คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
เมื่อปี 1985 ตอนนั้น ผมยังใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงปารี ประเทศฝรั่งเศส โดยทำงานเป็นผู้จัดการอยู่ในร้านสินค้าปลอดภาษีซึ่งตั้งอยู่ข้างพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ขายพวกน้ำหอม เครื่องสำอาง สินค้ายี่ห้อดังๆ วันหนึ่งก็มีโทรศัพท์มาจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารี แจ้งว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กำลังจะเสด็จที่ร้าน ขอให้ผมเตรียมถวายการต้อนรับ ผมก็บอกเรื่องนี้ให้ฝรั่งเจ้าของร้านทราบ และเราก็เตรียมถวายการต้อนรับพระองค์ท่าน คนไทยหลายคนที่ทำงานอยู่ด้วยกัน รวมทั้งตัวผมด้วย ต่างก็รอคอยที่จะได้ชื่นชมพระบารมี โดยเฉพาะผมต้องปรึกษาผู้ใหญ่หลายท่านถึงราชาศัพท์ที่จะต้องกราบทูลเมื่อเข้าเฝ้า ยอมรับว่า แม้จะเป็นเพียง 2-3 ประโยคเท่านั้น แต่ผมทั้งท่องทั้งซ้อมใหญ่เหมือนจริงเป็นชั่วโมงทีเดียว ครั้นพระองค์ท่านเสด็จมาถึง ด้วยพระบารมีของพระองค์ บวกกับความประหม่าของผม มัวแต่ยืนอึกๆอักๆ นึกคำพูดไม่ออก ได้แต่กราบทูลด้วยเสียงเบาๆแบบไม่ชัวร์ ซึ่งพระองค์ก็ยังตรัสภาษาฝรั่งเศสได้ด้วย ทำให้ฝรั่งเจ้าของร้านรับหน้าที่ไปแทน แย่งผมพูดหมดเลย นั่นคงเป็นความทรงจำครั้งเดียวในชีวิตที่ผมได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระองค์อย่างใกล้ชิด
ผมเชื่อว่า พสกนิกรชาวไทยอีกนับแสนนับล้านคนคงจะมีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระองค์อย่างใกล้ชิดอย่างผม เพราะสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนรานิวาสราชนครินทร์ ทรงมีความสนพระทัยในหลายด้าน และทรงเสด็จเป็นประธานในงานต่างๆที่ทรงให้การสนับสนุนมากมาย พระองค์ตามเสด็จสมเด็จย่าไปทรงตรวจเยี่ยมหน่วยแพทย์ในถิ่นทุรกันดานอยู่บ่อยมาก และทุกครั้งก็ทรงมีพระเมตตาและทรงเป็นกันเองกับประชาชนทุกหมู่เหล่าที่เข้าเฝ้า
ทางด้านกีฬานั้น พระองค์ทรงเล่นกีฬาหลายชนิดตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เช่น สเก็ต สกี จักรยาน เดินภูเขา ซึ่งแม้ว่าจะทรงเล่นแข่งสนุกสนานธรรมดาแบบเด็กๆทั่วไป แต่ก็ทรงมีระเบียบวินัยอย่างดีเยี่ยม นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงเล่นกีฬาอื่นๆอีกอย่างสม่ำเสมอ คือ การทรงม้า แบดมินตันและกอล์ฟ ซึ่งที่วังสระปทุมนั้นก็มีคอร์ทแบดมินตันอยู่ด้วย โดยมีหลักฐานปรากฏในหนังสืออนุสรณ์สมาชิกสโมสรการบินว่า ทรงพระเมตตาชวนครูฝึกบินและสมาชิกสโมสรการบินให้ไปเล่นแบดมินตัน และกอล์ฟเล็กที่ วังสระปทุม กอล์ฟเล็กที่ว่านี้ เป็นแบบ 9 หลุมซึ่งพระองค์เคยทรงเล่นกับสมเด็จพระบรมราชชนนีอยู่เสมอ
สำหรับกีฬาที่ทรงโปรดปรานเป็นพิเศษก็คือ เปตอง เมื่อสมเด็จพระบรมราชชนนี ทรงนำกีฬานี้เข้ามาในประเทศไทยจนเป็นที่แพร่หลายอย่างกว้างขวาง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงสนพระหฤทัย และทรงเล่นเปตองร่วมกับสมเด็จพระบรมราชชนนีอยู่เสมอ ร.ต.ปรารภ ทองประเทศ เลขาธิการสมาคมเปตอง ท่านนี้เคยบรรยายร่วมกับผมเมื่อตอนมีการแข่งขันเปตองชิงแชมป์โลกที่ พัทยา แกเล่าให้ฟังว่า นับตั้งแต่ที่สมเด็จย่าทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์สมาคมเปตองเมื่อปี 2527 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ก็สนพระทัยในกีฬาเปตองมาโดยตลอด การตามเสด็จสมเด็จย่าไปทรงงานโครงการมูลนิธิแพทย์อาสา สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. ตามท้องถิ่นธุรกันดารทั่วประเทศ หลังจากทรงงานเสร็จ สมเด็จย่ามักจะทรงเปตองเป็นการพักผ่อน ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จะร่วมด้วยเสมอ จากนั้นในปี 1992 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เสด็จไปทอดพระเนตรการแข่งขันเปตองชิงแชมป์โลก ที่เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตามคำทูลเชิญของ พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ นายกสมาคมเปตอง เพื่อทรงเป็นกำลังใจแก่นักกีฬาไทยที่เข้าร่วมแข่งขัน โดยในปีนั้นนักเปตองไทยสามารถคว้ารองแชมป์โลก ประเภททีมหญิง มาได้ด้วย
