xs
xsm
sm
md
lg

ตะลุยเวียดนามตอนที่ 2 : สื่อมวลชนเสรีภาพในความไร้เสรีภาพ

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย

ก่อนจะไปเรื่องสื่อมวลชน การเดินทางในเวียดนามครั้งนี้ เราต้องเดินทางทั้งทางเรือ ทางเครื่องบินและทางรถยนต์ครบเลยทีเดียว ทำให้บางช่วง เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการเดินทาง ก็ต้องยอมรับละครับว่า การเดินทางด้วยเครื่องบินนั้นสะดวกสบายและประหยัดเวลาที่สุด

ที่เวียดนามเองก็มีสายการบินแบบประหยัดเหมือนประเทศไทยนี่ละครับ สายการบินหลักก็จะมีเวียดนามแอร์ไลน์ และสายการบินราคาประหยัดอีกหลายสาย หนึงในนั้นก็คือสายการบิน เวียดเจ็ท ซึ่งมีสีชุดประจำสายการบินคือสีแดง ก็คล้ายๆกับสายการบินไทยแอร์เอเซียนั้นแหละครับ

เวียดเจ็ทแม้จะเป็นสายการบินแบบประหยัด แต่ก็มีการพยายามเจาะตลาดประเทศเพื่อนบ้าน เช่นมีการบินตรงจากไทยไปยังเกาะต่างๆ ไม่จำเป็นต้องบินไปลงฮานอยหรือโฮจิมินห์เลยแล้วค่อยต่อเครื่อง การเดินทางครั้งนี้ ผมได้พบกับแอร์โฮสเตสสาวชาวไทยอย่างน้องนานา ซึ่งมาเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของเวียดเจ็ทร่วมกับเพื่อนแอร์สาวไทยอีกกว่า 30 ชีวิตเลยทีเดียว

เอาละครับนอกเรื่องไปตั้งไกลอย่างที่ชื่อเรื่องบอกวันนี้ผมจะมาชวนคุยกันถึงเรื่องเสรีภาพของสื่อเวียดนามกันครับ เนื่องจากประเทศเวียตนามนั้นปกครองแบบสังคมนิยม ไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบที่คนไทยคุ้นเคย รัฐของเขามีอำนาจในการควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จ

เอาง่ายๆเลยครับ ขนาดประธานสมาคมผู้สื่อข่าวที่เวียตนามนั้น ยังเป็นคนของรัฐบาลเลย แถมยังมีหน้าที่ ต้องคอยสอดส่องดูแลการทำงานของสื่อไม่ให้เกินเลยหรือล้ำเส้นรัฐบาล เมื่อไรที่มีกรณีการทำข่าวไปในทางไม่เหมาะสม ทางกรรมการพรรคของเวียดนามหรือนายกสมาคมผู้สื่อข่าวในท้องถิ่นหรือทองที่นั้นๆ จะต้องมีความรับผิดชอบด้วยการเรียกมาตักเตือนบ้าง ให้มีการชี้แจง หรือปรับปรุงแก้ไขก็แล้วแต่ และจะมีตัวแทนของพรรคเข้าประชุมกับสื่อมวลชนต่างๆเพื่อกำหนดทิศทางของข่าว

สำนักข่าวที่เป็นของเอกชนไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์หรือว่าจะเป็นทีวี ไม่สามารถนำเสนอข่าวการเมืองได้เลย ข่าวการเมืองจะเป็นสื่อของรัฐเท่านั้นที่จะสามารถนำเสนอข่าวได้ เอกชนนั้นทำได้มากสุดแค่เพียงข่าวปัญหาปากท้องของประชาชนเท่านั้น

รายการทีวีของเวียดนามจะนำเสนอทุกข์ร้อนของชาวบ้าน ปัญหาที่เกิดขึ้น ความยากจน อย่างทีวีช่องเล็ทเวียดทีวีซึ่งเป็นที่วีช่องหนึ่งของเวียดนาม รายการข่าวเช้าของเขานี่ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งของประเทศเลยทีเดียว เพราะนำเอารายการเล่าข่าวแบบที่คนไทยคุ้นเคยไปใช้ เมื่อทำข่าวการเมืองไม่ได้ เนื้อหาข่าวส่วนใหญ่เป็นเรื่องปัญหาปากท้อง เรื่องปัญหาความยากจนอะไรพวกนี้

