ผ่านพ้นไปแล้วครับกับช่วงวันหยุดยาวที่รัฐบาลจัดให้ประชาชนเป็นกรณีพิเศษแหมอยากจะเดินไปหอมแก้มลุงตู่ฟอดใหญ่ๆกันเลยทีเดียวงานนี้ก็รู้ๆกันอยู่ละครับว่าลุงตู่นั้นหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการกระจายรายได้ไปยังต่างจังหวัดเหมือนช่วงสงกรานต์
มติครม.เมื่อวันที่ 29 มีนาคม2559 รัฐบาลออกมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสงกรานต์ (9 เมษายน-17 เมษายน2559) ให้บุคคลธรรมดานำค่าใช้จ่ายอาหารและเครื่องดื่มจากร้านอาหารหรือโรงแรม ค่าแพ็คเกจทัวร์ในประเทศและค่าที่พักโรงแรมในประเทศ มาใช้หักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาทรวมถึงการขยายเวลามาตราภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศให้บุคคลธรรมดา นำค่าแพ็คเกจทัวร์และโรงแรมในประเทศ มาลดหย่อนได้เท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 1.5หมื่นบาท และให้นิติบุคคล นำค่าจัดอบรมสัมมนาในประเทศ มาหักรายจ่ายได้ 2 เท่าที่ขยายกรอบเวลาจากที่สิ้นสุดไปเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา มาใช้สิทธิประโยชน์นี้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31ธันวาคม2559
ช่วงสงกรานต์เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา หอการค้าไทยได้ประเมินไว้ว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.24 แสนล้านบาทเลยทีเดียวและขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.51%
แต่ต้องไม่ลืมนะครับว่าเวลาหยุดยาวแบบสงกรานต์ทีไรประเทศไทยต้องสูญเสียประชากรไปจำนวนมากทีเดียว ล่าสุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2559สถิติอุบัติเหตุทางถนน ตั้งแต่วันที่ 11 – 16 เมษายน เกิดอุบัติเหตุ รวม 3,104 ครั้ง ผู้เสียชีวิต รวม 397 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 3,271 คน ซึ่งเอาจริงๆเรายังไม่รู้ว่ามีคนที่อาจจะต้องพิการไปอีกกี่คนบางคนที่เราสูยเสียไปนั้นอาจจะเป็นคนที่มีความคิดความรู้ความสามารถหมดโอกาสที่จะสร้างสรรค์ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองแต่ที่แน่ๆคือช่วงสงกรานต์ของไทยไม่กี่วันคนตายมากกว่าแผ่นดินไหวครั้งล่าที่ญี่ปุ่นเสียอีก
ที่ผมหยิบเรื่องนี้มาชวนท่านผู้อ่านช่วยกันขบคิด ก็เพราะว่า การหยุดยาวครั้งล่าสุดที่เพิ่งผ่านพ้นไปรัฐบาลพยายามให้มีการท่องเที่ยวจับจ่ายใช้เงินเพื่อกระจายรายได้(อีกแล้ว)มันอาจกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่มากเท่าที่ควร ไปทางไหนแม่ค้าก็บอกว่าขายของไม่ค่อยได้ข้าวของราคาแพง คนไม่มีเงินจับจ่าย เพราะค่าครองชีพมันสูงเสียเหลือเกิน
อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น รายได้น้อยลง แต่รายจ่ายสูงขึ้นดูง่ายๆครับผมว่าเดี๋ยวนี้หากจะกินข้าวหรือกินอาหารสักมื้อ ถือเงินไปร้อยบาท เอาเข้าจริงกินไม่อิ่มเลยครับเพราะข้าวแกงจานๆหนึ่งก็เกือบ 50 บาทเข้าไปแล้ว ยังไม่รวมเครื่องดื่ม ถ้ากินถูกๆแบบน้ำเปล่าก็ตกขวดละ 10 บาทเข้าไปแล้ว