ในปี 1995 หลังจากสมเด็จย่าเสด็จสวรรคต สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงริเริ่มให้สมาคมเปตองจัดตั้ง " กองทุนสมเด็จย่าเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง " นำเงินรายได้และดอกเบี้ยมาใช้ในการบริหารงานต่างๆ โดยพระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ของสมเด็จย่าเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1.8 ล้านบาท และในปี 1999 ทรงรับเป็นองค์ที่ปรึกษาของสมาคมฯ ซึ่งสมาคมฯก็ทำรายงานกราบทูลการดำเนินกิจกรรมต่างๆ รวมถึงผลการแข่งขันที่ส่งนักกีฬาไปแข่งขันรายการต่างๆมาโดยตลอด รายงานชิ้นสุดท้ายที่สมาคมฯทำกราบทูลก็คือ การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเปตองชิงแชมป์โลก ที่เมืองพัทยา ทำเสนอไปเมื่อเดือนกันยายน ซึ่งขณะนั้นพระองค์ทรงพระประชวร จึงไม่ได้เสด็จมาทอดพระเนตรการแข่งขัน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มีต่อสมาคมเปตอง ถือเป็นคุณูปการอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ และทำให้สมาคมเปตองมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง มีความเจริญก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้ พระองค์ได้ทรงให้การสนับสนุนพระราชทานเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาเปตองทุกปี ปีละ 1 ล้านบาท เมื่อทางสมาคมฯต้องส่งนักกีฬาไปแข่งขันในต่างประเทศ พระองค์ก็ทรงช่วยเหลือทุกครั้งไป จนนักกีฬาของไทยได้ตำแหน่งกลับมา สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ นับเป็นพระกรุณาธิคุณยิ่งต่อวงการกีฬา
เมื่อปี 1985 ตอนนั้น ผมยังใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงปารี ประเทศฝรั่งเศส โดยทำงานเป็นผู้จัดการอยู่ในร้านสินค้าปลอดภาษีซึ่งตั้งอยู่ข้างพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ขายพวกน้ำหอม เครื่องสำอาง สินค้ายี่ห้อดังๆ วันหนึ่งก็มีโทรศัพท์มาจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารี แจ้งว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กำลังจะเสด็จที่ร้าน ขอให้ผมเตรียมถวายการต้อนรับ ผมก็บอกเรื่องนี้ให้ฝรั่งเจ้าของร้านทราบ และเราก็เตรียมถวายการต้อนรับพระองค์ท่าน คนไทยหลายคนที่ทำงานอยู่ด้วยกัน รวมทั้งตัวผมด้วย ต่างก็รอคอยที่จะได้ชื่นชมพระบารมี โดยเฉพาะผมต้องปรึกษาผู้ใหญ่หลายท่านถึงราชาศัพท์ที่จะต้องกราบทูลเมื่อเข้าเฝ้า ยอมรับว่า แม้จะเป็นเพียง 2-3 ประโยคเท่านั้น แต่ผมทั้งท่องทั้งซ้อมใหญ่เหมือนจริงเป็นชั่วโมงทีเดียว ครั้นพระองค์ท่านเสด็จมาถึง ด้วยพระบารมีของพระองค์ บวกกับความประหม่าของผม มัวแต่ยืนอึกๆอักๆ นึกคำพูดไม่ออก ได้แต่กราบทูลด้วยเสียงเบาๆแบบไม่ชัวร์ ซึ่งพระองค์ก็ยังตรัสภาษาฝรั่งเศสได้ด้วย ทำให้ฝรั่งเจ้าของร้านรับหน้าที่ไปแทน แย่งผมพูดหมดเลย นั่นคงเป็นความทรงจำครั้งเดียวในชีวิตที่ผมได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระองค์อย่างใกล้ชิด
ผมเชื่อว่า พสกนิกรชาวไทยอีกนับแสนนับล้านคนคงจะมีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระองค์อย่างใกล้ชิดอย่างผม เพราะสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนรานิวาสราชนครินทร์ ทรงมีความสนพระทัยในหลายด้าน และทรงเสด็จเป็นประธานในงานต่างๆที่ทรงให้การสนับสนุนมากมาย พระองค์ตามเสด็จสมเด็จย่าไปทรงตรวจเยี่ยมหน่วยแพทย์ในถิ่นทุรกันดานอยู่บ่อยมาก และทุกครั้งก็ทรงมีพระเมตตาและทรงเป็นกันเองกับประชาชนทุกหมู่เหล่าที่เข้าเฝ้า
