คนร้ายซึ่งตำรวจคาดว่าเป็นผู้ที่รู้จักกับ “ณุ ท่าพระจันทร์” เซียนพระ และเจ้าของแผงพระชื่อดัง ทำทีเข้าไปเจรจาต่อรองเช่าซื้อพระสมเด็จ มูลค่า 2 ล้าน พอเซียนพระเผลอใช้ค้อนหวดศีรษะจนสมองไหลดับอนาถ แล้วกวาดเรียบพระสมเด็จและพระเครื่องหลายรายการหลบหนีไป
วันนี้ (1 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.30 น.พ.ต.ท.นิพนธ์ บุญมา สารวัตรเวร สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในหมู่บ้านศิขรินทร์ หมู่ 3 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา ผบก.นนทบุรี พ.ต.อ.ศักดา สร้อยสุวรรณ ผกก. พ.ต.ท.ธนัตถ์ ทนงศักดิ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.อิทธิพล อินทมาตย์ สว.สป. พ.ต.ท.ธนา มลิงาม สว.สส.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.นนทบุรี แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เจ้าหน้าที่วิทยาการ รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
บริเวณที่เกิดเหตุ เป็นทาวน์เฮาส์ 2 หลังคู่ เลขที่ 2/36-38 บริเวณหน้าบ้านถูกใส่ด้วยลูกกุญแจขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปภายในบ้าน บริเวณหลังบ้านหน้าห้องน้ำพบศพ นายวิษณุ เทพินทร์กุล อายุ 58 ปี นอนเสียชีวิตในสภาพนุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา เสื้อกล้ามสีเนื้อ มีกองเสื้อผ้าสุมทับใบหน้า เมื่อเปิดออกพบว่าถูกตีด้วยของแข็งที่ศรีษะด้านขวาจนมันสมองไหล เลือดกระเซ็นเต็มข้างฝาและพื้นบ้าน บริเวณโต๊ะทำงานซึ่งดัดแปลงเป็นโต๊ะตกแต่ง-ซ่อมแซมพระเครื่องมีร่องรอยถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย คาดว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8 ชั่วโมง
สอบสวน นางสุริยา ยอดสกุล อายุ 50 ปี ทำงานแผนกกองเครื่องกลพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ (กฟผ) ซึ่งเป็นภรรยาให้การด้วยน้ำตานองหน้า ว่า สามีอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวเพียงคนเดียว ก่อนหน้านี้ เคยทำงานอยู่ที่เดียวกันกับตนเองแต่ได้ขอเออลีรีไทร์ออกมาก่อน 2 ปี เนื่องจากสามีมีความสามารถในการเล่นพระเครื่องมีชื่อเสียงโด่งดังในวงการพระจนเซียนพระเรียกกันว่า “ณุ ท่าพระจันทร์” มีพระสะสมรุ่นดังๆ นับสิบองค์ราคานับสิบๆ ล้านบาท และมีแผงพระอยู่ที่ท่าพระจันทร์มานานหลายสิบปี ล่าสุด มาเปิดแผงพระเพิ่มอีกที่สนามหลวง 2 แขวงคลองทวีวัฒนา ส่วนทรัพย์สินที่หายไปเป็นพระเครื่องที่สามีเก็บไว้ถูกคนร้ายกวาดไปจนเกลี้ยงตู้ รวมทั้งเงินสดอีกหลายหมื่นบาทที่สามีมักพกติดตัวไว้เช่าซื้อพระ
ภรรยาผู้ตายให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมว่า ปกติสามีเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบ จะไม่ยอมให้ใครเข้ามาในบ้านเลยถ้าไม่ใช่คนรู้จัก ส่วนตนเองกับลูกๆ อาศัยอยู่ที่บ้านอีกแห่งหนึ่งใกล้ที่ทำงาน ก่อนหน้านี้ สามีได้เล่าให้ฟังว่ามีคนมาขอเช่าซื้อพระสมเด็จจากสามีในราคา 1.8 ล้านบาท แต่สามีต้องการ 2 ล้าน อยู่ระหว่างตกลงราคากัน ก็มาถูกคนร้ายฆ่าตาย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายต้องเป็นคนที่รู้จักใกล้ตัว คนตายจึงยอมให้เข้ามาในบ้านได้ และอาจมีการเจราจาต่อรองเช่าซื้อพระกัน แต่คนร้ายเห็นว่าผู้ตายมีพระชื่อดังราคาแพงนับสิบองค์ จึงฉวยโอกาสที่คนตายเผลอใช้ค้อนกระหน่ำตีที่ศีรษะอย่างแรงหลายครั้งจนเสียชีวิตคาที่ แล้วนำกองเสื้อผ้ามาสุมทับไว้บริเวณใบหน้า เพื่ออำพรางศพ ก่อนที่จะกวาดพระพุทธรูปและพระเครื่องชื่อดังในตู้โชว์จนเกลี้ยงหลบหนีไป โดยเชื่อว่า คนร้ายต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ในเรื่องของพระเครื่อง หรืออาจรับใบสั่งมาอีกทีจากบุคคลในแวดวงพระเครื่องเพราะรู้ว่าผู้ตายมีพระราคาแพงประเมินไม่ได้สะสมเก็บเอาไว้ในตัวนั่นเอง
