“วสิษฐ” หวังรัฐบาลใหม่ลุยปรับโครงสร้างตำรวจจริงจัง

คณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจ หวังรัฐบาลใหม่สนใจปรับโครงสร้างตำรวจจริงจัง หลังกรณีแก๊ง ตชด.รีดไถทำกระบวนการยุติธรรมเสียหายทั้งระบบ

วันนี้ (6 ก.พ.) ที่กระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจ เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการเพื่อจัดทำสรุปรายงานยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบงานตำรวจ ว่า ขณะนี้ต้องรอความชัดเจนจาก นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ว่า จะมีนโยบายอย่างไรกับการปรับโครงสร้างตำรวจ หากต้องการดำเนินการต่อจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา คณะกรรมการจะเสนอรายงานฉบับสมบูรณ์ให้ นายสมัคร อย่างไรก็ตาม ตนไม่กล้าคาดหวังอะไรจากรัฐบาลใหม่ แต่สิ่งที่หวัง คือ รัฐบาลใหม่จะให้ความสนใจกับการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจอย่างจริงจังเสียที โดยเฉพาะปัญหาเงินเดือน และค่าตอบแทนตำรวจที่ไม่เหมาะสมกับค่าครองชีพ จนทำให้ตำรวจหลายคนต้องหารายได้เสริมในหลายรูปแบบ และใช้อำนาจในทางที่ผิด

พล.ต.อ.วสิษฐ กล่าวอีกว่า กรณีแก๊งตำรวจตระเวนชายแดนนอกรีตที่รีดไถและยัดข้อหาให้แก่ประชาชน แม้จะเกิดจากพฤติกรรมเฉพาะบุคคล แต่ต้องยอมรับว่า เงินเดือนทีไม่เหมาะสมกับค่าครองชีพเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะ ตชด.มีรูปแบบการปกครองกึ่งทหาร มีกองร้อย มีหมวด ทำให้เป็นกลุ่มก้อน หัวแถวและหางแถวสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก ต่างจากตำรวจนครบาล เมื่อเกิดปัญหาจึงลากออกมาได้ทั้งหมดตั้งแต่หัวแถวจนถึงหางแถว

ส่วนกรณีตำรวจที่ร่วมลงชื่อในบันทึกจับกุม และขอรับเงินรางวัลนำจับในคดียาเสพติด ปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวกับการรีดไถยัดข้อหา พล.ต.ท.วันชัย ศรีนวลนัด ประธานอนุกรรมการด้านการปรับปรุงและพัฒนากฎหมาย กล่าวว่า หากพิสูจน์ได้ว่าลายมือชื่อเป็นของจริง ไม่ได้ถูกปลอมแปลงขึ้น ผู้ที่มีรายชื่อในบันทึกจับกุมทุกรายต้องร่วมรับผิดชอบ หากเป็นระดับผู้บังคับบัญชายินยอมให้เอาชื่อไปใส่ในบันทึกการจับกุม ทั้งที่ไม่ได้ร่วมปฏิบัติงานก็ต้องเสี่ยงเอา เพราะจะต้องรับทั้งผิดและชอบ จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้

ด้าน นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรณี ตชด.สะท้อนให้เห็นว่า กระบวนการยุติธรรมปัจจุบันไม่สามารถแยกแยะผู้บริสุทธิ์และผู้กระทำความผิดจริงออกจากกันได้ ทำให้มีผู้บริสุทธิ์ต้องเข้าไปถูกคุมขังในเรือนจำ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