ประเทศไทยเรานี่เป็นประเทศที่แปลกมากๆ ชอบทำอะไรสวนกระแสโลกอยู่เรื่อยราคาน้ำมันถูกลง แต่ราคาสินค้า บริการ ข้าวของเครื่องใช้กลับแพงขึ้น ไม่มีการขยับราคาลงบ้างทีตอนขึ้นราคาสินค้านั้นอ้างกันจังว่าราคาน้ำมันแพงเลยต้องขึ้นราคา ปีนี้ราคาน้ำมันลดลงมามากราคาสินค้ายังแพงเท่าเดิมซะอย่างนั้น เหอประเทศไทย
เขียนมาถึงตรงนี้ขอบอกเลยว่าหยุดยาวนั้นไม่ได้แปลว่าคนไทยจะมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้นเม็ดเงินอาจจะไม่สะพัดเท่าไร เผลอๆอาจจะแย่ลงก็ได้ดูได้จากบริษัทต่างๆที่อาจจะเจ๋งได้เพราะงานไม่เดินวันหยุดมากขึ้น เงินในกระเป๋าคนก็อาจจะไม่ได้เพิ่มขึ้นยิ่งวันหยุดยาวห่างกันไม่กี่วันแบบนี้ธุรกิจไม่ได้เดินหน้า ก็ต้องมาแบกภาระเพิ่มด้วยซ้ำเพราะการประกาศให้หยุดยาวแบบนี้ แต่เงินเดือนพนักงานก็ยังต้องจ่ายกันเต็มจำนวนแถมงานที่ได้ลดลงและหยุดชงักหลายวัน
แต่ก็นั่นละครับ การหยุดยาวอาจจะมีนัยยะอย่างอื่นซ่อนอยู่ก็เป็นไปได้การใช้วันหยุดยาวเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง คนอาจจะคาดไม่ถึง บางกรณีการหยุดยาวสามารถกลบกระแสข่าวบางข่าวได้ เบนความสนใจ คนไปเที่ยวต่างจังหวัด ไม่ได้ตามข่าวคนทำข่าวเองก็ทำงานชะงักไม่ต่อเนื่อง บางกรณีลดเสียงวิจารณ์ เอาวันหยุดมาอุดปากกันได้เลยทีเดียวบางกรณีการหยุดยาวเป็นการตัดกำลังกลุ่มการเมือง การต่อต้าน การรวมกลุ่ม ฯลฯ
วันหยุดยาว มีคนจำนวนมากขาดรายได้ โดยเฉพาะลูกจ้างรายวัน และคนหาเช้ากินค่ำหยุดห้าวันเท่ากับขาดรายได้ไปห้าวัน การหยุดงานเท่ากับการไม่มีรายได้ พ่อค้าแม่ขายหยุดงานเท่ากับหยุดรายได้ การทำงานภาคเอกชน การผลิตการขนส่งสินค้าหยุดชงักเพราะวันหยุดยาวเดือนละหลายวัน
ถ้าคนไทยมีวันหยุดยาว แล้วท่องเที่ยวในไทย คนไทยได้ประโยชน์ แต่ถ้าไปเที่ยวต่างประเทศขนเงินไปชอปปิ้ง แทนที่ประเทศไทยจะได้ประโยชน์ กลับเสียประโยชน์ มีวันหยุดยาวมากก็เสียประโยชน์มาก หักกลบลบกันแล้ว ไม่แน่ว่าหยุดยาวจะได้ประโยชน์จริงรึเปล่านะซีครับ
จากการสำรวจความเห็นของผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวเห็นว่าโดยเนื้อแท้แล้วแทบไม่ได้ส่งผลกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างมีนัยสำคัญเป็นเพียงผลในเชิงจิตวิทยาเท่านั้น ทั้งยังไม่ได้ช่วยให้คนที่ตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศหันกลับมาเที่ยวในประเทศแทนแน่นอน เพราะมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสงกรานต์ที่ออกมาตรการนี้กระชั้นชิดกับช่วงสงกรานต์มากขณะที่คนวางแผนเที่ยวต่างประเทศเขาแพลนกันล่วงหน้ามาหลายเดือนก่อนหน้านี้แล้ว
