ผบก.น.6 โต้ กลุ่มผู้ประกอบการ ค่ายเพลง ภาพยนตร์ รวมตัวประท้วง เรื่องปัญหาซีดีเถื่อน ย้ำตั้งแต่รับตำแหน่งกวดขันจับมาตลอด ไม่เคยละเลย ขอเอาเกียรติเป็นประกันไม่เคยรับส่วย กำชับ ตร.ห้ามยุ่งเรื่องสินบน พร้อมเรียกผู้ประกอบการทำความเข้าใจอีกครั้ง เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
วันนี้ (6 ก.พ.) พล.ต.ต.อภิชาติ เชื้อเทศ ผบก.น.6 แถลงข่าวโต้กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ภาคเอกชน) และกลุ่มพันธมิตรด้านทรัพย์สินทางปัญญา เพลง และภาพยนตร์ และผู้บริหารค่ายหนังต่างๆ รวมตัวชุมนุมประท้วงที่หน้า สน.พลับพลาไชย 1 เพื่อให้แก้ปัญหาซีดีเถื่อน ว่า เรื่องดังกล่าวตนขอยืนยันว่า ตั้งแต่มารับตำแหน่งได้มีการกวดขันจับกุมผู้ค้าซีดีเถื่อนมาโดยตลอด โดยไม่ได้ปล่อยปละละเลยแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังไม่เคยรับผลประโยชน์ใดๆจากผู้ค้าซีดีเถื่อน ซึ่ง เรื่องนี้ตนได้กำชับไปแล้วห้ามตำรวจในท้องที่ไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์เกี่ยวกับซีดีเถื่อนโดยเด็ดขาด อย่างไรก็ตามหลังนอกจากนี้ยังได้ตั้งชุดเฉพาะกิจของบก.น.6 เพื่อตระเวนกวาดล้างซีดีเถื่อน ซึ่งหากสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ในท้องที่ใด ก็จะพิจารณาโยกย้ายผกก.ที่รับผิดชอบท้องที่นั้นโดยทันที
“ขอยืนยันด้วยเกียรติว่า ไม่เคยรับส่วย ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจในการทำงานของผม ยอมรับว่าเรื่องนี้หนักใจที่สุดในชีวิตราชการ เพราะไม่มีเรื่องไหนที่ทำให้ต้องกลุ้มใจมากขนาดนึ้” ผบก.น.6 กล่าว
สำหรับแนวทางในการแก้ปัญหาหลังจากนี้ ผบก.น.6 กล่าวว่า ตนจะเรียกผู้เสียหาย บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ เข้ามาหารือกันให้เร็วที่สุด คาดว่า น่าจะเป็นวันจันทร์หน้า ซึ่งจะเสนอให้เจ้าของลิขสิทธิ์จัดเจ้าหน้าที่มาประจำอยู่ที่สถานีตำรวจ โดยทุกครั้งที่ไปจับกุมให้เจ้าหน้าที่ดังกล่าวเดินทางไปด้วยทุกครั้ง เพราะการจับกุมลิขสิทธิ์จะต้องมีเจ้าทุกข์นำจับ แต่ขออย่างเดียวว่าเมื่อจับกุมผู้ต้องหามาแล้ว ห้ามมีการยอมความกันกันโดยเด็ดขาด” ผบก.น.6 กล่าว
พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า ขณะนี้เชื่อว่า ผู้ประกอบการไม่เข้าใจการทำงานของตำรวจ บางแผงมีใบอนุญาตถูกต้อง แต่ตัวแทนกลับนำตำรวจไปจับ ได้ของกลางมาเป็นหมื่นแผ่น แต่ภายหลังก็ต้องคืนของกลางกลับไป ซึ่งเรื่องนี้ในทางปฏิบัติไม่เราสามารถทำได้ แต่การไปกว้านจับแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ตนไม่อยากถูกมองว่าเป็นเครื่องมือของเจ้าของลิขสิทธิ์ไปรังแกผู้ค้า
สำหรับกรณีที่มีการขู่ขีดเส้นตาย 7 วัน หากแก้ปัญหาไม่ได้จะร้องเรียนนายกรัฐมนตรีให้ย้าย ผบก.น.6 ออกจากพื้นที่นั้น พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า ตนไม่หนักใจอะไร เพราะทีผ่านมาปฏิบัติหน้าที่ด้วยความจริงจัง โดยไม่เคยเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ใดๆ ผู้ประกอบการรายใหญ่จะเข้าใจดีว่าตนทำงานเป็นอย่างไร
