xs
xsm
sm
md
lg

นัดพร้อม “พ.ต.ท.สมิง รอดรัตษะ” โดนจำเลยโทษประหารคดียาฟ้องยัดข้อหา!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“พ.ต.ท.สมิง รอดรัตษะ ” สว.สส.ชนะสงคราม กับพวก ขึ้นศาลนัดตรวจหลักฐานคดี “จำเลยยาเสพติดต้องโทษประหารชีวิต” ฟ้องกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จับกุมโดยไม่มีหมายศาล-ข่มขู่รับสารภาพคดียา จำเลยแถลงพร้อมนำพยานสู้คดี 25 ปาก โจทก์ขอนำสืบพยาน 6ปาก ศาลนัดสืบโจทก์ครั้งแรก 11 ก.ค.นี้ 09.00 น. สารวัตรคนดังย้ำไม่วิตกถูกฟ้อง ระบุศาลตัดสินโทษจำเลยแล้ว ยันจับกุมถูกกฎหมาย วอนไม่อยากให้ข่าวสร้างความสับสน

วันนี้ (4 ก.พ.) ที่ห้องพิจารณาคดี 903 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์นัดตรวจพยานหลักฐาน คดีที่นางกรองกาญจน์ หรือแมว ถิ่นอ่อน ปัจจุบันตกเป็นจำเลยคดียาเสพติดซึ่งต้องโทษประหารชีวิต เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ต.สมิง รอดรัตษะ อดีต สว.สส.สน.พญาไท ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง สว.สส.สน.ชนะสงคราม, ร.ต.อ.พรรณศักดิ์ วรบูลย์สวัสดิ์, ร.ต.อ.กิตติพงษ์ สิมมาลี, ด.ต.ภิญโญ แสงทิพย์, ด.ต.อภิทักษ์ แก้วเกลื่อน, ด.ต.อวยชัย ทับสุรีย์, จ.ส.ต.บุญเรือง, จ.ส.ต.รุ่ง ทิพย์ขำ, จ.ส.ต.หญิงศศิธร ทับสุรีย์, จ.ส.ต.วันเผด็จ แท่นรัตน์ และส.ต.ท.สุธรรม แย้มช่วย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจนครบาลพญาไท (ยศขณะเกิดเหตุปี 2548) เป็นจำเลยที่ 1-11 ในความผิดฐาน กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.48 จำเลยทั้งสิบเอ็ด ร่วมกันแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมโจทก์โดยไม่มีหมายจับของศาล โดยใช้กำลังและอาวุธบังคับข่มขืนใจโจทก์ ให้ขึ้นรถยนต์ไปกับพวกจำเลย โดยระหว่างนั้นใช้ถุงดำคลุมศีรษะและรัดคอโจทก์ไว้เพื่อข่มขู่ให้โจทก์รับสารภาพคดีมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

โดยวันนี้จำเลยทั้งสิบเอ็ดคนเดินทางมาศาล ขณะที่โจทก์ไม่ได้มาศาลเนื่องจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไม่นำตัวมา ซึ่งขณะนี้โจทก์ถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลางเพราะศาลมีคำพิพากษาให้ประหารชีวิตในคดีหมายเลขดำที่ ย.2739/2548 ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางชลลดา ณ เชียงใหม่ หรือวิ และนางกรองกาญจน์ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐาน มีเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

