ปลัด ยธ.สั่งช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ถูกยัดข้อหาทั่วประเทศ ด้านราชทัณฑ์ระบุเจอเหยื่อแก๊ง ตชด.ถูกขังคุกแล้ว 8 ราย เชื่อยังมีอีก ขณะที่ “พงศพัศ” เชื่อได้ทรัพย์สินจากการรีดไถไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน หลังพบผู้เสียหายอื้อในแถบจังหวัดภาคใต้
วันนี้ (31 ม.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อเวลา 11.00 น. นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมผู้เสียหายที่ถูกแก๊ง ตชด.ชุด ร.ต.อ.ณัฎฐ์ ชนนิธิวณิชย์ ผบ.หมวด 426 กก.ตชด.42 จังหวัดนครศรีธรรมราช ช่วยราชการ ตชด.41 จ.ชุมพร และลูกน้อง จับกุมทำร้ายร่างกายและยัดยาเสพติด ประชุมเพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาทางกฎหมายให้แก่ผู้เสียหาย
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า ตชด.แก๊ง ร.ต.อ.ณัฎฐ์ มีผลงานด้านปราบปรามยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง หลายคดีที่ชุดนี้จับกุมศาลจะพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย แต่เมื่อข้อเท็จจริงเปิดเผยมาว่า วิธีการจับกุมเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพ ซึ่งไม่มีใครยอมรับได้ อีกทั้งจำนวนผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขณะนี้คาดว่ามีกว่า 20 รายแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นประชาชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช ชุมพร สุราษฎร์ธานี นราธิวาส และ กทม. ดังนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จึงขอหารือร่วมกับกระทรวงยุติธรรม เพื่อร่วมกันบรรเทา ความเสียหายและจัดชุดคุ้มครองพยาน ส่วนเรื่องการสอบสวนขยายผลถึงตำรวจอื่นๆที่เกี่ยวข้อง สตช.ขอให้ความมั่นใจว่าจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดไม่ให้หลงเหลือไว้ และพร้อมจะดำเนินการลงโทษทางวินัยกับผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดกับแก๊งนี้ นอกจากนี้ ชุดของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) จะเร่งสอบสวนถึงทรัพย์สินและผลประโยชน์ต่างๆที่ ตชด.กลุ่มนี้เรียกรับว่า มีการจ่ายแจกไปถึงใครบ้าง
“กรณีนี้ของผู้กองณัฎฐ์เป็นเหมือนฝีแตกไปทั่วตัว มีคนร้องทุกข์กล่าวโทษทั่วประเทศ สตช.จะต้องตรวจสอบย้อนหลังทั้งหมด ถึงบันทึกการจับกุมว่าทำคดีอะไรมาบ้าง เคยถูกร้องเรียนเรื่องเก่าและมีการช่วยเหลือปิดบังกันอย่างไร ซึ่งในวันนี้ (31 ม.ค.) จะสรุปได้ว่ามีใครเกี่ยวข้องกับแก๊ง ร.ต.อ.ณัฏฐ์ และพ.ต.ท.สุรกิตต์ คล้ายอุดม รอง ผกก.ตชด. 41 บ้าง อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบไม่พบว่าแก๊ง ตชด.นี้มีธุรกิจผิดกฎหมายอื่น แต่การจับกุมทุกครั้งมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายรีดไถในรูปแบบเหมือนๆ กัน คาดว่าจะมีทรัพย์สินที่ได้ไปไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ส่วนรถยนต์ที่ถูกรีดไถไปตอนนี้ยึดกลับมาได้หลายคันแล้ว” พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าว
