สุวรรณภูมิ อินชอน ถึงวอชิงตัน ดี.ซี.

เช้าวันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2561

เครื่องบินแอร์บัส เอ380-800 เที่ยวบิน KE654 ของสายการบิน Korean Air พาผมมาแวะที่สนามบินนานาชาติอินชอน สนามบินที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดของเกาหลีใต้

สนามบินอินชอนมีอาคารผู้โดยสารหลัก ๆ สองหลัง หลังแรก (Terminal 1) มีบอร์ดดิงเกต หรือ ประตูทางขึ้นเครื่องบิน 44 ประตู บวกกับอีก 30 ประตูในส่วนขยาย คอนคอร์ส เอ (Concourse) , และ อีก 37 ประตู ในอาคารผู้โดยสารหลังที่สอง (Terminal 2) รวม ๆ แล้วสนามบินอินชอนมีบอร์ดดิงเกตมากถึง 111 ประตู ยิ่งไปกว่านั้นคือ ความทันสมัย และความสะดวกสบายของผู้โดยสารลงเครื่อง ขึ้นเครื่อง เปลี่ยนเครื่อง ที่ต้องถือว่ายอดเยี่ยมสูสีกับสนามบินนานาชาติชางงีของสิงคโปร์เลยทีเดียว

ในปี 2561 (ค.ศ.2018) สกายแทร็กซ์ บริษัทให้คำปรึกษาทางธุรกิจเกี่ยวกับการบิน ได้จัดอันดับสนามบินอินชอน ให้เป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกอันดับที่ 2 รองจากสนามบินชางงี และได้รับรางวัลเจ้าหน้าที่สนามบิน (World’s Best Airport Staff) ยอดเยี่ยมอันดับที่ 1 เรียกได้ว่าทั้ง ฮาร์ดแวร์ และ ซอฟท์แวร์เพียบพร้อมสุด ๆ

หลังจากผ่านด่านต่อเครื่องบิน (Transfer Gate) ผมกับเพื่อน ๆ นักข่าวชาวไทย อีก 7 ชีวิต ก็เดินชมเทอร์มินอล 2 ของ สนามบินอินชอนเพลิน ๆ จนมาถึง ทางออกขึ้นเครื่องหมายเลข 258 เพื่อจะจับเที่ยวบินที่ KE093 เดินทางต่อไปยัง วอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของประเทศสหรัฐอเมริกา

เมื่อมองเวลาบนนาฬิกาบนข้อมือ ระบุว่าเป็นช่วงเช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ 1 แต่เที่ยวบิน KE093 กำลังจะพาเราข้ามย้อนเวลาไทม์โซน ผ่านทะเลญี่ปุ่น ตัดเกาะฮอนชูแผ่นดินญี่ปุ่น บินข้ามทะเลเบริง (Bering Sea) ตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก บินเข้าอลาสก้า ผ่านดินแดนของประเทศแคนาดา และมุ่งตรงไปยัง กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทางซีกตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา

เมื่อมองเวลาบนนาฬิกาบนข้อมือ ระบุว่าเป็นช่วงเช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ 1 แต่เที่ยวบิน KE093 กำลังจะพาเราข้ามย้อนเวลาไทม์โซน ผ่านทะเลญี่ปุ่น ตัดเกาะฮอนชูแผ่นดินญี่ปุ่น บินข้ามทะเลเบริง (Bering Sea) ตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก บินเข้าอลาสก้า ผ่านดินแดนของประเทศแคนาดา และมุ่งตรงไปยัง กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทางซีกตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา

ณ เวลาที่กำลังจะขึ้นเครื่อง อุณหภูมิภายนอกสนามบินอินชอนถูกระบุไว้ว่า 6 องศาเซลเซียส ส่วนที่วอชิงตัน ดี.ซี. นั้นก็คาดว่าจะอยู่ราว ๆ เดียวกัน

ในห้วงเวลาเดือนสุดท้ายของปี กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เชื้อเชิญให้นักข่าวชาวไทย 8 ชีวิต ให้เดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาตามโปรแกรม International Visitor Leadership Program (IVLP) ในหัวข้อ การบริหารข้อเท็จจริงในยุคสื่อดิจิทัล --- โครงการสำหรับประเทศไทย (MANAGING FACTS IN THE AGE OF DIGITAL MEDIA—A PROJECT FOR THAILAND) ซึ่งจะกินระยะเวลาทั้งหมดสิบกว่าวัน โดยนอกจากวอชิงตัน ดี.ซีแล้ว เราจะต้องเดินทางไปยัง เมืองคลีฟแลนด์ มลรัฐโอไฮโอ และซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เดินทางไปเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งโลกดิจิทัลของโลกทั้งสองแห่ง ...... กูเกิล (Google) และ เฟซบุ๊ก (Facebook)

โครงการ IVLP กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2483 (ค.ศ.1940) หรือกว่า 78 ปี แล้ว โดยโครงการเช่นนี้ถูกออกแบบ และดำเนินการภายใต้ความมุ่งหวังในการสร้างความเข้าใจ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างสหรัฐฯ กับบุคลากรมืออาชีพในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยในทุก ๆ ปี ทางรัฐบาลสหรัฐฯ จะเชิญชาวต่างชาติราว 4,500 คน ในหลากหลายสาขาอาชีพทั้งในภาครัฐ ภาคการเมือง สื่อมวลชน ภาคการศึกษา เอ็นจีโอ ศิลปิน ภาคสาธารณสุข ภาคธุรกิจการค้า ฯลฯ จากทั่วโลกเพื่อไปเยี่ยม ไปเยือน ไปพบปะแลกเปลี่ยน กับชาวอเมริกันที่ทำงานในสาขาอาชีพเดียวกัน หรือทำงานเกี่ยวข้องกัน

สำหรับหัวข้อ “การบริหารข้อเท็จจริงในยุคสื่อดิจิทัล --- โครงการสำหรับประเทศไทย” นั้นถือว่าเป็นหัวข้อที่ร้อนแรงและถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา จากการอุบัติขึ้นและความแพร่หลายของสื่อสังคม (Social Media) โดยประเด็นนี้ยิ่งกลายเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้น ในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อสองปีก่อน ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งเหนือนางฮิลลลารี คลินตัน จนทำให้คำว่า ข่าวปลอม (Fake News) กลายเป็นที่กล่าวขวัญถึง และถูกยกเป็นกรณีศึกษา เป็นปัญหาที่อาจถึงขั้นเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของปัxจเจกบุคคล ความรู้สึกนึกคิด-ความเชื่อของคนในสังคม รวมไปถึงอาจมีส่วนในการชี้ขาดอนาคตของประเทศนั้น ๆ ได้เลยทีเดียว

คลิกอ่านประกอบ
>> ชัยชนะของ “โดนัลด์ ทรัมป์” และอนาคตของ “ข่าวปลอม” ที่กำลังไล่ล่าคุณ (ตอนที่ 1) <<
>> Facebook ข่าวปลอม และจุดจบของสื่อมืออาชีพ (ตอนที่ 2) <<
>> เมื่อข่าวปลอม ๆ ฆ่าคนจริง ๆ <<

สิบกว่าวันในอเมริกาสำหรับการเดินทางครั้งนี้คงมีเรื่องสนุก ๆ อีกเยอะให้พบเจอ ซึ่งผมจะทยอยนำมาบอกเล่าให้ฟังผ่านพื้นที่ตรงนี้นะครับ ^_^