xs
xsm
sm
md
lg

พบก่อน “ทักษิณ” ขึ้นศาล “กระรอกร่วงจากฟ้า อีการ้องทัก”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

“ทักษิณ” มืออ่อนยกมือไหว้สื่อก่อนขึ้นศาลฎีกาฯ สู้คดีที่ดินรัชดาฯ ยื่น 10 ล้านประกันตัว ศาลอนุญาตแต่ห้ามออกนอกประเทศ-ยุ่งเหยิงคดี นัดสอบคำให้การ 12 มี.ค.เวลา 09.30 น. ฤกษ์ไม่ดีก่อนขึ้นศาล “กระรอกร่วงจากฟ้า อีการ้องทัก” ปฏิเสธให้การคดีเอสซีแอสเสท ยื่น 1 ล้านประกันตัว อัยการนัดสั่งคดีพร้อมหญิงอ้อ 3 เม.ย.10 โมงเช้า “ทวี สอดส่อง” อธิบดีดีเอสไอใหม่ถอดด้ามโผล่รับ ขณะที่ม็อบเชลียร์ยังแห่ให้กำลังใจ แต่ไม่กล้าโวยวายหวั่นละเมิดอำนาจศาล

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แถลงข่าวที่โรงแรมเพนนินซูลา

วันนี้ (28 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.40 น.ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีทุจริตที่ดินรัชดาภิเษก พร้อมด้วย นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นั่งรถยนต์ยี่ห้อโฮลเด้น สีบรอนซ์เงิน ธค 1991 กทม. เดินทางมาถึงติดตามมาด้วย น.ส.พิณทองทา และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว นั่งรถยนต์อีกคันตามมาในขบวน โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายวัน อยู่บำรุง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นั่งรถยนต์นำขบวนมาพร้อมกับขบวนรถคุ้มกันความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ติดตาม อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และ ส.ส.พรรคพลังประชาชน หลายคน พร้อมด้วยทีมทนายความ อาทิ นายพิชิฏ ชื่นบาน และ นายธนา เบญจาทิกุล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มารออยู่ที่ศาลฎีกา โดยมี พล.ต.ท.วัชรพล ประสานราชกิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 นำกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 500 นาย กระจายกำลังคอยดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่ขบวนรถของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางมาถึงหน้าศาลฎีกาเพียงไม่กี่วินาที ปรากฏว่า มีกระรอกสีน้ำตาลขนาดความยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ได้ตกลงกลางถนนประตูทางเข้า นอนแน่นิ่งไปพักหนึ่ง เมื่อผู้สื่อข่าวแหงนหน้าไปดูพบว่ามีอีกาสีดำขนาดใหญ่ตัวหนึ่งเกาะอยู่ที่ขอบอาคารศาลฎีกาส่งเสียงร้อง กาๆ แต่เมื่อขบวนรถ พ.ต.ท.ทักษิณ มาถึงทั้งกระรอกที่กำลังมึนอยู่ก็ได้วิ่งหนีไปเช่นเดียวกับอีกาก็บินออกไปในเวลาเดียวกัน

เมื่อขบวนรถยนต์จอดสนิท พ.ต.ท.ทักษิณ ก้าวลงจากรถด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมโบกมือทักทายและยกมือไหว้กองทัพผู้สื่อข่าวที่ไปดักรออยู่บริเวณหน้าศาลฎีกา ก่อนเดินเข้าอาคารศาลฎีกาพร้อมคณะผู้ติดตาม ขึ้นลิฟต์ไปยังห้องพักคู่ความที่ชั้น 4 ที่เจ้าหน้าที่ศาลฎีกาจัดเตรียมไว้เพื่อแสดงตัวต่อศาลฎีกาที่ได้ออกหมายจับในคดีดำที่ อม.1/2550 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เป็นจำเลยที่ 1-2 ที่กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 ม.4, 100 และ 122 และประมวลกฎหมายอาญา ม.152 และ 157 ในการทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก มูลค่า 772 ล้านบาท ของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน โดยนายพิชิฎ ชื่นบาน ทนายความ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ ชื่อของ น.ส.แพทองธาร บุตรสาว รวม 2 เล่ม มูลค่า 10 ล้านบาท ขอยื่นประกันตัว โดยไม่ได้ขออนุญาตเดินทางไปทำธุรกิจนอกประเทศแต่อย่างใด

ต่อมาเมื่อเวลา 10.45 น.นายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาอาวุโส เจ้าของสำนวนพร้อมองค์คณะผู้พิพากษารวม 3 คน ได้พิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตีราคาประกันจำนวน 8 ล้านบาทถ้วน ทำสัญญาประกันยึดสมุดเงินฝากแจ้งอายัด และมีคำสั่งเพิกถอนหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยกำหนดเงื่อนไขการประกันตัวห้าม พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลแจ้งให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบโดยเร็ว และห้าม พ.ต.ท.ทักษิณ กระทำการใดอันเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินคดี มิฉะนั้นจะถอนประกัน ทั้งนี้ศาลฎีกานัดพิจารณาคดีครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันที่ 12 มีนาคม นี้ เวลา 09.30 น.