นายจรัญ กล่าวว่า ตนได้กำชับทุกฝ่ายแยกแยะข้อเท็จจริงระหว่างคนที่กระทำความผิดจริงแต่ถูกทำร้ายร่างกายและรีดไถกับผู้บริสุทธิ์ที่ถูกใส่ร้าย โดยจะให้ความสำคัญกับผู้บริสุทธิ์ เป็นอันดับแรก ส่วนผู้ที่มีมูลน่าเชื่อว่าทำผิดจริงจะหาทางเยียวยาตามสมควร ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหายกับกระบวนการยุติธรรมและป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดจริงแฝงตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้น จะต้องพิสูจน์ให้ได้ ข้อเท็จจริงชัดเจนว่ามีการข่มขู่ทำร้ายร่างกายบังคับให้รับสารภาพจริง ซึ่งการหาหลักฐานในส่วนนี้ หากหน่วยราชการเข้าไปช่วยเหลือ ผู้ต้องหาก็มีโอกาสที่จะต่อสู้คดีได้
นายจรัญ กล่าวอีกว่า การช่วยเหลือคุ้มครองสิทธิฯ จะไม่ทำเพียงผู้เสียหายจาก ตชด.แก๊งนี้แต่จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายทุกรายทั่วประเทศที่ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐกลั่นแกล้งรังแก ส่วนค่าเสียหายที่ สตช.อาจจะต้องถูกฟ้องแพ่งมูลค่ามหาศาลก็ต้องจ่ายแล้วไปฟ้องไล่เบี้ยเอาคืนกับผู้ผิด
นายวันชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบล่าสุด พบว่ามีผู้ต้องขังที่ถูกแก๊งค์ตชด.จับกุมในคดียาบ้า ถูกคุมขังในเรือนจำ 8ราย เป็นผู้ต้องขังในเรือนจำสมุทรปราการ 1 ราย เรือนจำกลางคลองเปรม 1 ราย ทัณฑสถานหญิงกลาง 5 รายและเรือนจำจังหวัดตรัง 1 ราย ซึ่งขณะนี้เรือนจำให้ผู้ต้องหาทั้ง 8 รายทำคำร้องเสนอมาแล้ว นอกจากนี้ตนได้สั่งการให้ทุกเรือนจำทั่วประเทศสอบถามผู้ต้องขังว่า รายใดเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการกระทำของแก๊ง ตชด.จึงคาดว่าคดีจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียหาย อาทิ นางจุฑาภรณ์ นุ่นรอด ซึ่งถูกจับกุมจนต้องคลอดลูกในเรือนจำ เปิดเผยว่า สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือขอให้อัยการถอนอุทธรณ์ เพราะหลังจากที่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง อัยการก็ยื่นอุทธรณ์ทันที ส่วนเรื่องค่าเสียหายที่จะฟ้องจากสตช.จะขอปรึกษาทนายความอีกครั้ง
ด้าน นางธนพร แตงอ่อน แฟนสาวของนายจิรัตน์ สโรบล ผู้ต้องหามียาเสพติดในครอบครอง ถูกจับกุมในพื้นที่ สน.พญาไท ได้เข้าร้องทุกข์ขอให้ สตช.และกระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือ เนื่องจากแฟนหนุ่มยังถูกคุมขังอยู่ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
ด้านนายขวัญชัย โชติพันธุ์ ทนายความผู้เสียหายได้แจ้งให้ปลัดกระทรวงยุติธรรม ช่วยตรวจสอบกรณีของผู้ต้องขังชาย ไพรัตน์ มีหมื่นพล ที่ถูกคุมขังอยู่แดน 6 ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ซึ่งอาจถูกยัดข้อหา นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวว่าหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่ข่าวดังกล่าวออกไปก็มีผู้ต้องขังจากเรือนจำต่างๆ ทยอยเขียนคำร้องแล้วจำนวนหนึ่ง
ขณะที่นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวว่า ได้มีคำสั่งตั้งนายมนตรี กิจมหาวงศ์ ที่ปรึกษาฝ่ายปราบปรามยาเสพติดเป็นประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณี เจ้าหน้าที่ป.ป.ส.ระดับ 7 มีชื่อร่วมจับกุมกับร.ต.อ.ณัฏฐ์ ในการจับกุมนายประนอม อัมพิณย์ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางสมุทรปราการ คาดว่าจะสรุปข้อเท็จจริงได้ภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนเรื่องการแกะรอยเส้นทางการเงินของแก๊งค์ตชด.ยังไม่พบทรัพย์สิน ขณะนี้กำลังเร่งติดตามว่าแก๊งค์ตชด.มีพฤติกรรมถ่ายเทเงินอย่างไร