ไม่ใช่แค่ข่าว แม้แต่รายการเกมโชว์ก็จะเป็นรายการเกี่ยวกับปากท้อง ความยากจนด้วย เช่น รายการที่แจกวัวให้กับชาวนาที่ยากจนบ้านละสองตัว เพื่อไปใช้ทำนา เมื่อวัวออกลูกมาก็ส่งคืนมาที่สถานีเพื่อเลี้ยงและแจกให้คนยากจนคนอื่นๆต่อไป หรืออีกรายการหนึ่งเป็นรายการแข่งขันกันของตัวแทนจากสองหมู่บ้าน หมู่บ้านไหนชนะ ทางสถานีก็จะไปสร้างสะพานให้เพื่อให้คนในชุมชมนั้นมีชีวิตที่ดีขึ้น ก็เข้าท่าดีนะครับ

เมื่อทำได้แต่รายการช่วยเหลือชาวบ้าน ทำให้หน่วยงานของรัฐจะคอยมอนิเตอร์ทีวีเอกชน จะมีการรีบแก้ปัญหาชาวบ้านให้ไวที่สุดหลังมีการนำเสนอข่าวออกไป บางกรณีทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องถึงขนาด รีบติดต่อมายังสื่อที่ทำข่าวออกไปว่าให้ไปดูข้อเท็จจริงร่วมกัน หรือว่าเมื่อแก้ไขแล้วก็มีการออกมาชีแจ้งอย่างรวดเร็ว

รายการทีวีในเวียดนามมีการเซ็นเซอร์ร้อยเปอร์เซนต์ ละครทีวีเวียตนามนั้นนอกจากจะพูดเรื่องการเมืองไม่ได้แล้ว ฉากความรุนแรงก็ห้ามมี ฉากกอดจูบ หรือการมีเพศสัมพันธ์ก็ห้ามมีด้วยเช่นกัน มีการซื้อละครไทยหลายๆเรื่องมาลงจอทีวีที่เวียดนามให้คนเวียตนามได้ดู แต่ก็ต้องมีการตัดต่อใหม่ ตัดฉากที่ไม่เหมาะสมต่างๆออกก่อนค่อยฉาย

เท่าที่ได้พูดคุยกับชาวเวียดนาม เขาบอกว่าคนเวียดนามดูละครไทยเยอะมาก ยิ่งละครจากช่องของแกรมมี่ก็เป็นที่นิยม พวกเขาได้ดูฮอร์โมน วัยว้าวุ่นนะครับ รวมถึงล่าสุด ละครอย่างทอฝันกับมาวินก็กำลังจะลงจอที่เวียดนามอีกด้วย

นอกจากดูละครทีวีไทย คนเวียดนามยังชอบหนังไทยด้วย สาวๆที่นี่เขากรี๊ดหนุ่มมาริโอ้ เมาเร่อร์กันด้วยครับ เพราอะไรนะเหรอครับ เพราะหนังพี่มากพระโขนงดังมากครับ คนเวียตนามจำนวนมากดูและชอบ ถึงขนาดมาริโอ้เคยมามีทแอนด์กรี๊ดที่เวียดนามเลยทีเดียว

ในยุคสื่อดิจิตอล สื่อโซเซี่ยลมีเดียก็เป็นอีกสื่อหนึ่งที่น่าสนใจ ในเวียดนามเฟสบุ๊คถือเป็นโซเชี่ยลมีเดียกระแสหลักครับ พวกไลน์ หรือทวิตเตอร์ยังได้รับความนิยมน้อยกว่า กลุ่มสื่อเวียตนามคาดการณ์กันว่า สื่อหลักยังคงเป็นทีวีหรือหนังสือพิมพ์อยู่หากเทียบกับสื่อโซเชียลมีเดีย

ความไม่มีเสรีภาพของสื่อเวียดนามชัดเจน ข่าวทางการเมืองเสนอโดยสื่อของรัฐเท่านั้นสื่อสารมวลชนของเอกชนอยู่ในกำกับของรัฐ ข่าวและสื่อในแง่มุมอื่นดูจะเปิดทางได้มากกว่า ในขณะที่โลกโซเชียลมีเดียกำลังมีบทบาทมากขึ้น สำหรับคนไทย ผมว่าการผลิตสื่อประเภทต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งทีวี ละคร ภาพยนตร์ การจัดงานและอีเวนต์ต่างๆ มีโอกาสขยายตัวเข้าไปในเวียดนามในฐานะประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มเออีซี. การเข้าใจนโยบายด้านสื่อสารมวลชนของเวียดนาม ความเข้าใจวัฒนธรรมและสังคมคนเวียดนามเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำงาน




กำลังโหลดความคิดเห็น