ข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 สร้างความเศร้าสลดต่อพสกนิกร ในฐานะประชาชน กระผมขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสด็จพระองค์สู่สวรรคาลัย และขอถวายบังคมพระบรมศพด้วยความโศกเศร้าร่วมกับคนไทยทั้งประเทศ
เมื่อครั้งเสด็จออกสีหบัญชร ระเบียงหน้า พระที่นั่งอนันตสมาคม ในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2549 และเสด็จออกสีหบัญชรในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ทุกคนยังจำภาพประชาชนรอรับเสด็จเต็มลานหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม แน่นขนัดไปถึงถนนราชดำเนิน เป็นภาพที่ยากจะพบเห็นที่ใดในโลก
และแล้วอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ภาพประชาชนจำนวนมาก แต่งชุดดำร่ำไห้ รอคอยส่งเสด็จพระบรมศพ แน่นขนัดจากโรงพยาบาลศิริราช สะพานพระปิ่นเกล้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา มายังถนนหน้าสนามหลวง ไปจนถึงพระบรมมหาราชวังเนืองแน่นไปด้วยประชาชนสวมชุดดำพรืดไปหมด
ผู้คนที่มาคอยถวายสักการะพระบรมศพมีทุกวัยทุกเพศทุกอาชีพทุกชั้นวรรณะ ทั้งผู้เฒ่าผู้แก่คนสูงวัย คนหนุ่มสาว และเด็ก น่าสนใจว่าเป็นคนหลายรุ่น หลายเจนเนอเรชั่น ไม่ใช่เฉพาะคนเฒ่าคนแก่เท่านั้น
คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีอายุ 70 ปีลงมา ล้วนเกิดในยุคสมัยรัชกาลที่ 9 นับจากคนรุ่นพ่อแม่ผมลงมาก็เกิดในรัชกาลที่ 9 รัชสมัยการครองแผ่นดิน ยาวนานที่สุดถึง 70 ปี (พ.ศ. 2489 - 2559)
ผมว่านี่เป็นภาพของพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในโลกปัจจุบัน ที่ประชาชนจำนวนมากมหาศาลจากทุกสารทิศ ทั้งในเมืองหลวงต่างจังหวัดและชนบทที่ห่างไกล พากันมาแสดงความจงรักภักดี
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นลอยๆ แต่เกิดขึ้นได้จากเหตุผลความเป็นจริงจากพระราชกรณียกิจและการทรงงานหนักตลอดมานับแต่ทรงครองราชสมบัติ คงไม่มีพระมหากษัตริย์พระองค์ใดที่ทรงเข้าถึงความทุกข์ยากของประชาชน ด้วยการเสด็จไปในพื้นที่ทอดพระเนตร ทรงซักถามชีวิตความเป็นอยู่และช่วยเหลือแก้ปัญหาให้ประชาชนทั่วประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนยากคนจนในถิ่นทุรกันดาร
หลักฐานจำนวนมากจากภาพยนตร์ ข่าวพระราชกรณียกิจ ข้าราชการที่ตามเสด็จ และจากคำบอกเล่าของประชาชนที่พบเห็นอยู่ในเหตุการณ์จำนวนมาก เล่าถึงการเสด็จพระราชดำเนินโดยรถพระที่นั่งลุยน้ำลุยโคลนรถติดหล่ม เด็กๆ ชาวบ้านมาช่วยเข็น โดยไม่รู้ว่าพระองค์ท่านเป็นใคร หรือการเสด็จขึ้นเขาลงห้วยไปในหมู่บ้านและภูดอย ทรงประทับนั่งที่พื้นเสมอกับชาวบ้านอย่างไม่ถือพระองค์ ทรงขอน้ำดื่มจากถังของคุณยายชาวบ้าน ทรงเสวยอาหารน้ำและเหล้าที่ชาวบ้านถวายด้วยภาชนะที่ชาวบ้านใช้อย่างไม่ทรงรังเกียจ ทรงประคองจับมือซักถามชาวบ้านอย่างอ่อนโยน ฯลฯ ภาพเหล่านี้เป็นหลักฐานประจักษ์ชัด
ที่น่าสนใจมากคือการเสด็จประพาสต้น เป็นการเสด็จโดยไม่มีหมายกำหนดการอย่างเป็นทางการ พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินพร้อมแผนที่กล้องถ่ายรูป ไปถึงท้องไร่ปลายนาและบ้านช่องของประชาชน โดยที่พวกเขาไม่รู้ว่าพระองค์ท่านคือพระเจ้าอยู่หัว พระองค์จึงได้ทอดพระเนตรชีวิตชาวบ้านตามความเป็นจริง ไม่ใช่การจัดเตรียมสร้างภาพฉาบหน้าหรือโรยผักชี แบบที่ข้าราชการส่วนใหญ่มักทำกัน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเมตตาประชาชนของพระองค์ เสด็จเข้าไปดูการใช้ชีวิตในบ้านว่าพวกเขากินอยู่อย่างไร ทรงซักถามการทำมาหากิน พระราชทานพันธุ์พืชพันธุ์สัตว์ แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำการบำรุงดินในการทำการเกษตร พัฒนาเป็นโครงการในพระราชดำริ และทรงกระทำเช่นนี้มายาวนานหลายสิบปี
