เผยข้อแม้ของอัยการ 5 ข้อ ที่ยังไม่สั่งคดีหวยบนดินที่ต้องการให้คตส.สอบเพิ่ม ด้าน“โฆษกอัยการ” ยัน มีความเห็นสั่งคดีไม่ได้ หากไม่สอบเพิ่ม ระบุ ตามใจ คตส. หากตัดสินใจฟ้องเอง ตามประกาศ คปค. ส่วนคดี"กล้ายาง 9 ล้านต้น พร้อมรับสำนวนคดีมาทำ และเตรียมมอบคณะทำงานชุดเดิม ให้ “ วัยวุฒิ หล่อตระกูล ” รองอัยการสูงสุดเป็นประธาน
วันนี้ (5 ก.พ.) นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายเศรษฐกิจและทรัพยากร และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เตรียมยื่นหนังสือถึง นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด เพื่อให้ยืนยันว่าอัยการจะไม่มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ถูกกล่าวหา สำนวนคดีออกสลากพิเศษเลขท้าย 3 และ 2 ตัว (หวยบนดิน) ว่า เวลานี้อัยการยังไม่ได้รับหนังสือจาก คตส.แต่อย่างไรก็ดี แม้ได้รับหนังสือแล้ว อัยการก็จะไม่ทำหนังสือตอบกลับ คตส.เนื่องจากที่ในการประชุมคณะทำงานร่วมอัยการ-คตส.อัยการได้ยืนยันไปแล้วว่า ต้องการให้ คตส.สอบสวนเพิ่มเติมอีก 5 ประเด็น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนสมบูรณ์ที่อัยการจะพิจารณาต่อไปว่าผู้ถูกกล่าวหานั้น มีพฤติการณ์กระทำผิดหรือไม่ อย่างไร ทั้งนี้ หาก คตส.ไม่สอบสวนเพิ่มเติมอัยการก็ไม่สามารถมีความเห็นเพื่อสั่งคดีได้ ซึ่ง คตส.จะดำเนินการอย่างไรก็ต้องเป็นหน้าที่ของ คตส.แล้ว โดยตามประกาศ คปค. ข้อ 9 ให้อำนาจ คตส.สามารถยื่นฟ้องคดีต่อศาลเองได้ และถ้า คตส.ตัดสินใจจะฟ้องคดีเอง อัยการก็คงหมดหน้าที่
นายธนพิชญ์ โฆษกอัยการ ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อม รับสำนวนคดีทุจริตกล้ายางพารา 90 ล้านต้น ที่ คตส.กำลังจะส่งสำนวนให้อัยการเพื่อสั่งคดี ว่า ขณะนี้อัยการสูงสุด เตรียมมอบหมายให้คณะทำงานอัยการชุดเดียวกับที่พิจารณาสำนวนหวยบนดิน ที่มี นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด เป็นประธาน เป็นคณะที่จะผู้รับผิดชอบสำนวนคดีต่างๆ ที่ส่งมาจาก คตส.ทั้งหมด ซึ่งหาก คตส.ส่งสำนวนเมื่อใด นายวัยวุฒิ ประธานคณะทำงาน พร้อมจะเรียกประชุมพิจารณาสำนวนได้ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเห็นที่อัยการไม่เห็นด้วยกับ 5 ข้อนั้น ประกอบด้วย 1.เรื่องการนำพยานในชั้นตรวจสอบมาใช้ในชั้นไต่สวน ฝ่ายอัยการมองว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะถือเป็นพยานบอกเล่า ไม่มีน้ำหนัก และอาจมีการกลับคำให้การ แต่ฝ่าย คตส.มองว่า ดำเนินการได้ตามระเบียบข้อบังคับของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ คตส.ซึ่งในชั้นการตรวจสอบ คตส.ได้แจ้งให้พยานทราบแล้วว่าคำให้การจะนำไปใช้ในศาล ผู้ให้ถ้อยคำต้องรับผิดชอบ
2.เรื่องการหาผู้เชี่ยวชาญมายืนยันว่า สลากหวยบนดิน เป็นการพนันประเภทใด อัยการเห็นควรให้หาผู้ชำนาญการด้านการพนันมาเป็นพยาน แต่ คตส.เห็นว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.), คณะกรรมการกฤษฎีกา และ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่างเห็นว่า หวยบนดินเป็นสลากกินรวบ และไม่ทราบว่าจะหาผู้เชี่ยวชาญการพนันจากไหนมาสอบ เพราะไม่มีใครมาขึ้นทะเบียนไว้
3.เรื่องที่ ครม.เคยมีมติให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกสลากหวยบนดิน เพื่อหารายได้ไปใช้ในกิจการสาธารณกุศลหรือไม่ อัยการเห็นว่า ครม.เคยมีมติเรื่องนี้และได้รับการยกเว้นภาษี แต่ คตส.เห็นว่า การออกหวยบนดิน ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขออกสลากการกุศล และสำนักงานสลากกินแบ่งฯไม่มีวัตถุประสงค์ในเรื่องที่เกี่ยวกับการกุศล
4.เรื่องของหลักฐานเกี่ยวกับการนำรายได้ จากการจำหน่ายสลากหวยบนดิน ไม่มีปรากฏในสำนวนคดี อัยการต้องให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ และผู้เกี่ยวข้องที่ได้รับผลประโยชน์ แต่ คตส.เห็นว่า ผู้อนุมัติเงินโครงการนี้ คือ ครม.และคณะกรรมการกองสลากฯ และเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่ยอมเอาเงินรายได้เข้าเป็นเงินแผ่นดิน
5.เรื่องการรับรองบัญชีงบการเงินโครงการออกสลากหวยบนดินของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งอัยการ ต้องการให้ตรวจสอบว่าคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินได้สอบบัญชีและรับรองบัญชีหรือไม่อย่างไร โดย คตส.กลับเห็นว่า คตส.นำผลการสอบสวนของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มาเป็นข้อพิจารณาในเบื้องต้น หากจะสอบในประเด็นนี้จะต้องสอบผู้ว่าการ สตง.ซึ่งมองว่าเมื่อสอบไปแล้วจะมีข้อโต้แย้งว่าเอาพยานที่เป็นปฏิปักษ์มาสอบจึงไม่สอบส่วนนี้