ผมเชื่อว่า ตอนนี้พรรคพลังประชาชนและรัฐบาลนอมินีคงกลุ้มอกกลุ้มใจที่สังคมไม่ให้ราคากับคนที่ออกมาตอบโต้กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างสารวัตรเหลิม อย่างนายณัฐวุฒิ เพราะคนเหล่านี้เป็นคนที่ไม่มีมูลค่าและราคาทางการเมือง ไม่ว่าจะพูดอะไรมาก็มีแต่คนส่ายหน้า
พูดกันตรงๆผมว่าถ้าสารวัตรเหลิมลงสมัคร ส.ส.ในระบบเขตก็ไม่รู้ว่าจะรอดเข้ามาในสภาฯ หรือไม่ ไม่ต้องพูดถึงณัฐวุฒิต่อให้ลง อบต.ที่บ้านก็อาจไม่มีคนเลือก
ดังนั้น แม้ว่าคนเหล่านี้จะออกมาบิดเบือนอย่างไรก็ไร้ผล ที่สำคัญการออกมาแถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในแต่ละครั้งมีเหตุผลและรูปธรรมรองรับ และอยู่ภายใต้กรอบกติกาของรัฐธรรมนูญ เปิดเผย ตรงไปตรงมา ไม่ใช่ลีลาแบบโต้คารมมัธยมศึกษาที่นายณัฐวุฒิและสารวัตรเหลิมชอบใช้
อย่างไรก็ตาม การที่คนอย่างนายณัฐวุฒิซึ่งออกมาสู้เพื่อปกป้องระบอบทักษิณ ปกป้องทักษิณ และปกป้องครอบครัวชินวัตรอย่างถวายชีวิต มีรางวัลตอบแทนที่งดงาม ขึ้นวอเป็นถึงรองโฆษกรัฐบาล หรือมีข่าวว่าหมอเหวง-จรัลจะเป็นบอร์ด อสมท นี่ยังไม่นับตู่ ศรัทธาธรรม ที่กลายเป็นพะนะทั่นผู้แทนฯ ไปแล้ว ก็เลยมีคนออกมาแข่งทำคะแนนกันใหญ่
เราจึงได้ยิน นายประชา ประสพดี บอกว่าจะพาคนมาบุกบ้านพระอาทิตย์ (เลียนแบบนายณัฐวุฒิที่ประกาศว่า จะพาคนมาบุกบ้านพระอาทิตย์ จนได้ดิบได้ดี) จะตอบโต้กับพันธมิตรฯแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
ผมไม่ทราบเหมือนกันนะครับว่า นี่คือวิถีทางในระบอบประชาธิปไตยที่พวกเขากล่าวอ้าง หรือการใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายอย่างที่พวกเขากล่าวหาพันธมิตรฯ
ใครออกมาแสดงความคิดเห็นที่ตรงกันข้ามกับรัฐบาล ใครออกมาเปิดโปงว่า รัฐบาลกำลังประพฤติมิชอบ หรือกำลังแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมอย่างมีประจักษ์พยานและมีหลักฐาน ก็ขู่ว่า จะใช้กำลังเข้าจัดการ ปิดกั้นแทรกแซงการออกอากาศ ซึ่งน่าจะเป็นวิถีและวิธีของเผด็จการมากกว่าคนที่อ้างว่าอยู่ในระบอบประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่า ทักษิณเองก็รู้ว่า ลิ่วล้อทางการเมืองเหล่านี้เป็นคนที่ไม่มีราคา ในหมู่คนที่มีความรู้ความเข้าใจทางการเมือง พวกเขาเลยพยายามเข็นรายใหม่ออกมาโม่แป้ง ที่สำคัญเห็นแล้วว่า การถวายจิตถวายชีวิตให้กับระบอบทักษิณนั้นมันเกินมูลค่าที่หลายคนควรได้รับ
วันก่อนผมจึงเห็นนายวรพล พรหมิกบุตร อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงทุนเดินขึ้นไปกองปราบฯเพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ข้อกล่าวหานั้นก็คือว่า การเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาลโดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือประทุษร้าย และเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน
คนอ่านข้อกล่าวหาแล้วหัวเราะขำขัน จนหลายคนอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า วรัญชัย โชคชนะอาจจะมีคู่แข่งที่น่ากลัวเสียแล้ว
ผมลองกลับไปอ่านแถลงการณ์ของพันธมิตรฯในแต่ละครั้ง เพื่อหาว่า มีคำภาษาไทยตรงไหนบ้างที่ให้อาจารย์มหาวิทยาลัยที่เป็นถึงระดับรองศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ตีความไปได้ขนาดนั้น บอกตรงๆครับว่าหาไม่พบเลย นอกจากย้อนกลับไปดูพฤติกรรมของนปก.และคำพูดคำจาของคนในพรรคพลังประชาชนที่กำลังข่มขู่คุกคามพันธมิตรฯ อยู่ในขณะนี้