วันนี้ (6 ก.พ.) พล.ต.ต.อภิชาติ เชื้อเทศ ผบก.น.6 แถลงข่าวโต้กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ภาคเอกชน) และกลุ่มพันธมิตรด้านทรัพย์สินทางปัญญา เพลง และภาพยนตร์ และผู้บริหารค่ายหนังต่างๆ รวมตัวชุมนุมประท้วงที่หน้า สน.พลับพลาไชย 1 เพื่อให้แก้ปัญหาซีดีเถื่อน ว่า เรื่องดังกล่าวตนขอยืนยันว่า ตั้งแต่มารับตำแหน่งได้มีการกวดขันจับกุมผู้ค้าซีดีเถื่อนมาโดยตลอด โดยไม่ได้ปล่อยปละละเลยแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังไม่เคยรับผลประโยชน์ใดๆจากผู้ค้าซีดีเถื่อน ซึ่ง เรื่องนี้ตนได้กำชับไปแล้วห้ามตำรวจในท้องที่ไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์เกี่ยวกับซีดีเถื่อนโดยเด็ดขาด อย่างไรก็ตามหลังนอกจากนี้ยังได้ตั้งชุดเฉพาะกิจของบก.น.6 เพื่อตระเวนกวาดล้างซีดีเถื่อน ซึ่งหากสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ในท้องที่ใด ก็จะพิจารณาโยกย้ายผกก.ที่รับผิดชอบท้องที่นั้นโดยทันที
“ขอยืนยันด้วยเกียรติว่า ไม่เคยรับส่วย ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจในการทำงานของผม ยอมรับว่าเรื่องนี้หนักใจที่สุดในชีวิตราชการ เพราะไม่มีเรื่องไหนที่ทำให้ต้องกลุ้มใจมากขนาดนึ้” ผบก.น.6 กล่าว
สำหรับแนวทางในการแก้ปัญหาหลังจากนี้ ผบก.น.6 กล่าวว่า ตนจะเรียกผู้เสียหาย บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ เข้ามาหารือกันให้เร็วที่สุด คาดว่า น่าจะเป็นวันจันทร์หน้า ซึ่งจะเสนอให้เจ้าของลิขสิทธิ์จัดเจ้าหน้าที่มาประจำอยู่ที่สถานีตำรวจ โดยทุกครั้งที่ไปจับกุมให้เจ้าหน้าที่ดังกล่าวเดินทางไปด้วยทุกครั้ง เพราะการจับกุมลิขสิทธิ์จะต้องมีเจ้าทุกข์นำจับ แต่ขออย่างเดียวว่าเมื่อจับกุมผู้ต้องหามาแล้ว ห้ามมีการยอมความกันกันโดยเด็ดขาด” ผบก.น.6 กล่าว
พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า ขณะนี้เชื่อว่า ผู้ประกอบการไม่เข้าใจการทำงานของตำรวจ บางแผงมีใบอนุญาตถูกต้อง แต่ตัวแทนกลับนำตำรวจไปจับ ได้ของกลางมาเป็นหมื่นแผ่น แต่ภายหลังก็ต้องคืนของกลางกลับไป ซึ่งเรื่องนี้ในทางปฏิบัติไม่เราสามารถทำได้ แต่การไปกว้านจับแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ตนไม่อยากถูกมองว่าเป็นเครื่องมือของเจ้าของลิขสิทธิ์ไปรังแกผู้ค้า
สำหรับกรณีที่มีการขู่ขีดเส้นตาย 7 วัน หากแก้ปัญหาไม่ได้จะร้องเรียนนายกรัฐมนตรีให้ย้าย ผบก.น.6 ออกจากพื้นที่นั้น พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า ตนไม่หนักใจอะไร เพราะทีผ่านมาปฏิบัติหน้าที่ด้วยความจริงจัง โดยไม่เคยเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ใดๆ ผู้ประกอบการรายใหญ่จะเข้าใจดีว่าตนทำงานเป็นอย่างไร