ทางด้านกีฬานั้น พระองค์ทรงเล่นกีฬาหลายชนิดตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เช่น สเก็ต สกี จักรยาน เดินภูเขา ซึ่งแม้ว่าจะทรงเล่นแข่งสนุกสนานธรรมดาแบบเด็กๆทั่วไป แต่ก็ทรงมีระเบียบวินัยอย่างดีเยี่ยม นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงเล่นกีฬาอื่นๆอีกอย่างสม่ำเสมอ คือ การทรงม้า แบดมินตันและกอล์ฟ ซึ่งที่วังสระปทุมนั้นก็มีคอร์ทแบดมินตันอยู่ด้วย โดยมีหลักฐานปรากฏในหนังสืออนุสรณ์สมาชิกสโมสรการบินว่า ทรงพระเมตตาชวนครูฝึกบินและสมาชิกสโมสรการบินให้ไปเล่นแบดมินตัน และกอล์ฟเล็กที่ วังสระปทุม กอล์ฟเล็กที่ว่านี้ เป็นแบบ 9 หลุมซึ่งพระองค์เคยทรงเล่นกับสมเด็จพระบรมราชชนนีอยู่เสมอ
สำหรับกีฬาที่ทรงโปรดปรานเป็นพิเศษก็คือ เปตอง เมื่อสมเด็จพระบรมราชชนนี ทรงนำกีฬานี้เข้ามาในประเทศไทยจนเป็นที่แพร่หลายอย่างกว้างขวาง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงสนพระหฤทัย และทรงเล่นเปตองร่วมกับสมเด็จพระบรมราชชนนีอยู่เสมอ ร.ต.ปรารภ ทองประเทศ เลขาธิการสมาคมเปตอง ท่านนี้เคยบรรยายร่วมกับผมเมื่อตอนมีการแข่งขันเปตองชิงแชมป์โลกที่ พัทยา แกเล่าให้ฟังว่า นับตั้งแต่ที่สมเด็จย่าทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์สมาคมเปตองเมื่อปี 2527 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ก็สนพระทัยในกีฬาเปตองมาโดยตลอด การตามเสด็จสมเด็จย่าไปทรงงานโครงการมูลนิธิแพทย์อาสา สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. ตามท้องถิ่นธุรกันดารทั่วประเทศ หลังจากทรงงานเสร็จ สมเด็จย่ามักจะทรงเปตองเป็นการพักผ่อน ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จะร่วมด้วยเสมอ จากนั้นในปี 1992 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เสด็จไปทอดพระเนตรการแข่งขันเปตองชิงแชมป์โลก ที่เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตามคำทูลเชิญของ พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ นายกสมาคมเปตอง เพื่อทรงเป็นกำลังใจแก่นักกีฬาไทยที่เข้าร่วมแข่งขัน โดยในปีนั้นนักเปตองไทยสามารถคว้ารองแชมป์โลก ประเภททีมหญิง มาได้ด้วย
ในปี 1995 หลังจากสมเด็จย่าเสด็จสวรรคต สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงริเริ่มให้สมาคมเปตองจัดตั้ง " กองทุนสมเด็จย่าเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง " นำเงินรายได้และดอกเบี้ยมาใช้ในการบริหารงานต่างๆ โดยพระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ของสมเด็จย่าเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1.8 ล้านบาท และในปี 1999 ทรงรับเป็นองค์ที่ปรึกษาของสมาคมฯ ซึ่งสมาคมฯก็ทำรายงานกราบทูลการดำเนินกิจกรรมต่างๆ รวมถึงผลการแข่งขันที่ส่งนักกีฬาไปแข่งขันรายการต่างๆมาโดยตลอด รายงานชิ้นสุดท้ายที่สมาคมฯทำกราบทูลก็คือ การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเปตองชิงแชมป์โลก ที่เมืองพัทยา ทำเสนอไปเมื่อเดือนกันยายน ซึ่งขณะนั้นพระองค์ทรงพระประชวร จึงไม่ได้เสด็จมาทอดพระเนตรการแข่งขัน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มีต่อสมาคมเปตอง ถือเป็นคุณูปการอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ และทำให้สมาคมเปตองมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง มีความเจริญก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้ พระองค์ได้ทรงให้การสนับสนุนพระราชทานเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาเปตองทุกปี ปีละ 1 ล้านบาท เมื่อทางสมาคมฯต้องส่งนักกีฬาไปแข่งขันในต่างประเทศ พระองค์ก็ทรงช่วยเหลือทุกครั้งไป จนนักกีฬาของไทยได้ตำแหน่งกลับมา สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ นับเป็นพระกรุณาธิคุณยิ่งต่อวงการกีฬา
