xs
xsm
sm
md
lg

ฤาดั่งว่า "ตำรวจ...ดีสุดขั้ว ชั่วสุด(teen)ขีด"จริง!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


จารบุรุษ

"ตชด."ที่ย่อมาจาก ตำรวจตระเวณชายแดนนั้น เรามักเห็นภาพที่จัดอยู่ในตำรวจน้ำดีมาโดยตลอด ทั้งลักษณะการแต่งกายที่คุ้นตา เป็นชุดลายพรางคล้ายทหาร มีหน้าที่ปฏิบัติภารกิจตามแนวตะเข็บชายแดน เพื่อช่วยและเสริมทัพทหาร รวมทั้งควบคุมพื้นที่จุดยุทธศาสตร์ต่างๆ ตามชายแดนประเทศ นอกเหนือจากงานหลักดังกล่าวแล้ว ภายหลัง เมื่อตามแนวตะเข็บชายแดนเริ่มมีความสงบมากขึ้น เราพบภาพตชด.ในลักษณะของความเป็น"ครู" เป็นครูที่อยู่ห่างไกลในถิ่นธุรกันดาร จนกระทั่งเกิดเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดนขึ้น

ปัจจุบัน มีข่าวตำรวจตระเวณชายแดน ถูกคนร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ลอบสังหาร เสียชีวิตไปพร้อมทหารอยู่ปล่อยครั้ง ล่าสุด เมื่อปีที่ผ่านมา วีรกรรมของ "ผู้กองแคน" ร.ต.อ.ธรณิศ ศรีสุข อายุ 28 ปี รอง ผบ.ร้อย รบพิเศษ 1 (รพศ.1) กก.1 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ (ตชด.) ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี ซึ่งเสียชีวิตเมื่อเช้าวันที่ 29 ก.ย.2550 จากเหตุการปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่บริเวณเนินเนาวรัตน์หรือเนิน 9 ศพ ระหว่างบ้านสายสุราษฎร์-บ้านภักดี หมู่ที่ 3 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งขณะเกิดเหตุ ร.ต.อ.ธรณิศ เป็นหัวหน้าชุดนำกำลัง 12 นายออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยตามปกติ เมื่อลาดตระเวนมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายไม่น้อยกว่า 20 คน ซุ่มอยู่บนเนินสูงใช้อาวุธสงครามทั้งอาก้า เอ็ม 16 และลูกซองกราดยิงใส่จนเกิดการปะทะกันดุเดือดนานกว่า 20 นาที และคนร้ายได้อาศัยความชำนาญในพื้นที่และป่าทึบหลบหนีไป หลังเสียงปืนสงบ เมื่อเข้าตรวจเคลียร์พื้นที่ พบว่า ร.ต.อ.ธรณิศ ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว เหตุการณ์นั้น ยังคงตรึงอยู่ในหัวใจของคนไทยจำนวนมากที่ทราบข่าวกับความเสียสละอันยิ่งใหญ่นั้น

ใช่จะมีแต่ "ผู้กองแคน"คนเดียวเท่านั้น ยังมีตชด.อีกหลายนาย ที่ยอมเสียสละ อุทิศชีวิต เลือดเนื้อ รวมทั้งความสุขสบายอีกหลายขนาน ในความเป็นตำรวจ! ทว่า ในฝูงแกะขาว ย่อมต้องมี"แกะดำ"ปะปน

แต่กับพฤติการณ์และพฤติกรรมของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ ซึ่งสังกัด บช.ตชด. ทั้งยังเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นน้องของ"ผู้กองแคน"เพียง 1 ปี แต่กลับไม่ได้ซึมซับความเป็นผู้เสียสละ และอุดมการณ์ของตำรวจตระเวณชายแดนแม้แต่น้อย โดยเฉพาะอุดมการณ์ข้อที่ 3 ที่ระบุว่า "ตำรวจตระเวนชายแดน จะต้องมีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย ประหยัด ขยันหมั่นเพียร มีคุณธรรม รับใช้ประชาชน และมีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ ซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม สามารถพึ่งตนเองได้"

ตรงกันข้าม พฤติกรรมของร.ต.อ.ณัฏฐ์ เสมือนหนึ่งเข้าข่าย"ซ่องโจร" รวบรวมลูกน้อง ออกปฏิบัติการรีดทรัพย์ และปล้นทรัพย์เหยื่อ ถึงแม้ว่า "เหยื่อ"บางราย อาจจะมีชื่อในบัญชีดำเกี่ยวกับยาเสพติดก็ตาม แต่ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ก็ไม่มีสิทธิ์ ที่จะกระทำการดังกล่าว ซึ่งผิดกฏหมายชัดเจน

เรื่องนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้นิ่งนอนใจ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. สั่งให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด และต้องให้สาสม ด้วยเป็นผู้ถือกฏหมายแต่กลับกระทำผิดเสียเอง แถมยังกำชับหนักแน่นด้วยว่า "พวกนี้ ต้องไม่มีที่ให้ยืนในสังคม"อีกต่อไป

บัดนี้ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ กับพวก กำลังได้รับการชดใช้กรรมอยู่ แต่หากเปรียบเทียบกับพฤติกรรมที่กระทำกับเหยื่อแล้ว ดูเหมือนจะน้อยไปด้วยซ้ำ แม้ร.ต.อ.ณัฏฐ์กับพวก จะไม่ได้ปลงชีวิตของเหยื่อ ทว่าก็เหมือนกับ ทำพวกเขาให้ต้องตายทั้งเป็น! แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องใช้เวลาอีกระยะในระหว่างการดำเนินคดี และการตัดสินของศาลยุติธรรม ซึ่งก็หวังว่า ผู้ที่กระทำผิดจะได้ชดใช้กรรมที่ได้ก่อขึ้น

ยังคงเชื่อมั่นอยู่เสมอว่า "น้ำดี" ย่อมมีปริมาณมากกว่า "น้ำครำ" ไม่เช่นนั้น องค์กรใหญ่อย่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คงดำรงอยู่ไม่ได้ เพียงแต่ว่า น้ำครำนั้นมันค่อนข้างเหม็นโฉ่ เห็นสีดำได้ชัดเจน และตำรวจในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้ง 2 แสนกว่านาย สามารถเลือกเองได้ว่า จะเป็น"น้ำดี"หรือ"น้ำครำ"!
กำลังโหลดความคิดเห็น