และผมไม่อยากบอกว่า คนจำนวนไม่น้อยที่อ้างว่า เป็นศิษย์เก่าบ้าง เป็นลูกแม่โดมบ้าง เป็นนักศึกษาบ้าง เข้ามาแสดงความคิดเห็นท้ายข่าวนี้ในเว็บไซต์ของผู้จัดการออนไลน์กันอย่างไร แต่อยากให้เข้าไปดูตัวอย่างในเว็บบอร์ดของคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยาดีกว่า ว่า เขาแสดงความคิดเห็นต่ออาจารย์ของเขาว่าอย่างไร
อย่างไรก็ตามโชคดีที่ผมไม่ได้เป็นเพื่อนฝูงและเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ทั้งสองนี้ ผมจึงอยากปล่อยให้สังคมตัดสินเองว่า พฤติกรรมของอาจารย์ทั้งสองถูกต้องหรือเหมาะสมหรือไม่
แม้จริงแล้ว ผมไม่แปลกใจอะไรนัก เพราะทั้งสองคนก็ออกมาปกป้องทักษิณอย่างโจ่งแจ้งอยู่แล้ว ทั้งในรูปของบทความและการอภิปรายในที่สาธารณะ
และไม่แปลกหรอกครับที่ปัญญาชนผู้นิยมทักษิณจะออกมาชูธง 3 ผืน และโบกสะบัดให้สูงเด่นคือ ธงเผด็จการรัฐสภา ธงทุนนิยมสามานย์ และธงความไม่เป็นธรรมทางสังคม
ธงสามผืนนี้เกี่ยวข้องกันอย่างแยกไม่ออก เกื้อกูลสนับสนุนและเป็นเงื่อนไขให้แก่กัน เพราะไม่อาจมีเผด็จการทางรัฐสภา ถ้าไม่มีทุนนิยมสามานย์ และไม่อาจมีทุนนิยมสามานย์ ถ้าไม่มีเผด็จการทางรัฐสภา และทั้งเผด็จการทางรัฐสภาและทุนนิยมสามานย์ นอกจากได้รับการสนับสนุนจากนายทุนและก่อเป็นดอกผลแห่งการพัฒนาก้าวหน้าที่ยั่งยืนได้นั้น ก็ยังสามารถสนองตอบความต้องการทางเศรษฐกิจ สังคม และจิตใจของตัวเองได้ด้วย
ธงเผด็จการรัฐสภา หมายถึง การอ้างว่า มาตามระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญเอาไว้ให้ได้ ต้านทานการเคลื่อนไหวที่มุ่งตรวจสอบการใช้อำนาจที่ฉ้อฉล และฟื้นระบอบอำนาจนิยม ธงเผด็จการรัฐสภา ประกอบไปด้วยการซื้อพรรคเล็ก ซื้อส.ว. แทรกแซงองค์กรอิสระ ทำลายการถ่วงดุลและตรวจสอบองค์กรของรัฐและพฤติกรรมนักการเมืองไม่ให้มีประสิทธิภาพ และกระทบทุกวิถีทางที่ไม่ให้ปรับปรุงรัฐธรรมนูญและกฎหมายเพื่อเพิ่มมาตรการเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบอบประชาธิปไตย
ธงทุนนิยมสามานย์ คือ การดำเนินนโยบายและมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของวงศ์ตระกูล สร้างจุดอ่อนและความเปราะบางในข้อกฎหมายที่จะทำให้ธุรกิจเสียประโยชน์ต่อภาครัฐและประเทศชาติ สร้างความเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่มีเสถียรภาพและก่อประโยชน์ต่อธุรกิจของวงศ์ตระกูลอย่างยั่งยืน สร้างผลกระทบที่บั่นทอนเสถียรภาพของธุรกิจภาครัฐ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและแสวงผลประโยชน์ของธุรกิจตัวเอง เช่น การแปลงสัญญาสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต การทำเอฟทีเอเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจตัวเอง เป็นต้น
ธงความไม่เป็นธรรมทางสังคม เน้นสร้างระบบประกันสังคม ใครที่เลือกพรรคไทยรักไทยจะได้รับการดูแลก่อน กระจายรายได้ลงไปสู่นายทุนที่สนับสนุนพรรค ใช้เงินของรัฐในการซื้อเสียงก่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจสังคมและเพิ่มความร่ำรวยให้กับตัวเอง หว่านเงินให้พรรคพวกในการทำธุรกิจวิจัย เพื่อทำให้ระบอบเผด็จการรัฐสภา และทุนนิยมสามานย์มีความชอบธรรม มั่นคงและยั่งยืน