อย่างไรก็ดี เมื่อศาลเริ่มการตรวจสอบพยานหลักฐาน พนักงานอัยการซึ่งรับผิดชอบคดีของจำเลยทั้งสิบเอ็ด ได้ยื่นพยานเอกสารซึ่งเป็นบันทึกการจับกุมคดียาเสพติดเพิ่มเติมอีกจำนวน 28 ฉบับเพื่อใช้ต่อสู้คดี โดยศาลบันทึกรับพยานดังกล่าวไว้ในสำนวน และมีคำสั่งให้ทนายความโจทก์ตรวจสอบพยานเอกสารทั้งหมดของจำเลยได้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.เป็นต้นไป ขณะที่ทนายโจทก์ แถลงขอนำพยานบุคคลเข้าสืบจำนวน 6 ปาก โดยจะใช้เวลารวม 3 นัด ส่วนอัยการจำเลยจะนำพยานเข้าสืบต่อสู้คดีจำนวน 25 ปาก ใช้เวลา 8 นัด ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ทั้งสองฝ่ายนำสืบพยานได้ตามที่แถลง โดยกำหนดนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกในวันที่ 11 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ภายหลัง พ.ต.ท.สมิง รอดรัตษะ สว.สส.สน.ชนะสงคราม กล่าวยืนยันว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่จับกุมนางกรองกาญจน์ถูกต้องตามกฎหมาย โดยตนไม่รู้สึกวิตกที่ถูกฟ้อง ซึ่งในคดียาเสพติดดังกล่าวศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาประหารชีวิตนางกรองกาญจน์ไปแล้ว แต่ที่ตนถูกฟ้องคดีนี้เพราะระหว่างที่นางกรองกาญจน์ตกเป็นจำเลย กลับได้ยื่นฟ้องตนกับพวก อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ตนไม่ต้องการให้กลายเป็นข่าวที่จะสร้างความสับสนต่อประชาชน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนางกรองกาญจน์นั้น ถูกศาลอาญาตัดสินโทษประหารชีวิต เมื่อวันที่ 5 ก.ค.49 ซึ่งคดีดังกล่าว อัยการโจทก์บรรยายฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.48 เวลากลางวัน นางชลลดา ณ เชียงใหม่ หรือวิ และนางกรองกาญจน์ จำเลยที่ 1-2 ได้บังอาจมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย น้ำหนัก 3,071.823 กรัม จำนวน 114,000 เม็ด และจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำนวน 30,000 เม็ด เหตุเกิดที่ แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ ม.15 วรรคหนึ่ง, วรรคสาม (2) 66 วรรคแรก, 66 วรรคสาม พ.ร.บ.มาตราการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 7 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา 83 การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และความผิดฐานพยายามจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 15 ปี แต่จำเลยที่ 1 รับสารภาพในชั้นจับกุมจึงเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เห็นควรลดโทษให้หนึ่งในสาม นอกจากนี้ให้จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 1 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และความผิดฐานพยายามจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้จำคุก 10 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ตลอดชีวิต และให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 2 โดยศาลมีคำมีสั่งให้ริบยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือของกลาง

ส่วนคดีที่ พ.ต.ท.สมิง กับพวกรวม 11 คนตกเป็นจำเลยนั้น นางกรองกาญจน์ ได้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 15 มี.ค.49 โดยบรรยายฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.48 เวลากลางวัน จำเลยทั้ง 11 คน ร่วมกันกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน จำเลยทั้ง 11 คน เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจนครบาลพญาไท มีหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดีอาญา ตรวจค้นและจับกุมผู้กระทำความผิด อันเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ได้ร่วมกันแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมโจทก์ โดยไม่มีหมายจับของศาล จับกุมโจทก์ไปจากท่าอากาศยานกรุงเทพ ดอนเมือง โดยใช้กำลังและอาวุธบังคับข่มขืนใจโจทก์ ให้ขึ้นรถไปกับจำเลย ในระหว่างอยู่บนรถจำเลยกับพวกใช้ถุงดำคลุมศีรษะและรัดคอโจทก์ไว้ในระหว่างที่นั่งรถยนต์ จำเลยกับพวกได้ข่มขู่ให้โจทก์รับสารภาพ โดยตั้งข้อหาว่ามียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โจทก์จึงได้ปฏิเสธ จำเลยไม่ยอมปล่อยตัวโจทก์ และไม่นำส่งพนักงานสอบสวนหรือพาไปยังสถานีตำรวจ ต่อมาจำเลยกับพวกได้ให้โจทก์พาไปที่สถานที่โกดัง ของโจทก์เพื่อตรวจค้น ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ต่อมาจำเลยกับพวกได้ร่วมกันทำเอกสารการจับกุมและเอกสารอื่นๆ อันเป็นเท็จโดยบังคับให้โจทก์ลงลายมือชื่อ โดยเอกสารดังกล่าวได้จัดพิมพ์ไว้แล้ว และมีข้อความว่ารับสารภาพ เหตุเกิดที่แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 162, 172, 309, 310 ทวิ จำเลยทั้ง 11 คนให้การปฏิเสธ
กำลังโหลดความคิดเห็น