บัณฑิตหนุ่มจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ว่าที่พนักงานของ ปตท.ก่อเหตุอัตตวินิบาตกรรม ใช้อาวุธปีน .38 จ่อขมับยิงตัวตายในบ้าน สาเหตุ เจ้าตัวคิดมาก เรื่องถูกคนร้ายปล้นและลากไปตุ๋ยขืนใจ ระหว่างเดินทางไปต่างจังหวัด
วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ร.ต.ท.ภูมินทร์ คิลาลัง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางขุนนนท์ รับแจ้งเหตุมีชายยิงตัวตายภายในบ้านเลขที่ 29/6 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 23 แยก 9 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สูง 2 ชั้น ปลูกอยู่ในรั้วรอบขอบชิด มีเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา บริเวณห้องนอนชั้น 2 เจ้าหน้าที่พบศพ นายนเรศ รับคำอินทร์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ถนนเจริญกรุง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดอยู่บนเตียงนอน สวมเสื้อยืดสีเขียวขี้ม้า กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกอาวุธปืน .38 ยิงเข้าที่บริเวณขมับขวาทะลุซ้าย ใกล้กันพบอาวุธปืนลูกโม่ .38 ตกอยู่ที่พื้น จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นางช่อทิพย์ รับคำอินทร์ อายุ 50 ปี แม่ค้าขายชุด รด.และเครื่องหมายทหารภายในกรมการรักษาดินแดน ซึ่งอยู่ในอาการโศกเศร้า ให้การทั้งน้ำตาว่า ผู้ตายเป็นลูกชายของตนเองที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต คณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และกำลังจะได้งานทำที่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ส่วนช่วงนี้ลูกชายก็จะมาช่วยตนขายของที่กรมการรักษาดินแดนทุกวัน ซึ่งปกติลูกชายจะพักอาศัยที่บ้านหลังนี้กับ ร.ต.ไตรเทพ รับคำอินทร์ สามีของตน และลูกชายคนเล็ก และแฟนของลูกชายคนเล็ก โดยบ้านหลังนี้เป็นบ้านของหัวหน้าสามี
นางช่อทิพย์ ร่ำไห้กล่าวต่ออีกว่า สาเหตุที่ทำให้ลูกชายคิดสั้นฆ่าตัวตาย ก็น่าจะมาจากเรื่องที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ลูกชายนำใบเกรด ผลการเรียนที่เพิ่งจบกลับไปให้ย่าดูที่ อ.เมือง จ.สระบุรี แต่ลูกชายลงรถผิด ไปลงที่ ต.หนองยาว ระหว่างนั้นก็ถูกกลุ่มโจรลากไปกระทืบจนแว่นตาแตก มองทางไม่เห็น จากนั้นก็ลากไปข่มขืน ก่อนที่จะชิงทรัพย์หลบหนีไป เมื่อกลับมาบ้านก็เล่าให้ตนกับสามีฟัง สามีจึงบอกให้ลูกชายไปตรวจร่างกายเพื่อนำใบผลการแพทย์ไปแจ้งความความที่ จ.สระบุรี แต่ลูกชายไม่ยอมไป
“เมื่อช่วงเช้าเขาก็ออกมาช่วยขายของ ฉันก็บอกเขาว่า พ่อบ่นเพราะไม่ยอมไปตรวจร่างกายเสียที เขาก็บอกว่า เขารับไม่ได้ เขาอยากจะลืม แล้วก็กลับบ้านมา จนมารู้ว่าเขายิงตัวตาย ซึ่งความจริงฉันไม่น่าไปบังคับให้เขาตรวจร่างกายเลย” นางช่อทิพย์ กล่าว
ด้าน ร.ต.ท.ภูมินทร์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำพยานแวดล้อม ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 08.00 น.ได้ยินเสียงเหมือนแก๊สระเบิด และของหล่นดังมาจากบ้านผู้ตาย จากนั้นก็เงียบหายไปจนกระทั่งมีคนมาพบศพ ส่วนอาวุธปืนที่ผู้ตายใช้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นพ่อผู้ตายยืนยันว่าไม่ใช่ของตัวเอง ไม่ทราบว่าผู้ตายนำอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวมาจากไหน ซึ่งต้องสอบสวนหาที่มาต่อไป
วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ร.ต.ท.ภูมินทร์ คิลาลัง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางขุนนนท์ รับแจ้งเหตุมีชายยิงตัวตายภายในบ้านเลขที่ 29/6 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 23 แยก 9 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สูง 2 ชั้น ปลูกอยู่ในรั้วรอบขอบชิด มีเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา บริเวณห้องนอนชั้น 2 เจ้าหน้าที่พบศพ นายนเรศ รับคำอินทร์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ถนนเจริญกรุง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดอยู่บนเตียงนอน สวมเสื้อยืดสีเขียวขี้ม้า กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกอาวุธปืน .38 ยิงเข้าที่บริเวณขมับขวาทะลุซ้าย ใกล้กันพบอาวุธปืนลูกโม่ .38 ตกอยู่ที่พื้น จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นางช่อทิพย์ รับคำอินทร์ อายุ 50 ปี แม่ค้าขายชุด รด.และเครื่องหมายทหารภายในกรมการรักษาดินแดน ซึ่งอยู่ในอาการโศกเศร้า ให้การทั้งน้ำตาว่า ผู้ตายเป็นลูกชายของตนเองที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต คณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และกำลังจะได้งานทำที่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ส่วนช่วงนี้ลูกชายก็จะมาช่วยตนขายของที่กรมการรักษาดินแดนทุกวัน ซึ่งปกติลูกชายจะพักอาศัยที่บ้านหลังนี้กับ ร.ต.ไตรเทพ รับคำอินทร์ สามีของตน และลูกชายคนเล็ก และแฟนของลูกชายคนเล็ก โดยบ้านหลังนี้เป็นบ้านของหัวหน้าสามี
นางช่อทิพย์ ร่ำไห้กล่าวต่ออีกว่า สาเหตุที่ทำให้ลูกชายคิดสั้นฆ่าตัวตาย ก็น่าจะมาจากเรื่องที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ลูกชายนำใบเกรด ผลการเรียนที่เพิ่งจบกลับไปให้ย่าดูที่ อ.เมือง จ.สระบุรี แต่ลูกชายลงรถผิด ไปลงที่ ต.หนองยาว ระหว่างนั้นก็ถูกกลุ่มโจรลากไปกระทืบจนแว่นตาแตก มองทางไม่เห็น จากนั้นก็ลากไปข่มขืน ก่อนที่จะชิงทรัพย์หลบหนีไป เมื่อกลับมาบ้านก็เล่าให้ตนกับสามีฟัง สามีจึงบอกให้ลูกชายไปตรวจร่างกายเพื่อนำใบผลการแพทย์ไปแจ้งความความที่ จ.สระบุรี แต่ลูกชายไม่ยอมไป
“เมื่อช่วงเช้าเขาก็ออกมาช่วยขายของ ฉันก็บอกเขาว่า พ่อบ่นเพราะไม่ยอมไปตรวจร่างกายเสียที เขาก็บอกว่า เขารับไม่ได้ เขาอยากจะลืม แล้วก็กลับบ้านมา จนมารู้ว่าเขายิงตัวตาย ซึ่งความจริงฉันไม่น่าไปบังคับให้เขาตรวจร่างกายเลย” นางช่อทิพย์ กล่าว
ด้าน ร.ต.ท.ภูมินทร์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำพยานแวดล้อม ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 08.00 น.ได้ยินเสียงเหมือนแก๊สระเบิด และของหล่นดังมาจากบ้านผู้ตาย จากนั้นก็เงียบหายไปจนกระทั่งมีคนมาพบศพ ส่วนอาวุธปืนที่ผู้ตายใช้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นพ่อผู้ตายยืนยันว่าไม่ใช่ของตัวเอง ไม่ทราบว่าผู้ตายนำอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวมาจากไหน ซึ่งต้องสอบสวนหาที่มาต่อไป