xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบไข่แม้วแจ้งจับพันธมิตรฯ หวิดฟาดปากกันเอง!!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

“ม็อบไข่แม้ว” บุกกองปราบแจ้งจับพันธมิตรฯ แต่เกิดปะทะกันเองเพราะเข้าใจผิดหาว่ามีกลุ่มพันธมิตรฯ มาป่วน

วันนี้ (10 มี.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. รศ.ดร.วรพล พรหมิกบุตร อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตัวแทนคณะนักวิชาการเพื่อประชาธิปไตยและสันติวิธิ (คปส.) และนายคารม พจทะกลาง แกนนำชมรมนักกฎหมายเพื่อประชาชน พร้อมกลุ่มผู้สนับสนุนประมาณ 40 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ณรงค์ อำภาภัย พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.ป.เพื่อให้ดำเนินคดีกับ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ที่บ้านพระอาทิตย์ ข้อหามีวัตถุประสงค์เพื่อกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในกฏหมายแผ่นดินหรือรัฐบาลโดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือ ประทุษร้าย และเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาญาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน

รอง ศ.ดร.พิชิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กลุมพันธมิตรฯ ประกาศแถลงการณ์ฉบับที่ 1/2551 ให้ประชาชนเตรียมพร้อมดำเนินการเคลื่อนไหวการเมืองแบบมวลชนร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ และต่อมาได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2/2551 เพิ่มเติมว่ากลียุคมาถึงแล้ว โดยพยายามปะติดปะต่อให้เห็นว่ารัฐบาลผิดพลาดในการแต่งตั้งรัฐมนตรี ซึ่ง คปส.เห็นว่ากลุ่มพันธมิตรฯ แสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองซึ่งอาจส่งผลยั่วยุความรู้สึกขัดแย้งให้หวลคืนสู่สังคมไทย ไม่เป็นผลดีต่อระบอบประชาธิปไตย และอาจทำให้เกิดการปะทะนองเลือดระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลและต่อต้านรัฐบาล

“มีสื่อมวลชนรายใหญ่ นักวิชาการ และเอ็นจีโอ ถูกมือที่มองไม่เห็นบงการอยู่เบื้องหลัง ให้เป็นแรงหนุนเสริมเพื่อเพิ่มโอกาสอย่างแยบยลให้เกิดการนองเลือดแล้วใช้เป็นข้ออ้างในการขับไล่รัฐบาลชุดปัจจุบัน ผมอยากขอให้ประชาชนเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมตัดสินต่อไป แทนที่จะกล่าวตอบโต้กันไม่รู้จักจบสิ้น” รศ.ดร.พิชิต กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่อ่านคำแถลงการนั้น แกนนำ คปส.ได้ใช้ถ้อยคำที่รุนแรงกล่าวพาดพิงกลุ่มพันธมิตรฯ โดยเฉพาะกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูรณ์ ทั้งนี้กลุ่มผู้สนับสนุนต่างตะโกนโห่ร้องชอบใจเป็นระยะๆ จนเสียงดังลั่นไปทั้งกองปราบปราม ทำให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เป็นอันทำงาน

นอกจากนี้ยังเกิดความวุ่นวายเกิดขึ้นอีก เมื่อหญิงสาววัยกลางคนได้ตะโกนด่ากลุ่มพันมิตรฯ และเชียร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนออกนอกหน้า ปรากฏว่ามีชายสูงวัยคนหนึ่งเดินเข้ามาห้ามปราบว่าเสียงดังไปรบกวนเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงานอยู่ ทำให้หญิงสาวคนดังกล่าวไม่พอใจถามย้อนกลับไปว่าคุณเป็นใคร เชียร์พันธมิตรฯ หรือเปล่า จากนั้นทั้งสองได้เกิดการเยื้อยุดฉุดกระชากกันสร้างความโกลาหลพอสมควร แต่กลุ่มเพื่อนๆ ที่มาด้วยต่างช่วยกันห้ามปรามก่อนแยกย้ายกันกลับไป

เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถามชายคนดังกล่าวทราบว่าตนมากับสมาชิก คปส.พร้อมลงชื่อแจ้งจับกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วย แต่เกิดเข้าใจผิดกันคิดว่าตนมาสนับสนุนนายสนธิ








กำลังโหลดความคิดเห็น