้านของเก่าในละแวกใกล้เคียงอีก 2 ร้าน แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.ฐิติราช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ได้รับร้องเรียนจากประชาชนทั้งใน กทม.และปริมณฑล ว่า มีแก๊งโจรกรรมตระเวนลักมิเตอร์น้ำ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งยังมีแก๊งขโมยนอตเสาไฟฟ้าแรงสูงในท้องที่ สน.หนองจอก เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ทำให้รัฐเสียหายหลายสิบล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงเร่งออกตรวจตราร้านรับซื้อของเก่า พร้อมขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการว่าอย่าซื้อของผิดกฎหมายจากมิจฉาชีพ เพราะมีโทษฐานรับซื้อของเก่าได้
