การนำระบบชาร์จไร้สาย (Wireless Charging) เข้ามาใส่ไว้ในจอมอนิเตอร์ ถือเป็นจุดเด่นสำคัญของซัมซุง SE 370 ที่เริ่มให้ความสำคัญกับตลาดจอมอนิเตอร์สำหรับคอมพิวเตอร์มากขึ้น ด้วยการเล็งเห็นพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนของผู้บริโภคที่มักจะมีการหยิบจับสมาร์ทโฟนขึ้นมาขณะใช้งานคอมพิวเตอร์ควบคู่กันไป
โดยการที่มีระบบชาร์จไร้สายเข้ามาจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาใช้งานได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องปลดสายที่เสียบชาร์จอยู่ หรือระวังสายที่จะพันกันกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ขณะเดียวกัน ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจ คือ ผู้บริโภคที่ใช้งานสมาร์ทโฟนในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการใช้งานสมาร์ทโฟนมากกว่าดูทีวีหลายเท่าตัว ทำให้ต้องมีการชาร์จสมาร์ทโฟนบ่อยขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา
ส่งผลให้การเป็นผู้ผลิตจอมอนิเตอร์รายแรกที่นำระบบชาร์จไร้สายเข้ามาใส่ จึงถือเป็นจุดเด่นของจอ Samsung SE370 เพราะด้วยระบบชาร์จบนมาตรฐาน Qi โดยจะสามารถรองรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟน Samsung ตั้งแต่รุ่น Galaxy S6 หรือ Galaxy Note 5 ขึ้นไป นอกจากนี้ Galaxy S5, Galaxy S4, Note 4, Note Edge และ Note 3 จะสามารถชาร์จไฟได้เมื่อใช้อุปกรณ์เสริม Charging Pad
ถัดมาในแง่ของการออกแบบ Samsung SE370 จะเน้นไปที่ความบางของขอบจอทั้ง 4 ด้าน ที่มีการใส่ขอบเป็นสีฟ้ากึ่งโปร่งใสเพื่อความสบายตา ขณะเดียวกัน ก็ให้รูปลักษณ์ที่ดูทันสมัยจากลายโค้งที่เป็นธรรมชาติที่ส่วนล่างของหน้าจอที่มีการใส่แบรนด์มอนิเตอร์ “Samsung” เข้าไป ส่วนของขาตั้งจะเป็นขาแบบตัว T ที่ผู้ใช้สามารถปรับมุมเงยหน้าจอขึ้นได้อีก 20 องศา เพื่อช่วยให้เหมาะกับระยะสายตามากขึ้น
ด้วยขนาดของจอ SE370 ซึ่งอยู่ที่ 27 นิ้ว เมื่อวัดเฉพาะตัวจอไม่นับขาตั้งจะอยู่ที่ 62.6 x 37.72 x 7.08 เซนติเมตร แต่ถ้ารวมขาตั้งด้วยความสูงของจอจะเพิ่มเป็น 46.1 เซนติเมตร และความกว้างของฐานจะเพิ่มเป็น 19.69 เซนติเมตร น้ำหนักเฉพาะตัวหน้าจออยู่ที่ 4.7 กิโลกรัม รวมขาตั้งเป็น 5.2 กิโลกรัม พอร์ตการใช้งานที่ให้มาจะประกอบไปด้วย พอร์ต D-Sub, Display Port, HDMI และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
สเปกการแสดงผลของ SE370 จะเป็นจอความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) ในสัดส่วน 16:9 ความสว่างหน้าจออยู่ที่ 300cd/m2 คอนทราสต์เรโชอยู่ที่ 1000:1 และเป็นจอภาพแบบ PLS ทำให้ช่วยเพิ่มมุมในการมองภาพได้ชัดเจนทั้งจากด้านข้าง และมุมสูงที่ 178 องศา รองรับการเชื่อมต่อทั้งระบบปฏิบัติการวินโดวส์ และแมค
อย่างไรก็ตาม ภายในมอนิเตอร์ยังมีการใส่ฟีเจอร์เพิ่มสำหรับผู้ที่ต้องใช้เวลาอยู่กับจอเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นโหมดปราศจากการกะพริบ “Flicker Free” ที่ปรับการรีเฟรชหน้าจอให้เหมาะกับดวงตา ทำให้เมื่อใช้เป็นเวลานานแล้วดวงตาจะไม่เกิดอาการล้า พร้อมกับโหมดถนอมสายตา “Eye Saver mode” ที่ช่วยลดการปล่อยแสงสีฟ้าจากหน้าจอที่อาจทำอันตรายดวงตาเมื่อใช้เป็นระยะเวลานาน
สำหรับคอเกม ทางซัมซุงได้จับมือกับเอเอ็มดี (AMD) ที่นำระบบ AMD Freesync เข้ามาช่วยลดการกระตุก และหน่วงเวลาระหว่างการเล่นเกม และรับชมภาพยนตร์ พร้อมกับปรับปรุงความมืดของภาพให้มีความคมชัดมากขึ้น รวมถึงเวลาการในการตอบสนองที่ 4ms ทำให้สามารถมองความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นบนหน้าจอโดยไม่มีปัญหาความเบลอ หรือเงาซ้อนออกมา
ในแง่ของการประหยัดพลังงาน SE370 จะมีเทคโนโลยีในการช่วยลดความสว่างของหน้าจอ “Eco Saving Plus” เพื่อให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น ด้วยการปรับค่าความสว่างต่ำสุดที่ 25% และสูงสุด 50% จะช่วยให้สามารถประหยัดพลังงานได้ราว 10% ตามสัดส่วนของสีดำบนหน้าจอที่ช่วยลดการประหยัดพลังงานด้วยเช่นเดียวกัน
Samsung Wireless Charging Monitor ขนาด 27 นิ้ว วางจำหน่ายในราคา 11,190 บาท ใครที่สนใจสามารถเข้าไปทดลองสัมผัสได้ที่ร้านซัมซุงแบรนด์ช็อป และตัวแทนจำหน่ายซัมซุงทั่วประเทศ หรือที่ IT city, JIB, Jet computer และ Banana it สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าซัมซุง 02-689-3232 หรือโทรฟรีจากโทรศัพท์บ้าน 1-800-9-3232 และ http://www.samsung.com/th/consumer/it/monitor/led-monitor/LS27E370DS/XT
(บทความประชาสัมพันธ์)
