xs
xsm
sm
md
lg

ปิดตายหนทางกลับ ตร.ศาลปกครองยกเลิกคุ้มครอง “โอ๋ สืบ 6”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ศาลปกครองสูงสุด ยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ “โอ๋ สืบ 6” พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา ตำรวจตื๊บประชาชน เหตุ คำสั่งให้ปลดออกนั้นชอบด้วยกฏหมายแล้ว

วันนี้ (6 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งกลับคำสั่งศาลปกครองเชียงใหม่ ที่ให้คุ้มครองชั่วคราว พ.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัส ธำรง หรือ ฤทธิรงค์ เทพจันดา อดีตผู้กำกับการ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผกก.สส.น.6) กรณีที่ผู้บัญชาการสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และ 3 มีหนังสือคำสั่งที่ 165/2550 ลงวันที่ 1 ต.ค.2550 ให้ลดโทษ พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ จากไล่ออกจากราชการ เป็นปลดออกจากราชการ และให้ยกเลิกคำสั่ง ที่ 17/2550 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2550 ที่ไล่ออกจากราชการ

คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า ขณะรับราชการเป็น ผกก.สส.น.6 ได้รับการมอบหมายให้รักษาความปลอดภัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พลาซา เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2549 ทำให้มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ไต่สวนและวินิจฉัย ว่าการกระทำของผู้ฟ้องคดีมีมูลความผิดวินัยร้ายแรง ตาม ม.79(2), (5) และ (6) พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และ ป.อาญา ม.147 และ 200 ต่อมา ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้มีคำสั่งสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจที่ 17/2550 ลงวันที่ 20 ก.พ.2550 ลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการการ ผู้ฟ้องคดีได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 เป็นเหตุให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 มีคำสั่งที่ 165/2550 ลงวันที่ 1 ต.ค.2550 ลดโทษจากไล่ออกจากราชการ เป็นปลดออกจากราชการ

ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ใช้ดุลพินิจไม่ชอบในการออกคำสั่งลงโทษ โดยไม่พิจารณาข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและความผิดทางวินัยร้ายแรงก่อนออกคำสั่ง ประกอบกับผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ไม่พิจารณาอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีในประเด็นข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และองค์ประกอบความผิดทางวินัยที่ผู้ถูกฟ้องคดีใช้เป็นเหตุในการออกคำสั่งลงโทษ จึงขอให้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว และขอให้ศาลทุเลาการบังคับตามคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ด้วย

โดยศาลปกครองชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า คำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ที่ลงโทษปลดผู้ฟ้องออกจากราชการน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และ ม.80 พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 เมื่อพิจารณาถึงความเสียหายของผู้ฟ้องคดีไม่ได้เงินเดือน และรับเลือกให้ดำรงตำแหน่งที่สูงกว่าแล้ว กรณีจึงเป็นความเสียหายที่ยากแก่การเยียวยาภายหลัง จึงมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ที่ให้ปลดผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ต่อมาผู้ถูกฟ้องที่ 2 และ 3 ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองเชียงใหม่ แต่ผู้ฟ้องคดีแย้งว่า คำสั่งศาลปกครองชั้นต้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว และภายหลังศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งปลดผู้ฟ้องคดีออกจากราชการแล้ว ได้มีการรายงานตามสายการบังคับ โดยมีการนำเสนอ ก.ตร.พิจารณากำหนดตำแหน่งรองผู้บังคับการประจำสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ โดยให้มีผลย้อนหลังไปจนถึงวันที่ 20 ก.พ.2550 ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.สั่งการเมื่อวันที่ 11 ก.พ.2551 เห็นชอบแล้ว

ศาลปกครองสูงสุดพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานในสำนวนยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าคำสั่งปลดผู้ฟ้องออกจากราชการ น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังที่ศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัย ทั้งการที่ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง อาจจะเป็นเหตุให้คำสั่งลงโทษผู้ฟ้องคดีทางวินัยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็คงเป็นแต่เพียงเหตุให้คำสั่งลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไม่ชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น หาใช่เป็นเหตุที่จะทำให้ถือว่าคำสั่งของผู้ถูกฟ้องที่ 3 น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ แม้คำสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของผู้ฟ้องคดี แต่การให้คำสั่งปลดออกจากราชการ มีผลใช้บังคับต่อไปในระหว่างพิจารณาคดีก็ไม่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงจนไม่อาจเยียวยาแก้ไขได้ในภายหลัง เพราะถ้าต่อมาศาลเพิกถอนคำสั่งปลดออกจากราชการผู้ฟ้องคดีก็กลับคืนสู่สถานะเดิม โดยกลับเข้ารับราชการและได้รับสิทธิประโยชน์ที่สูญเสียไปนับแต่ถูกลงโทษ ที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จึงไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในข้อ 72 วรรค 3 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด เห็นควรมีคำสั่งกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น โดยให้ยกเลิกคำสั่งทุเลาการบังคับคดีของศาลปกครองชั้นต้น

ยังไม่มีเกัาอี้ว่างสำหรับ “โอ๋ สืบ 6” ใน ตร.
“โอ๋ สืบ 6” ชื่อใหม่ “ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์” กรุยทางกลับ ตร.!
ไล่ออก!! “พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา” ประพฤติชั่วร้ายแรง
ฟันธง! “โอ๋ สืบ 6” ไล่ออกกับปลดเท่านั้น - เจ้าตัวอ้างมุกเดิม “ป่วย”
“เสรีพิศุทธ์” เฉดหัว “โอ๋ สืบ 6” ทิ้ง ชี้ผิดโจ่งแจ้งกลับได้ปูนบำเหน็จ
“โอ๋ สืบ 6” รอดยาก! ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง-อาญาซ้ำ
ชี้โทษ “โอ๋ สืบ 6” สั่งกุ๊ยตื้บ ปชช.ติดคุก 1-10 ปี
อาจารย์จุฬาฯ บี้ “โกวิท” ลาออกเสียเถิด! เหตุปูนบำเหน็จ “โอ๋ สืบ6”
“โกวิท” ย้ายลดกระแส “โอ๋ สืบ6” พิลึกขึ้นรองผู้การเช่นเดิม!!
“สุภาพบุรุษตำรวจ” ไม่รับผิดปูนบำเหน็จ “โอ๋ สืบ6”
"โกวิท” เก้าอี้ร้อนฉ่า! เข้าพบนายกฯแจงรับ "สมบัติ” กลับ-ปูนบำเหน็จ “โอ๋ สืบ 6”
พิลึก! สั่งตื้บ ปชช.ไม่ผิดวินัย ตร.- ส่ง “โอ๋สืบ 6” ขึ้นรอง ผบก.
ปูนบำเหน็จสั่งกุ๊ยตื้บประชาชน “โอ๋ สืบ 6” ขึ้นรองผู้การ!?!
“โอ๋ สืบ 6” ตร.สั่งตื้บประชาชน ด้าน! ขอขึ้นรองผู้การ
“ผู้กำกับโอ๋ สืบ 6” เสียงแข็งไม่ได้สั่ง 2 กุ๊ย “ตื้บ” ประชาชน
“ฤทธิรงค์” โผล่ให้ปากคำแจงภาพข่าวสั่งกุ๊ยกระทืบคนต้านแม้วแล้ว
ตำรวจอ้ำอึ้ง! หลังแฉเทปมัด “ฤทธิรงค์” สั่งกุ๊ยล็อกม็อบต้านแม้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น