แก๊งตีนแมวอาละวาดหนักรับปีหนู บุกงัดเซฟบ้านนักธุรกิจชื่อดัง หมู่บ้านเดียวกับอดีตนางเอกดัง “สุพรรษา เนื่องภิรมย์” ที่เพิ่งถูกยกเค้า กวาดทรัพย์สินสูญ 21 ล้านบาท เจ้าทรัพย์เผยพาคนในบ้านไปเที่ยวเชียงใหม่ กลับมาพบบ้านถูกงัด ด้านตำรวจชี้คนร้ายน่าจะเป็นช่างที่เคยเข้าออกบ้าน ระบุ 1 เดือนที่แล้ว มีช่างแอร์ และช่างซ่อมลู่วิ่งไฟฟ้าเข้ามาซ่อมอุปกรณ์ในบ้าน
วันนี้ (2 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.คชานนท์ อู่ตะเภา ร้อยเวร สน.บางชัน รับแจ้งจาก นายชนะชัย นิลเจียรสกุล อายุ 55 ปี ผู้บริหารของบริษัท ซีแอลเอ อินเตอร์เทรด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าและส่งออกอาหารสัตว์รายใหญ่ของประเทศไทย ว่า ถูกกลุ่มคนร้ายบุกเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในตู้เซฟของบ้านเลขที่ 59/126 ซอย 8 หมู่บ้านโฮมเพลส ถนนรามคำแหง แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิวัฒน์ ศิริสุนทร ผกก.สน.บางชัน พ.ต.อ.สรรักษ์ จูสนิท ผกก.กก.สืบสวน บก.น.4 พ.ต.ท.สุรเดช พจนาวงษ์พานิช สว.สส.สน.บางชัน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนสูง 2 ชั้น ปลูกบนเนื้อที่ประมาณ 240 ตารางวา ภายในห้องนอนชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องนอนเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่พบตู้เซฟขนาดความสูง 120 เซนติเมตร กว้าง 60 เซนติเมตร มีร่องรอยถูกตัดด้วยเครื่องเจียรบริเวณบานพับ นอกจากนี้ ยังพบร่องรอยถูกงัดบริเวณประตูตู้เซฟ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายไม่ได้นำทรัพย์สินอื่นๆ ที่อยู่ภายในบ้านไปด้วยแต่อย่างใด
จากการสอบสวน นายชนะชัย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนและนางจันทร์สุดา นิลเจียรสกุล อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นภรรยา ได้พาคนรับใช้ กับคนขับรถไปเที่ยวที่ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบว่า ตู้เซฟที่อยู่ภายในห้องนอนของตนถูกคนร้ายงัดเอาทรัพย์สินไปแล้ว สำหรับทรัพย์สินที่สูญหาย ประกอบด้วย เงินสดจำนวน 4 ล้านบาท เงินสกุลต่างประเทศ อีกประมาณ 2 ล้านบาท ทองแท่งจำนวน 2 แท่ง น้ำหนัก 2 กิโลกรัม เครื่องเพชร ทองรูปพรรณ และเครื่องประดับ อีกหลายรายการ มูลค่าทรัพย์สินที่สูญหายไปประมาณ 21 ล้านบาท
นายชนะชัย ให้การต่อว่า ครั้งนี้ยังถือว่าโชคยังดีที่คนร้ายนำทรัพย์สินในตู้เซฟไปไม่หมด โดยยังเหลือทองแท่ง เหรียญกษาปณ์ และเหรียญทองอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งหากคนร้ายนำทรัพย์สินภายในตู้เซฟไปหมด ทรัพย์สินที่สูญหายในครั้งนี้ก็จะมีประมาณ 50 ล้านบาท
พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้เสียหายทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวมีผู้อยู่อาศัยทั้งหมด 4 คน แต่ขณะเกิดเหตุผู้ที่อาศัยภายในบ้านทั้งหมดได้เดินทางไปเที่ยวที่ จ.เชียงใหม่ ส่วนบุตรชายของนายชนะชัยก็เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนที่เคยเข้ามาภายในบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งอาจจะเป็นช่างที่เคยเข้ามาซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน ส่วนการก่อเหตุในครั้งนี้ตนคิดว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนละกลุ่มกับที่เข้าไปก่อเหตุขโมยทรัพย์สินภายในบ้านของคุณสุพรรษา เนื่องภิรมย์ อายุ 46 ปี ดาราชื่อดังเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากแผนประทุษกรรมและพฤติกรรมในการก่อเหตุต่างกัน
ด้าน พ.ต.ท.สุรเดช กล่าวว่า สำหรับการก่อเหตุในครั้งนี้ คนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 คน โดยคนร้ายได้เข้ามาผ่านทางประตูด้านข้างของตัวบ้าน เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบรอยงัดแงะบริเวณนั้น ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังหาข่าวในพื้นที่ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้เบาะแส ว่า เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ได้เรียกช่างแอร์ และช่างซ่อมลู่วิ่งไฟฟ้ามาซ่อมแซมอุปกรณ์ภายในบ้าน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังผู้บริหารของบริษัทแอร์ และบริษัทลู่วิ่งไฟฟ้าดังกล่าว เพื่อเรียกตัวพนักงานที่เข้าไปซ่อมอุปกรณ์มาสอบสวน แต่ตอนนี้ทางช่างแอร์และช่างซ่อมลู่วิ่งไฟฟ้ายังไม่เดินทางเข้ามาให้ปากคำ เนื่องจากยังไม่เดินทางกลับมาจากภูมิลำเนา หลังจากหยุดงานในช่วงเทศกาลปีใหม่