ด้าน พล.ต.ต.ปริญญา ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งออกหาข่าวและสอบปากคำเพื่อนฝูงของคนตายเพื่อหาตัวฆาตกรรายนี้มาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนต่อไปแล้ว
วันนี้ (1 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.30 น.พ.ต.ท.นิพนธ์ บุญมา สารวัตรเวร สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในหมู่บ้านศิขรินทร์ หมู่ 3 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา ผบก.นนทบุรี พ.ต.อ.ศักดา สร้อยสุวรรณ ผกก. พ.ต.ท.ธนัตถ์ ทนงศักดิ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.อิทธิพล อินทมาตย์ สว.สป. พ.ต.ท.ธนา มลิงาม สว.สส.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.นนทบุรี แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เจ้าหน้าที่วิทยาการ รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
บริเวณที่เกิดเหตุ เป็นทาวน์เฮาส์ 2 หลังคู่ เลขที่ 2/36-38 บริเวณหน้าบ้านถูกใส่ด้วยลูกกุญแจขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปภายในบ้าน บริเวณหลังบ้านหน้าห้องน้ำพบศพ นายวิษณุ เทพินทร์กุล อายุ 58 ปี นอนเสียชีวิตในสภาพนุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา เสื้อกล้ามสีเนื้อ มีกองเสื้อผ้าสุมทับใบหน้า เมื่อเปิดออกพบว่าถูกตีด้วยของแข็งที่ศรีษะด้านขวาจนมันสมองไหล เลือดกระเซ็นเต็มข้างฝาและพื้นบ้าน บริเวณโต๊ะทำงานซึ่งดัดแปลงเป็นโต๊ะตกแต่ง-ซ่อมแซมพระเครื่องมีร่องรอยถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย คาดว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8 ชั่วโมง
สอบสวน นางสุริยา ยอดสกุล อายุ 50 ปี ทำงานแผนกกองเครื่องกลพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ (กฟผ) ซึ่งเป็นภรรยาให้การด้วยน้ำตานองหน้า ว่า สามีอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวเพียงคนเดียว ก่อนหน้านี้ เคยทำงานอยู่ที่เดียวกันกับตนเองแต่ได้ขอเออลีรีไทร์ออกมาก่อน 2 ปี เนื่องจากสามีมีความสามารถในการเล่นพระเครื่องมีชื่อเสียงโด่งดังในวงการพระจนเซียนพระเรียกกันว่า “ณุ ท่าพระจันทร์” มีพระสะสมรุ่นดังๆ นับสิบองค์ราคานับสิบๆ ล้านบาท และมีแผงพระอยู่ที่ท่าพระจันทร์มานานหลายสิบปี ล่าสุด มาเปิดแผงพระเพิ่มอีกที่สนามหลวง 2 แขวงคลองทวีวัฒนา ส่วนทรัพย์สินที่หายไปเป็นพระเครื่องที่สามีเก็บไว้ถูกคนร้ายกวาดไปจนเกลี้ยงตู้ รวมทั้งเงินสดอีกหลายหมื่นบาทที่สามีมักพกติดตัวไว้เช่าซื้อพระ
ภรรยาผู้ตายให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมว่า ปกติสามีเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบ จะไม่ยอมให้ใครเข้ามาในบ้านเลยถ้าไม่ใช่คนรู้จัก ส่วนตนเองกับลูกๆ อาศัยอยู่ที่บ้านอีกแห่งหนึ่งใกล้ที่ทำงาน ก่อนหน้านี้ สามีได้เล่าให้ฟังว่ามีคนมาขอเช่าซื้อพระสมเด็จจากสามีในราคา 1.8 ล้านบาท แต่สามีต้องการ 2 ล้าน อยู่ระหว่างตกลงราคากัน ก็มาถูกคนร้ายฆ่าตาย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายต้องเป็นคนที่รู้จักใกล้ตัว คนตายจึงยอมให้เข้ามาในบ้านได้ และอาจมีการเจราจาต่อรองเช่าซื้อพระกัน แต่คนร้ายเห็นว่าผู้ตายมีพระชื่อดังราคาแพงนับสิบองค์ จึงฉวยโอกาสที่คนตายเผลอใช้ค้อนกระหน่ำตีที่ศีรษะอย่างแรงหลายครั้งจนเสียชีวิตคาที่ แล้วนำกองเสื้อผ้ามาสุมทับไว้บริเวณใบหน้า เพื่ออำพรางศพ ก่อนที่จะกวาดพระพุทธรูปและพระเครื่องชื่อดังในตู้โชว์จนเกลี้ยงหลบหนีไป โดยเชื่อว่า คนร้ายต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ในเรื่องของพระเครื่อง หรืออาจรับใบสั่งมาอีกทีจากบุคคลในแวดวงพระเครื่องเพราะรู้ว่าผู้ตายมีพระราคาแพงประเมินไม่ได้สะสมเก็บเอาไว้ในตัวนั่นเอง
ด้าน พล.ต.ต.ปริญญา ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งออกหาข่าวและสอบปากคำเพื่อนฝูงของคนตายเพื่อหาตัวฆาตกรรายนี้มาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนต่อไปแล้ว
