พบเหยื่อ “แก๊ง ตชด.” ในเรือนจำแล้ว 14 ราย ราชทัณฑ์พบยอดนักโทษกว่า 500 ราย ร้องเรียนไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกเจ้าหน้าที่รัฐกระทำนอกเหนือกฎหมาย ด้านอธิบดีกรมคุกระบุมีทั้งผิดจริงแต่โดนซ้อมเรียกเงินและโดนยัดข้อหา
วันนี้ (5 ก.พ.) ที่กรมราชทัณฑ์ นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการสำรวจผู้ต้องขังที่ตกเป็นเหยื่อ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ ผบ.หมวด 426 กก.ตชด.42 จ.นครศรีธรรมราช ช่วยราชการ ตชด.ที่ 41 จ.ชุมพร กับพวกจับกุมและยัดข้อหาว่า จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่ามีผู้ต้องขังที่ถูกแก๊ง ตชด.จับกุมในคดียาบ้าถูกคุมขังในเรือนจำและทัณฑสถาน 14 ราย ประกอบด้วย
1.นายไพรัตน์ มีหมื่นพล ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง
2.นางประนอม ช้างขำ
3.นายธวัชชัย รุ่งเรืองมา
4.นางสาวขวัญฤทัย แก้วฟู เรือนจำสมุทรปราการ
5.นายถนอม ล้านเกตุบุตร เรือนจำจังหวัดชุมพร ศาลตัดสินจำคุก 8 ปี
6.น.ส.ณัฎฐ์ นรศรี
7.นางบุษกร รัตนวงศ์
8.นางตุ้มทอง(ตุ๊ก) คำแสน
9.นางดวงกมล อุนศิริ
10.นางระวิวรรณ(แอน)บุญเลิศ
11.นางสมใจ(ฟ้า) ล้อมจันทร์ ทัณฑสถานหญิงกลาง
12.นายมนชัย เข็มทอง เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ศาลตัดสินจำคุก 5 ปี
13.นายณรงค์ฤฺทธิ์ เกตุสมบัติ เรือนจำอำเภอทุ่งสง
และ 14.นางจารี ดอกไม้หอม เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ซึ่งทางเรือนจำจะให้เหยื่อเขียนคำร้องระบุพฤติกรรมการและรายละเอียดของคดี เพื่อตรวจสอบความชัดเจน
นายวันชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องขังที่ร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมอีกจำนวนมาก ซึ่งทางเรือนจำได้จำแนกออกเป็น 3 ลักษณะ คือ 1.ผู้ต้องขังที่ถูกจับกุมในคดียาเสพติดช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามยาเสพติด 2.ผู้ต้องขังที่ถูกจับกุมพร้อมยาเสพติดและมีรายชื่ออยู่ในบัญชียาเสพติดของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จริง แต่ถูกเจ้าหน้าที่เรียกเงินและทำร้ายร่างกาย และ3. ผู้ต้องขังที่ถูกจับกุมและถูกทำร้ายร่างกายให้รับสารภาพ หรือถูกจับเพราะการซัดทอดจากผู้ต้องหารายอื่น อย่างไรก็ตามรายละเอียดแต่ละกลุ่มทางเรือนจำจะมีคณะทำงานพิจารณาอย่างละเอียด
นายวันชัย กล่าวต่อว่า การตรวจสอบผู้ต้องขังในเรือนจำที่อาจเป็นผู้บริสุทธิ์ ตามโครงการ“ผู้ต้องการความช่วยเหลือทางกฎหมาย” จากเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ จำนวน 137 แห่ง โดยมีจำนวนผู้ต้องขังที่แสดงความจำนงว่า ตนเองไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง จำนวน 7,206 คน แบ่งเป็นผู้ต้องขังคดีเด็ดขาด จำนวน 3,943 คน และผู้ต้องขังที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาจำนวน 3,263 คน โดยทางเรือนจำแบ่งเป็น 4 กลุ่ม เป็นนักโทษเด็ดขาด 2,399 คน ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี 3,332
นายวันชัย กล่าวอีกว่า กลุ่มเอ หมายถึงผู้ต้องขังที่มีข้อมูลน่าเชื่อถือทางเอกสารและมั่นใจว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ค่อนข้างแน่นอน มีจำนวน 283 คน กลุ่มบี หมายถึงผู้ต้องขังที่มีข้อมูลก้ำกึ่งทั้งจากการสัมภาษณ์และความเห็นผู้สัมภาษณ์ จำนวน 3,837 คน กลุ่มซี หมายถึงผู้ต้องขังที่มีความผิด แต่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการดำเนินคดี จำนวน 528 คน และกลุ่มดี หมายถึงผู้ต้องขังกระทำผิดซึ่งควรได้รับสิทธิการดูแลที่พึงได้รับ ภายหลังรวบรวมข้อมูลกรมราชทัณฑ์ได้ส่งข้อมูลของผู้ต้องขังกลุ่มเอให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณา โดยคณะกรรมการระดับกระทรวงได้คัดกรองอย่างละเอียด แล้วให้ความช่วยเหลือผู้ต้องขังในกลุ่ม เอ ที่มีข้อมูลน่าเชื่อว่าอาจจะเป็นผู้บริสุทธิ์ 5 ราย ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปสอบปากคำในเรือนจำและเหลือเพียง 3 ราย ที่กระทรวงจะให้ความช่วยเหลือ