พระบรมราโชวาทเนื่องในวโรกาสต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นคำสอนที่สามารถน้อมนำมาปฏิบัติในการใช้ชีวิต ความเมตตา ความซื่อสัตย์สุจริต ความอดทน หมั่นเพียร ประหยัด เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ฯลฯ ล้วนเป็นคุณธรรมนำชีวิต ที่น้อมนำมาใช้เพื่อความสุขของชีวิตส่วนตัวและสังคมได้ เปลี่ยนความเศร้าโศกในเวลานี้ เป็นการทำความดีเพื่อถวายสักการะพระองค์ท่านหรือทำความดีเพื่อในหลวงได้มากมายหลายรูปแบบ ทำได้ไม่ยาก ยามที่เสื้อดำขาดแคลนจึงควรแบ่งปัน ไม่ใช่ฉวยโอกาสขูดรีดขายราคาแพงหูฉี่ เห็นคนยากคนจนไม่มีเสื้อดำใส่ ก็ควรเมตตาเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือ ไม่ใช่ประนาม
ในยุคเศรษฐกิจทุนนิยม โลกถูกครอบงำด้วยเศรรษฐกิจเงินตรา วัตถุสินค้า บริโภคนิยมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการเกษตรทฤษฎีใหม่ ที่พระองค์ท่านสอนคนไทย ให้เลี้ยงตัวเองได้พออยู่พอกิน รักษาสิ่งแวดล้อม น้ำ ป่า ดินอย่างยั่งยืน ได้สร้างชีวิตอยู่ดีมีสุขแก่คนจำนวนมาก ได้แก้ปัญหาการทำลายสิ่งแวดล้อม และรับมือกับภัยน้ำท่วมฝนอย่างได้ผล ล้วนเป็นคุณใหญ่หลวงต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย
ไม่เพียงแต่มีพระบรมราโชวาท มีกระแสพระราชดำริ พระองค์ท่านทรงปฏิบัติเป็นแบบอย่าง นับแต่เรื่องง่ายๆ ใกล้ตัว ตัวอย่างหลอดยาสีฟันที่ใช้จนหมด ฉลองพระบาทเก่าที่โปรดให้ช่างซ่อม ทรงใช้อย่างคุ้มค่ายิ่งกว่าคนสามัญทั่วไป
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชยังทรงเป็นแบบอย่างที่ดีของประชาชนในเรื่องของความกตัญญู ทรงรักและดูแลสมเด็จพระราชชนดีเป็นอย่างดีตลอดพระชนม์ชีพ ภาพที่ชินตาประชาชนคือภาพที่ท่านทรงสวมกอดและประคองสมเด็จย่าเดิน
ในช่วงนี้ มีพระราชกรณียกิจมากมาย มีภาพถ่าย คลิปวิดิโอ ภาพยนตร์ บทสัมภาษณ์ บทความหนังสือ ฯลฯ ที่หาดูยาก หรือไม่เคยเห็นมาก่อนเผยแพร่ในเว็บไซต์ ไม่เฉพาะพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เวลานี้ข้อมูลเอกสารประเภทต่างๆทางประวัติศาสตร์จำนวนมากย้อนประวัติศาสตร์ไปถึงพระราชประวัติ ประวัติศาสตร์ในช่วงสำคัญๆในทุกรัชกาลของราชวงศ์จักรี ประวัติศาสตร์ในยุครัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 7 กับการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เป็นต้น
ผมว่าเป็นเงื่อนไขโอกาสอันดีที่คนไทยจะได้ศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาปิดภาคเรียนเช่นนี้ น้องๆ นักเรียนนักศึกษา วัยรุ่นคนรุ่นใหม่ที่อาจไม่เคยทราบมาก่อน จะได้ความรู้มากมาย ในโลกโซเชียลมีเดีย สามารถหาอ่านได้สะดวกสบายรวดเร็ว
แต่ก็ต้องศึกษาอย่างพินิจพิเคราะห์ มีข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง แอบอ้าง เอามาโพสต์กันต่อ ต้องตรวจสอบที่มา ต้องวิเคราะห์เหตุผลหลักฐานความน่าเชื่อถือ ต้องจำแนกแยกแยะจริงเท็จ ฯลฯ ผมว่าเป็นโอกาสดีสำหรับคนไทยในการศึกษาและฝึกการคิดวิเคราะห์ รู้เท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อข้อมูลข่าวสารขยะและยาพิษ