นอกจากเรื่องเศรษฐกิจ ที่สำคัญยังมีเรื่องของชีวิตผู้คน มีวันหยุดยาวแต่ละครั้งคนไทยบาดเจ็บล้มตาย พิการ จำนวนมาก เป็นการสูญเสียที่ครอบครัวต้องเผชิญ ประเทศชาติต้องแบกรับรัฐบาลสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เอาที่ได้มาขึ้นตาชั่งกับที่เสีย ผมว่าได้ไม่คุ้มเสียการหยุดยาวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเหมือนฝันมากกว่าจริง
หมดวันหยุดยาวพอดี กลับมาโลกแห่งความเป็นจริงกันได้แล้วครับทุกคน
มติครม.เมื่อวันที่ 29 มีนาคม2559 รัฐบาลออกมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสงกรานต์ (9 เมษายน-17 เมษายน2559) ให้บุคคลธรรมดานำค่าใช้จ่ายอาหารและเครื่องดื่มจากร้านอาหารหรือโรงแรม ค่าแพ็คเกจทัวร์ในประเทศและค่าที่พักโรงแรมในประเทศ มาใช้หักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาทรวมถึงการขยายเวลามาตราภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศให้บุคคลธรรมดา นำค่าแพ็คเกจทัวร์และโรงแรมในประเทศ มาลดหย่อนได้เท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 1.5หมื่นบาท และให้นิติบุคคล นำค่าจัดอบรมสัมมนาในประเทศ มาหักรายจ่ายได้ 2 เท่าที่ขยายกรอบเวลาจากที่สิ้นสุดไปเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา มาใช้สิทธิประโยชน์นี้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31ธันวาคม2559
ช่วงสงกรานต์เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา หอการค้าไทยได้ประเมินไว้ว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.24 แสนล้านบาทเลยทีเดียวและขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.51%
แต่ต้องไม่ลืมนะครับว่าเวลาหยุดยาวแบบสงกรานต์ทีไรประเทศไทยต้องสูญเสียประชากรไปจำนวนมากทีเดียว ล่าสุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2559สถิติอุบัติเหตุทางถนน ตั้งแต่วันที่ 11 – 16 เมษายน เกิดอุบัติเหตุ รวม 3,104 ครั้ง ผู้เสียชีวิต รวม 397 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 3,271 คน ซึ่งเอาจริงๆเรายังไม่รู้ว่ามีคนที่อาจจะต้องพิการไปอีกกี่คนบางคนที่เราสูยเสียไปนั้นอาจจะเป็นคนที่มีความคิดความรู้ความสามารถหมดโอกาสที่จะสร้างสรรค์ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองแต่ที่แน่ๆคือช่วงสงกรานต์ของไทยไม่กี่วันคนตายมากกว่าแผ่นดินไหวครั้งล่าที่ญี่ปุ่นเสียอีก
ที่ผมหยิบเรื่องนี้มาชวนท่านผู้อ่านช่วยกันขบคิด ก็เพราะว่า การหยุดยาวครั้งล่าสุดที่เพิ่งผ่านพ้นไปรัฐบาลพยายามให้มีการท่องเที่ยวจับจ่ายใช้เงินเพื่อกระจายรายได้(อีกแล้ว)มันอาจกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่มากเท่าที่ควร ไปทางไหนแม่ค้าก็บอกว่าขายของไม่ค่อยได้ข้าวของราคาแพง คนไม่มีเงินจับจ่าย เพราะค่าครองชีพมันสูงเสียเหลือเกิน
อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น รายได้น้อยลง แต่รายจ่ายสูงขึ้นดูง่ายๆครับผมว่าเดี๋ยวนี้หากจะกินข้าวหรือกินอาหารสักมื้อ ถือเงินไปร้อยบาท เอาเข้าจริงกินไม่อิ่มเลยครับเพราะข้าวแกงจานๆหนึ่งก็เกือบ 50 บาทเข้าไปแล้ว ยังไม่รวมเครื่องดื่ม ถ้ากินถูกๆแบบน้ำเปล่าก็ตกขวดละ 10 บาทเข้าไปแล้ว