ผมให้คิดเอาเองว่า ปัญญาชนผู้ชูธง 3 ผืน ที่ว่านี้มีใครอยู่บ้าง
พูดกันตรงๆผมว่าถ้าสารวัตรเหลิมลงสมัคร ส.ส.ในระบบเขตก็ไม่รู้ว่าจะรอดเข้ามาในสภาฯ หรือไม่ ไม่ต้องพูดถึงณัฐวุฒิต่อให้ลง อบต.ที่บ้านก็อาจไม่มีคนเลือก
ดังนั้น แม้ว่าคนเหล่านี้จะออกมาบิดเบือนอย่างไรก็ไร้ผล ที่สำคัญการออกมาแถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในแต่ละครั้งมีเหตุผลและรูปธรรมรองรับ และอยู่ภายใต้กรอบกติกาของรัฐธรรมนูญ เปิดเผย ตรงไปตรงมา ไม่ใช่ลีลาแบบโต้คารมมัธยมศึกษาที่นายณัฐวุฒิและสารวัตรเหลิมชอบใช้
อย่างไรก็ตาม การที่คนอย่างนายณัฐวุฒิซึ่งออกมาสู้เพื่อปกป้องระบอบทักษิณ ปกป้องทักษิณ และปกป้องครอบครัวชินวัตรอย่างถวายชีวิต มีรางวัลตอบแทนที่งดงาม ขึ้นวอเป็นถึงรองโฆษกรัฐบาล หรือมีข่าวว่าหมอเหวง-จรัลจะเป็นบอร์ด อสมท นี่ยังไม่นับตู่ ศรัทธาธรรม ที่กลายเป็นพะนะทั่นผู้แทนฯ ไปแล้ว ก็เลยมีคนออกมาแข่งทำคะแนนกันใหญ่
เราจึงได้ยิน นายประชา ประสพดี บอกว่าจะพาคนมาบุกบ้านพระอาทิตย์ (เลียนแบบนายณัฐวุฒิที่ประกาศว่า จะพาคนมาบุกบ้านพระอาทิตย์ จนได้ดิบได้ดี) จะตอบโต้กับพันธมิตรฯแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
ผมไม่ทราบเหมือนกันนะครับว่า นี่คือวิถีทางในระบอบประชาธิปไตยที่พวกเขากล่าวอ้าง หรือการใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายอย่างที่พวกเขากล่าวหาพันธมิตรฯ
ใครออกมาแสดงความคิดเห็นที่ตรงกันข้ามกับรัฐบาล ใครออกมาเปิดโปงว่า รัฐบาลกำลังประพฤติมิชอบ หรือกำลังแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมอย่างมีประจักษ์พยานและมีหลักฐาน ก็ขู่ว่า จะใช้กำลังเข้าจัดการ ปิดกั้นแทรกแซงการออกอากาศ ซึ่งน่าจะเป็นวิถีและวิธีของเผด็จการมากกว่าคนที่อ้างว่าอยู่ในระบอบประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่า ทักษิณเองก็รู้ว่า ลิ่วล้อทางการเมืองเหล่านี้เป็นคนที่ไม่มีราคา ในหมู่คนที่มีความรู้ความเข้าใจทางการเมือง พวกเขาเลยพยายามเข็นรายใหม่ออกมาโม่แป้ง ที่สำคัญเห็นแล้วว่า การถวายจิตถวายชีวิตให้กับระบอบทักษิณนั้นมันเกินมูลค่าที่หลายคนควรได้รับ
วันก่อนผมจึงเห็นนายวรพล พรหมิกบุตร อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงทุนเดินขึ้นไปกองปราบฯเพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ข้อกล่าวหานั้นก็คือว่า การเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาลโดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือประทุษร้าย และเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน
คนอ่านข้อกล่าวหาแล้วหัวเราะขำขัน จนหลายคนอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า วรัญชัย โชคชนะอาจจะมีคู่แข่งที่น่ากลัวเสียแล้ว
ผมลองกลับไปอ่านแถลงการณ์ของพันธมิตรฯในแต่ละครั้ง เพื่อหาว่า มีคำภาษาไทยตรงไหนบ้างที่ให้อาจารย์มหาวิทยาลัยที่เป็นถึงระดับรองศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ตีความไปได้ขนาดนั้น บอกตรงๆครับว่าหาไม่พบเลย นอกจากย้อนกลับไปดูพฤติกรรมของนปก.และคำพูดคำจาของคนในพรรคพลังประชาชนที่กำลังข่มขู่คุกคามพันธมิตรฯ อยู่ในขณะนี้