หลังฟังคำสั่งเสร็จสิ้นแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางกลับลงมือขึ้นรถ โดยได้โบกมือและยิ้มให้กับผู้สื่อข่าวก่อนขึ้นรถยนต์เดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าปรากฏว่า มีกลุ่มผู้สนับสนุนจากจังหวัดนครสวรรค์ นั่งรถตู้ 10 คัน มาสมทบกับกลุ่มผู้สนับสนุน ซึ่งมายืนรออยู่ที่บริเวณทางเข้าประตูศาลฎีกาด้านศาลหลักเมือง ทั้งสองฝั่งรวมประมาณ 200 คน โดยบางคนสวมเสื้อยืด และถือป้ายผ้า พิมพ์ข้อความต้อนรับ และให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ในการเดินทางกลับประเทศมาต่อสู้คดี ซึ่งผู้สนับสนุนต่างยืนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์การเดินทางกลับของ พ.ต.ท.ทักษิณ กันอย่างเงียบๆ เนื่องจากศาลฎีกาได้ติดป้ายข้อความ กำชับกลุ่มผู้สนับว่า “การส่งเสียงรบกวนการพิจารณาของศาล อาจเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจ” ตามแผงเหล็กกั้นทางเดิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 1 นำมาตั้งเรียงเพื่อจัดระเบียบผู้สนับสนุน ตั้งแต่ถนนหน้าทางเข้าศาลหลักเมืองจนถึงหน้าอาคารศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ และห้ามไม่ให้กลุ่มผู้สนับสนุนเข้าไปให้กำลังใจในบริเวณหน้าศาลฎีกาแต่อย่างใด โดยมีการจัดระเบียบสื่อมวลชนให้รอถ่ายภาพทำข่าวอยู่บริเวณด้านหน้าศาลฎีกา และหน้าศาลจังหวัดดุสิตซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงเท่านั้น ไม่ให้เข้าไปสังเกตการณ์บนอาคารศาลฎีกาชั้น 4 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคณะผู้ติดตาม นั่งรอฟังคำสั่งประกันตัวอยู่ในห้องพักคู่ความที่ศาลฎีกาจัดเตรียมไว้

ต่อมาเมื่อเวลา 11.40 น. พ.ต.ท.ทักษิณ นั่งรถยนต์เดินทางมาถึงสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เพื่อเข้าพบกับ นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อรายงานตัวตามหมายจับและรับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนการสอบสวนของดีเอสไอ ซึ่ได้ส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง บริษัท เอสซีแอสเสท คอปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) โดย นางเพ็ญโสม ดามาพงศ์ กรรมการผู้มีอำนาจ นางบุษบา ดามาพงศ์ อดีตกรรมการบริหารบริษัท พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เป็นผู้ต้องหากระทำผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2534 กรณีร่วมกันปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซีแอสเสท โดยหลังจากรับทราบข้อกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ให้การปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาล ขณะที่ นายกิตติพร อดุลรัตน์ ทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ มูลค่า 1 ล้านบาท ขอประกันตัว โดยอัยการพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัวออกไป พร้อมกำหนดเงื่อนไขให้รายงานต่ออัยการทุกครั้งที่จะเดินทางออกนอกประเทศ

ภายหลัง นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวว่า หลังได้รับสำนวนการสอบสวนและได้รับมอบตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ต้องหาที่ 3 จากดีเอสไอแล้ว จะเรียกประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณาสำนวนคดี โดยนัด พ.ต.ท.ทักษิณ ให้เดินทางมาฟังคำสั่งคดีในวันที่ 3 เมษายน นี้ เวลา 10.00 น.พร้อมกับ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร และผู้ต้องหาที่เหลือ โดยยืนยันว่าการพิจารณาสั่งคดีนี้ อัยการไม่รู้สึกกดดันแต่อย่างใด ส่วนจะสามารถสั่งคดีได้ทันภายในวันที่ 3 เมษายนนี้หรืออาจจะมีคำสั่งให้ดีเอสไอสวนเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ต้องขอพิจารณาสำนวนและประชุมร่วมกับคณะทำงานก่อน

ด้าน นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้ารายงานตัวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เห็นว่า น่าจะเกิดจากความดีใจที่ได้เดินทางกลับบ้าน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การพิจารณาสั่งคดีนี้จะไม่มีเรื่องทางการเมืองเข้ามาแทรกแซงการทำงานอย่างแน่นอน โดยอัยการจะพิจารณาสั่งคดีไปตามสำนวนคดีและพยานหลักฐานที่ปรากฏเท่านั้น

ขณะที่ นายกิตติพร อดุลรัตน์ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า หลังจากนี้ จะกลับไปหารือกับทีมทนายความอีกครั้ง ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด โดยเบื้องต้นเห็นว่า การสอบสวนของดีเอสไอ ยังไม่ครบถ้วนบางประเด็น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางมาถึงสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นั้น ต้องแวะพักขบวนที่กองบังคับการกองปราบปรามก่อน เนื่องจากยังเคลียร์เส้นทางไม่เรียบร้อย โดยที่บริเวณหน้าสำนักงานอัยการสูงสุดนั้น ได้มีกลุ่มผู้สนับสนุนประมาณ 200 คน บางส่วนสวมเสื้อ โพกหัว นำป้ายผ้าและธงมีข้อความให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนรอภายในสำนักงานอัยการสูงสุด โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ ที่ปรึกษาส่วนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้การตอนรับ สำหรับการรักษาความปลอดภัย พ.ต.ท.ทักษิณ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแผงเหล็กมากั้นไว้ตลอดแนวถนน พร้อมกับนำเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงประมาณ 20 คน จากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล สวมเสื้อโปโลสีดำ ติดริบบิ้นสี้ขาว เข้าไปยืนปะปนกับกลุ่มผู้สนับสนุน และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนคุ้มกันตลอดแนวถนน โดยเมื่อขบวนรถยนต์ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาถึงกลุ่มผู้สนับสนุนต่างส่งเสียงตะโกนเรียก พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมชูนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วก้อย แสดงสัญลักษณ์ “I LOVE YOU” โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เวลาเข้าพบอัยการประมาณ 20 นาที จึงเสร็จสิ้นและเดินทางกลับ




กำลังโหลดความคิดเห็น