ผบช.น.เผย จะส่งคดี ร.ต.อ.ตชด.โหดให้ ป.ป.ช.เชือดตามมาตรา 157 พร้อมกับดำเนินคดีอาญา 5 ข้อหาหนัก ทั้งปล้น บุกรุก ข่มขืนใจ กักขัง เรียกค่าไถ่ และจับเด็กไปขู่เข็น ขณะที่กลุ่มแม่บ้าน ตชด.42 บุกศาลากลางเมืองคอน ร้องขอความเป็นธรรมให้ “พ.ต.ท.” เชื่อถูกใส่ร้าย
วันนี้ (7 ก.พ.) พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.กล่าวถึงการดำเนินคดีกับ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชนนิธิวณิชย์ กับพวก ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วัจนนท์ ถิระวัฒน์ รอง ผบช.น.และพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนนี้ด้วย โดยพนักงานสอบสวนจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงตามอำนาจหน้าที่โดยตรง ตำรวจมีหน้าที่เพียงรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์เท่านั้น
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า ผลการพิจารณาลงโทษจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ป.ป.ช. ซึ่งความผิดประมวลกฎกมายอาญา มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นนี้มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ด้วยโทษฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ ข่มขืนใจ หรือจูงใจ เพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ในทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น รวมถึงความผิดตามมาตรา 157 ประกอบมาตราความผิดอื่น โดยจะส่งเรื่องทั้งหมดให้ในภายหลังจากดำเนินคดีตามความผิด 5 ข้อหาฉกรรจ์ก่อน
ผบช.น.กล่าวต่อว่า ในชั้นนี้พนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีกับ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ และพวก ในความผิด 5 ข้อหาหลักก่อนตามที่ผู้เสียหายแจ้งความ คือ 1.ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน 2.ร่วมกันบุกรุกในเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธตั้งแต่สองคนขึ้นไป 3.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยจะทำให้เกิดการกลัวจะได้รับอันตรายต่อร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกขืนใจ โดยมีอาวุธ โดยกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป 4.หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นซ่องโจรและหรือเพื่อได้มาซึ่งค่าไถ่ และ 5.เอาเด็กอายุต่ำกว่าสิบห้าปีไป โดยขู่เข็ญ โดยใช้กำลังประทุษร้าย
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวด้วยว่า ส่วนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินคดีต่อกลุ่ม ตชด.กลุ่มนี้แน่นอน ในส่วนของข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครอง หรือยัดยาบ้าให้เหยื่อผู้เสียหายนั้น ต้องสืบพยานไปว่ากันในชั้นศาลอีกทีว่าเรื่องทั้งหมดออกมาอย่างไร แล้วศาลจะเป็นผู้ตัดสิน สำหรับข้อหาพยายามฆ่า ยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่า กลุ่ม ตชด.พยายามฆ่าจริงหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทุกอย่างมีหลักเกณฑ์ รายละเอียดชัดเจนอยู่แล้วตามข้อกล่าวหาซึ่งต้องตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้ง
ที่ จ.นครศรีธรรมราช กลุ่มแม่บ้าน ตชด.ที่ 42 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ประมาณ 30 คน เดินทางด้วยรถกระบะจำนวน 5 คัน มารวมตัวชุมนุมที่สนามหน้าเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ พ.ต.ท.สุรกิตติ์ คล้ายอุดม รอง ผกก.ตชด.ที่ 41 ผู้ต้องหาคดีอุ้มรีดเงินยัดยาบ้า พร้อมนำโล่เกียรติคุณ ประกาศนียบัตรเชิดชูการทำงานของ พ.ต.ท.สุรกิตติ์ จำนวนมาก มาวางโชว์แก่สื่อมวลชน
นางวิไลจิต อนันตเสนีย์ อายุ 54 ปี หนึ่งในคณะแม่บ้าน ตชด.ที่ 42 กล่าวว่า กลุ่มแม่บ้าน ตชด.ที่ 42 รู้จัก และเคยสัมผัสกับ พ.ต.ท.สุรกิตติ์ มากว่า 30 ปี เป็นคนทำงานจริงจัง จนได้รับรางวัลประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติมากมาย โดยเงินรางวัลที่ได้รับจากการจับกุมยาเสพติดได้มีการบริจาคให้แก่โรงพยาบาลสงฆ์มาโดยตลอด กลุ่มแม่บ้าน ตชด. รับรู้ถึงความเหนื่อยยากของ ตชด. จึงได้ออกมารวมตัวกันเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ พ.ต.ท.สุรกิตติ์ เนื่องจากมั่นใจว่าเป็นคนดีที่ถูกรังแก และที่ผ่านมาสังคมไม่เคยรับฟัง ตชด.เลย ฟังแต่เสียงของกลุ่มค้ายาเสพติด แล้วพิพากษาว่า ตชด.ผิด