วันนี้ (2 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.คชานนท์ อู่ตะเภา ร้อยเวร สน.บางชัน รับแจ้งจาก นายชนะชัย นิลเจียรสกุล อายุ 55 ปี ผู้บริหารของบริษัท ซีแอลเอ อินเตอร์เทรด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าและส่งออกอาหารสัตว์รายใหญ่ของประเทศไทย ว่า ถูกกลุ่มคนร้ายบุกเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในตู้เซฟของบ้านเลขที่ 59/126 ซอย 8 หมู่บ้านโฮมเพลส ถนนรามคำแหง แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิวัฒน์ ศิริสุนทร ผกก.สน.บางชัน พ.ต.อ.สรรักษ์ จูสนิท ผกก.กก.สืบสวน บก.น.4 พ.ต.ท.สุรเดช พจนาวงษ์พานิช สว.สส.สน.บางชัน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนสูง 2 ชั้น ปลูกบนเนื้อที่ประมาณ 240 ตารางวา ภายในห้องนอนชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องนอนเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่พบตู้เซฟขนาดความสูง 120 เซนติเมตร กว้าง 60 เซนติเมตร มีร่องรอยถูกตัดด้วยเครื่องเจียรบริเวณบานพับ นอกจากนี้ ยังพบร่องรอยถูกงัดบริเวณประตูตู้เซฟ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายไม่ได้นำทรัพย์สินอื่นๆ ที่อยู่ภายในบ้านไปด้วยแต่อย่างใด
จากการสอบสวน นายชนะชัย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนและนางจันทร์สุดา นิลเจียรสกุล อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นภรรยา ได้พาคนรับใช้ กับคนขับรถไปเที่ยวที่ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบว่า ตู้เซฟที่อยู่ภายในห้องนอนของตนถูกคนร้ายงัดเอาทรัพย์สินไปแล้ว สำหรับทรัพย์สินที่สูญหาย ประกอบด้วย เงินสดจำนวน 4 ล้านบาท เงินสกุลต่างประเทศ อีกประมาณ 2 ล้านบาท ทองแท่งจำนวน 2 แท่ง น้ำหนัก 2 กิโลกรัม เครื่องเพชร ทองรูปพรรณ และเครื่องประดับ อีกหลายรายการ มูลค่าทรัพย์สินที่สูญหายไปประมาณ 21 ล้านบาท
นายชนะชัย ให้การต่อว่า ครั้งนี้ยังถือว่าโชคยังดีที่คนร้ายนำทรัพย์สินในตู้เซฟไปไม่หมด โดยยังเหลือทองแท่ง เหรียญกษาปณ์ และเหรียญทองอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งหากคนร้ายนำทรัพย์สินภายในตู้เซฟไปหมด ทรัพย์สินที่สูญหายในครั้งนี้ก็จะมีประมาณ 50 ล้านบาท
พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้เสียหายทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวมีผู้อยู่อาศัยทั้งหมด 4 คน แต่ขณะเกิดเหตุผู้ที่อาศัยภายในบ้านทั้งหมดได้เดินทางไปเที่ยวที่ จ.เชียงใหม่ ส่วนบุตรชายของนายชนะชัยก็เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนที่เคยเข้ามาภายในบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งอาจจะเป็นช่างที่เคยเข้ามาซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน ส่วนการก่อเหตุในครั้งนี้ตนคิดว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนละกลุ่มกับที่เข้าไปก่อเหตุขโมยทรัพย์สินภายในบ้านของคุณสุพรรษา เนื่องภิรมย์ อายุ 46 ปี ดาราชื่อดังเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากแผนประทุษกรรมและพฤติกรรมในการก่อเหตุต่างกัน
ด้าน พ.ต.ท.สุรเดช กล่าวว่า สำหรับการก่อเหตุในครั้งนี้ คนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 คน โดยคนร้ายได้เข้ามาผ่านทางประตูด้านข้างของตัวบ้าน เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบรอยงัดแงะบริเวณนั้น ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังหาข่าวในพื้นที่ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้เบาะแส ว่า เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ได้เรียกช่างแอร์ และช่างซ่อมลู่วิ่งไฟฟ้ามาซ่อมแซมอุปกรณ์ภายในบ้าน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังผู้บริหารของบริษัทแอร์ และบริษัทลู่วิ่งไฟฟ้าดังกล่าว เพื่อเรียกตัวพนักงานที่เข้าไปซ่อมอุปกรณ์มาสอบสวน แต่ตอนนี้ทางช่างแอร์และช่างซ่อมลู่วิ่งไฟฟ้ายังไม่เดินทางเข้ามาให้ปากคำ เนื่องจากยังไม่เดินทางกลับมาจากภูมิลำเนา หลังจากหยุดงานในช่วงเทศกาลปีใหม่
