ลำปาง - ตำรวจลำปางจับกุมชาวปากีสถานข่มขู่ฉกเอาทรัพย์ คาดหากออกข่าวน่าจะมีผู้เสียหายตามมาชี้ตัวอีกหลายคน
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงลำปาง ได้สกัดจับ Mr.AHMED JAMIL อายุ 38 ปี สัญชาติปากีสถาน ได้ที่บริเวณหน้าหน่วยบริการตำรวจทางหลวงอำเภอเถิน ทางหลวงหมายเลข1 ต.ล้อมแรด อ.เถิน จ.ลำปาง หลังได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย คือ นางอิงคณา ฐิติโสภากุล ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองลำปางเมื่อวันที่ 1 ก.พ.51 ว่า ตนกับบุตรชาย คือนายชยันต์ ฐิติโสภากุล ได้ขับรถยนต์ฟอร์ด ทะเบียน กจ.7348 ลำปาง ไปจอดบริเวณปั๊มน้ำมันจัสโก้ ถ.ลำปาง-เกาะคา ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง ได้มีชายชาวต่างชาติเปิดประตูรถด้านหลังเข้ามานั่งในรถและได้พูดในลักษณะบังคับเสียงดัง โดยผู้เสียหายฟังไม่เข้าใจ แต่ฟังน้ำเสียงแล้วเป็นไปในลักษณะข่มขู่ บังคับให้ตนกับบุตรชายซื้อนาฬิกาข้อมือสายสเตนเลสสีทอง ยี่ห้อ LOBOR
แต่ตนบอกไม่มีเงิน ชายคนดังกล่าวจึงได้รื้อค้นกระเป๋าของตนที่วางไว้เบาะหลัง โดยในกระเป๋ามีบัตรเครดิตและเงินสด ชายคนดังกล่าวจึงหยิบบัตรและเงินสดไป แต่ตนขอบัตรไว้โดยส่งเงินสด 3,000 บาทของตน และเงินสดของบุตรชายอีก 1,300 บาท โดยก่อนชายคนดังกล่าวจะลงจากรถไปได้หยิบกระติกน้ำของคนเองไปด้วย พร้อมเงินสด 4,300 บาท หลังจากลงรถไปแล้วชายคนดังกล่าวได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อเชฟโรเลต ทะเบียน กต-5327 อุดรธานี หลบหนีไป ตนเองจึงเข้าแจ้งความ ต่อมาได้มีการสกัดจับได้ที่บริเวณหน่วยบริการตำรวจทางหลวงอำเภอเถิน เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมชายคนดังกล่าวไว้
จากการตรวจสอบภายในรถ พบที่ตัวผู้ต้องหามีเงินสด 4,250 บาท กระติกน้ำสเตนเลสซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นของตนเอง และตรวจพบนาฬิกาข้อมือสายสเตนเลสสีทอง ยี่ห้อ LOBOR 15 เรือน ลักษณะตรงกับที่ผู้เสียหายแจ้งว่าชายคนดังกล่าวนำมาจำหน่ายให้ ซุกซ่อนในช่องเก็บยางอะไหล่ โดยมีไม้กระดานปิดไว้ ใต้ฝากระโปรงรถด้านหลัง เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางทั้งหมดไว้ และตั้งข้อกล่าวหาว่าข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำ ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวฯ เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฎิเสธ
ด้าน นางอิงคณา ผู้เสียหายกล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนและบุตรชายรู้สึกกลัวมากเพราะภาษาที่พูดก็ฟังไม่รู้เรื่อง ขณะนั้นตนไม่รู้ว่าชายคนดังกล่าวจะมีอาวุธอะไรมาด้วยหรือไม่ จึงกลัวมาก แต่ก็พยายามควบคุมสติและจดจำรถของผู้ต้องหาและเข้าแจ้งความเพื่อให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี เพราะจากที่ทราบน่าจะมีผู้เสียหายอีกหลายคนที่โดนในลักษณะเดียว คือ นำนาฬิกาไปขาย หากไม่ซื้อก็จะใช้วิธีการข่มขู่เพื่อเอาทรัพย์สินเช่นเดียวกัน จึงอยากฝากเตือนประชาชนให้ระวังและหากใครที่เคยตกเป็นเหยื่อขอให้เข้าชี้ตัวพร้อมแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ได้ที่ สภ.เมืองลำปาง