และผมไม่อยากบอกว่า คนจำนวนไม่น้อยที่อ้างว่า เป็นศิษย์เก่าบ้าง เป็นลูกแม่โดมบ้าง เป็นนักศึกษาบ้าง เข้ามาแสดงความคิดเห็นท้ายข่าวนี้ในเว็บไซต์ของผู้จัดการออนไลน์กันอย่างไร แต่อยากให้เข้าไปดูตัวอย่างในเว็บบอร์ดของคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยาดีกว่า ว่า เขาแสดงความคิดเห็นต่ออาจารย์ของเขาว่าอย่างไร
อย่างไรก็ตามโชคดีที่ผมไม่ได้เป็นเพื่อนฝูงและเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ทั้งสองนี้ ผมจึงอยากปล่อยให้สังคมตัดสินเองว่า พฤติกรรมของอาจารย์ทั้งสองถูกต้องหรือเหมาะสมหรือไม่
แม้จริงแล้ว ผมไม่แปลกใจอะไรนัก เพราะทั้งสองคนก็ออกมาปกป้องทักษิณอย่างโจ่งแจ้งอยู่แล้ว ทั้งในรูปของบทความและการอภิปรายในที่สาธารณะ
และไม่แปลกหรอกครับที่ปัญญาชนผู้นิยมทักษิณจะออกมาชูธง 3 ผืน และโบกสะบัดให้สูงเด่นคือ ธงเผด็จการรัฐสภา ธงทุนนิยมสามานย์ และธงความไม่เป็นธรรมทางสังคม
ธงสามผืนนี้เกี่ยวข้องกันอย่างแยกไม่ออก เกื้อกูลสนับสนุนและเป็นเงื่อนไขให้แก่กัน เพราะไม่อาจมีเผด็จการทางรัฐสภา ถ้าไม่มีทุนนิยมสามานย์ และไม่อาจมีทุนนิยมสามานย์ ถ้าไม่มีเผด็จการทางรัฐสภา และทั้งเผด็จการทางรัฐสภาและทุนนิยมสามานย์ นอกจากได้รับการสนับสนุนจากนายทุนและก่อเป็นดอกผลแห่งการพัฒนาก้าวหน้าที่ยั่งยืนได้นั้น ก็ยังสามารถสนองตอบความต้องการทางเศรษฐกิจ สังคม และจิตใจของตัวเองได้ด้วย
ธงเผด็จการรัฐสภา หมายถึง การอ้างว่า มาตามระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญเอาไว้ให้ได้ ต้านทานการเคลื่อนไหวที่มุ่งตรวจสอบการใช้อำนาจที่ฉ้อฉล และฟื้นระบอบอำนาจนิยม ธงเผด็จการรัฐสภา ประกอบไปด้วยการซื้อพรรคเล็ก ซื้อส.ว. แทรกแซงองค์กรอิสระ ทำลายการถ่วงดุลและตรวจสอบองค์กรของรัฐและพฤติกรรมนักการเมืองไม่ให้มีประสิทธิภาพ และกระทบทุกวิถีทางที่ไม่ให้ปรับปรุงรัฐธรรมนูญและกฎหมายเพื่อเพิ่มมาตรการเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบอบประชาธิปไตย
ธงทุนนิยมสามานย์ คือ การดำเนินนโยบายและมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของวงศ์ตระกูล สร้างจุดอ่อนและความเปราะบางในข้อกฎหมายที่จะทำให้ธุรกิจเสียประโยชน์ต่อภาครัฐและประเทศชาติ สร้างความเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่มีเสถียรภาพและก่อประโยชน์ต่อธุรกิจของวงศ์ตระกูลอย่างยั่งยืน สร้างผลกระทบที่บั่นทอนเสถียรภาพของธุรกิจภาครัฐ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและแสวงผลประโยชน์ของธุรกิจตัวเอง เช่น การแปลงสัญญาสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต การทำเอฟทีเอเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจตัวเอง เป็นต้น
ธงความไม่เป็นธรรมทางสังคม เน้นสร้างระบบประกันสังคม ใครที่เลือกพรรคไทยรักไทยจะได้รับการดูแลก่อน กระจายรายได้ลงไปสู่นายทุนที่สนับสนุนพรรค ใช้เงินของรัฐในการซื้อเสียงก่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจสังคมและเพิ่มความร่ำรวยให้กับตัวเอง หว่านเงินให้พรรคพวกในการทำธุรกิจวิจัย เพื่อทำให้ระบอบเผด็จการรัฐสภา และทุนนิยมสามานย์มีความชอบธรรม มั่นคงและยั่งยืน
ผมให้คิดเอาเองว่า ปัญญาชนผู้ชูธง 3 ผืน ที่ว่านี้มีใครอยู่บ้าง