เมื่อครั้งเสด็จออกสีหบัญชร ระเบียงหน้า พระที่นั่งอนันตสมาคม ในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2549 และเสด็จออกสีหบัญชรในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ทุกคนยังจำภาพประชาชนรอรับเสด็จเต็มลานหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม แน่นขนัดไปถึงถนนราชดำเนิน เป็นภาพที่ยากจะพบเห็นที่ใดในโลก
และแล้วอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ภาพประชาชนจำนวนมาก แต่งชุดดำร่ำไห้ รอคอยส่งเสด็จพระบรมศพ แน่นขนัดจากโรงพยาบาลศิริราช สะพานพระปิ่นเกล้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา มายังถนนหน้าสนามหลวง ไปจนถึงพระบรมมหาราชวังเนืองแน่นไปด้วยประชาชนสวมชุดดำพรืดไปหมด
ผู้คนที่มาคอยถวายสักการะพระบรมศพมีทุกวัยทุกเพศทุกอาชีพทุกชั้นวรรณะ ทั้งผู้เฒ่าผู้แก่คนสูงวัย คนหนุ่มสาว และเด็ก น่าสนใจว่าเป็นคนหลายรุ่น หลายเจนเนอเรชั่น ไม่ใช่เฉพาะคนเฒ่าคนแก่เท่านั้น
คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีอายุ 70 ปีลงมา ล้วนเกิดในยุคสมัยรัชกาลที่ 9 นับจากคนรุ่นพ่อแม่ผมลงมาก็เกิดในรัชกาลที่ 9 รัชสมัยการครองแผ่นดิน ยาวนานที่สุดถึง 70 ปี (พ.ศ. 2489 - 2559)
ผมว่านี่เป็นภาพของพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในโลกปัจจุบัน ที่ประชาชนจำนวนมากมหาศาลจากทุกสารทิศ ทั้งในเมืองหลวงต่างจังหวัดและชนบทที่ห่างไกล พากันมาแสดงความจงรักภักดี
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นลอยๆ แต่เกิดขึ้นได้จากเหตุผลความเป็นจริงจากพระราชกรณียกิจและการทรงงานหนักตลอดมานับแต่ทรงครองราชสมบัติ คงไม่มีพระมหากษัตริย์พระองค์ใดที่ทรงเข้าถึงความทุกข์ยากของประชาชน ด้วยการเสด็จไปในพื้นที่ทอดพระเนตร ทรงซักถามชีวิตความเป็นอยู่และช่วยเหลือแก้ปัญหาให้ประชาชนทั่วประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนยากคนจนในถิ่นทุรกันดาร
หลักฐานจำนวนมากจากภาพยนตร์ ข่าวพระราชกรณียกิจ ข้าราชการที่ตามเสด็จ และจากคำบอกเล่าของประชาชนที่พบเห็นอยู่ในเหตุการณ์จำนวนมาก เล่าถึงการเสด็จพระราชดำเนินโดยรถพระที่นั่งลุยน้ำลุยโคลนรถติดหล่ม เด็กๆ ชาวบ้านมาช่วยเข็น โดยไม่รู้ว่าพระองค์ท่านเป็นใคร หรือการเสด็จขึ้นเขาลงห้วยไปในหมู่บ้านและภูดอย ทรงประทับนั่งที่พื้นเสมอกับชาวบ้านอย่างไม่ถือพระองค์ ทรงขอน้ำดื่มจากถังของคุณยายชาวบ้าน ทรงเสวยอาหารน้ำและเหล้าที่ชาวบ้านถวายด้วยภาชนะที่ชาวบ้านใช้อย่างไม่ทรงรังเกียจ ทรงประคองจับมือซักถามชาวบ้านอย่างอ่อนโยน ฯลฯ ภาพเหล่านี้เป็นหลักฐานประจักษ์ชัด
ที่น่าสนใจมากคือการเสด็จประพาสต้น เป็นการเสด็จโดยไม่มีหมายกำหนดการอย่างเป็นทางการ พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินพร้อมแผนที่กล้องถ่ายรูป ไปถึงท้องไร่ปลายนาและบ้านช่องของประชาชน โดยที่พวกเขาไม่รู้ว่าพระองค์ท่านคือพระเจ้าอยู่หัว พระองค์จึงได้ทอดพระเนตรชีวิตชาวบ้านตามความเป็นจริง ไม่ใช่การจัดเตรียมสร้างภาพฉาบหน้าหรือโรยผักชี แบบที่ข้าราชการส่วนใหญ่มักทำกัน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเมตตาประชาชนของพระองค์ เสด็จเข้าไปดูการใช้ชีวิตในบ้านว่าพวกเขากินอยู่อย่างไร ทรงซักถามการทำมาหากิน พระราชทานพันธุ์พืชพันธุ์สัตว์ แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำการบำรุงดินในการทำการเกษตร พัฒนาเป็นโครงการในพระราชดำริ และทรงกระทำเช่นนี้มายาวนานหลายสิบปี
พระบรมราโชวาทเนื่องในวโรกาสต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นคำสอนที่สามารถน้อมนำมาปฏิบัติในการใช้ชีวิต ความเมตตา ความซื่อสัตย์สุจริต ความอดทน หมั่นเพียร ประหยัด เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ฯลฯ ล้วนเป็นคุณธรรมนำชีวิต ที่น้อมนำมาใช้เพื่อความสุขของชีวิตส่วนตัวและสังคมได้ เปลี่ยนความเศร้าโศกในเวลานี้ เป็นการทำความดีเพื่อถวายสักการะพระองค์ท่านหรือทำความดีเพื่อในหลวงได้มากมายหลายรูปแบบ ทำได้ไม่ยาก ยามที่เสื้อดำขาดแคลนจึงควรแบ่งปัน ไม่ใช่ฉวยโอกาสขูดรีดขายราคาแพงหูฉี่ เห็นคนยากคนจนไม่มีเสื้อดำใส่ ก็ควรเมตตาเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือ ไม่ใช่ประนาม
ในยุคเศรษฐกิจทุนนิยม โลกถูกครอบงำด้วยเศรรษฐกิจเงินตรา วัตถุสินค้า บริโภคนิยมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการเกษตรทฤษฎีใหม่ ที่พระองค์ท่านสอนคนไทย ให้เลี้ยงตัวเองได้พออยู่พอกิน รักษาสิ่งแวดล้อม น้ำ ป่า ดินอย่างยั่งยืน ได้สร้างชีวิตอยู่ดีมีสุขแก่คนจำนวนมาก ได้แก้ปัญหาการทำลายสิ่งแวดล้อม และรับมือกับภัยน้ำท่วมฝนอย่างได้ผล ล้วนเป็นคุณใหญ่หลวงต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย
ไม่เพียงแต่มีพระบรมราโชวาท มีกระแสพระราชดำริ พระองค์ท่านทรงปฏิบัติเป็นแบบอย่าง นับแต่เรื่องง่ายๆ ใกล้ตัว ตัวอย่างหลอดยาสีฟันที่ใช้จนหมด ฉลองพระบาทเก่าที่โปรดให้ช่างซ่อม ทรงใช้อย่างคุ้มค่ายิ่งกว่าคนสามัญทั่วไป
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชยังทรงเป็นแบบอย่างที่ดีของประชาชนในเรื่องของความกตัญญู ทรงรักและดูแลสมเด็จพระราชชนดีเป็นอย่างดีตลอดพระชนม์ชีพ ภาพที่ชินตาประชาชนคือภาพที่ท่านทรงสวมกอดและประคองสมเด็จย่าเดิน
ในช่วงนี้ มีพระราชกรณียกิจมากมาย มีภาพถ่าย คลิปวิดิโอ ภาพยนตร์ บทสัมภาษณ์ บทความหนังสือ ฯลฯ ที่หาดูยาก หรือไม่เคยเห็นมาก่อนเผยแพร่ในเว็บไซต์ ไม่เฉพาะพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เวลานี้ข้อมูลเอกสารประเภทต่างๆทางประวัติศาสตร์จำนวนมากย้อนประวัติศาสตร์ไปถึงพระราชประวัติ ประวัติศาสตร์ในช่วงสำคัญๆในทุกรัชกาลของราชวงศ์จักรี ประวัติศาสตร์ในยุครัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 7 กับการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เป็นต้น
ผมว่าเป็นเงื่อนไขโอกาสอันดีที่คนไทยจะได้ศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาปิดภาคเรียนเช่นนี้ น้องๆ นักเรียนนักศึกษา วัยรุ่นคนรุ่นใหม่ที่อาจไม่เคยทราบมาก่อน จะได้ความรู้มากมาย ในโลกโซเชียลมีเดีย สามารถหาอ่านได้สะดวกสบายรวดเร็ว
แต่ก็ต้องศึกษาอย่างพินิจพิเคราะห์ มีข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง แอบอ้าง เอามาโพสต์กันต่อ ต้องตรวจสอบที่มา ต้องวิเคราะห์เหตุผลหลักฐานความน่าเชื่อถือ ต้องจำแนกแยกแยะจริงเท็จ ฯลฯ ผมว่าเป็นโอกาสดีสำหรับคนไทยในการศึกษาและฝึกการคิดวิเคราะห์ รู้เท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อข้อมูลข่าวสารขยะและยาพิษ