ประเทศไทยเรานี่เป็นประเทศที่แปลกมากๆ ชอบทำอะไรสวนกระแสโลกอยู่เรื่อยราคาน้ำมันถูกลง แต่ราคาสินค้า บริการ ข้าวของเครื่องใช้กลับแพงขึ้น ไม่มีการขยับราคาลงบ้างทีตอนขึ้นราคาสินค้านั้นอ้างกันจังว่าราคาน้ำมันแพงเลยต้องขึ้นราคา ปีนี้ราคาน้ำมันลดลงมามากราคาสินค้ายังแพงเท่าเดิมซะอย่างนั้น เหอประเทศไทย
เขียนมาถึงตรงนี้ขอบอกเลยว่าหยุดยาวนั้นไม่ได้แปลว่าคนไทยจะมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้นเม็ดเงินอาจจะไม่สะพัดเท่าไร เผลอๆอาจจะแย่ลงก็ได้ดูได้จากบริษัทต่างๆที่อาจจะเจ๋งได้เพราะงานไม่เดินวันหยุดมากขึ้น เงินในกระเป๋าคนก็อาจจะไม่ได้เพิ่มขึ้นยิ่งวันหยุดยาวห่างกันไม่กี่วันแบบนี้ธุรกิจไม่ได้เดินหน้า ก็ต้องมาแบกภาระเพิ่มด้วยซ้ำเพราะการประกาศให้หยุดยาวแบบนี้ แต่เงินเดือนพนักงานก็ยังต้องจ่ายกันเต็มจำนวนแถมงานที่ได้ลดลงและหยุดชงักหลายวัน
แต่ก็นั่นละครับ การหยุดยาวอาจจะมีนัยยะอย่างอื่นซ่อนอยู่ก็เป็นไปได้การใช้วันหยุดยาวเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง คนอาจจะคาดไม่ถึง บางกรณีการหยุดยาวสามารถกลบกระแสข่าวบางข่าวได้ เบนความสนใจ คนไปเที่ยวต่างจังหวัด ไม่ได้ตามข่าวคนทำข่าวเองก็ทำงานชะงักไม่ต่อเนื่อง บางกรณีลดเสียงวิจารณ์ เอาวันหยุดมาอุดปากกันได้เลยทีเดียวบางกรณีการหยุดยาวเป็นการตัดกำลังกลุ่มการเมือง การต่อต้าน การรวมกลุ่ม ฯลฯ
วันหยุดยาว มีคนจำนวนมากขาดรายได้ โดยเฉพาะลูกจ้างรายวัน และคนหาเช้ากินค่ำหยุดห้าวันเท่ากับขาดรายได้ไปห้าวัน การหยุดงานเท่ากับการไม่มีรายได้ พ่อค้าแม่ขายหยุดงานเท่ากับหยุดรายได้ การทำงานภาคเอกชน การผลิตการขนส่งสินค้าหยุดชงักเพราะวันหยุดยาวเดือนละหลายวัน
ถ้าคนไทยมีวันหยุดยาว แล้วท่องเที่ยวในไทย คนไทยได้ประโยชน์ แต่ถ้าไปเที่ยวต่างประเทศขนเงินไปชอปปิ้ง แทนที่ประเทศไทยจะได้ประโยชน์ กลับเสียประโยชน์ มีวันหยุดยาวมากก็เสียประโยชน์มาก หักกลบลบกันแล้ว ไม่แน่ว่าหยุดยาวจะได้ประโยชน์จริงรึเปล่านะซีครับ
จากการสำรวจความเห็นของผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวเห็นว่าโดยเนื้อแท้แล้วแทบไม่ได้ส่งผลกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างมีนัยสำคัญเป็นเพียงผลในเชิงจิตวิทยาเท่านั้น ทั้งยังไม่ได้ช่วยให้คนที่ตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศหันกลับมาเที่ยวในประเทศแทนแน่นอน เพราะมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสงกรานต์ที่ออกมาตรการนี้กระชั้นชิดกับช่วงสงกรานต์มากขณะที่คนวางแผนเที่ยวต่างประเทศเขาแพลนกันล่วงหน้ามาหลายเดือนก่อนหน้านี้แล้ว
นอกจากเรื่องเศรษฐกิจ ที่สำคัญยังมีเรื่องของชีวิตผู้คน มีวันหยุดยาวแต่ละครั้งคนไทยบาดเจ็บล้มตาย พิการ จำนวนมาก เป็นการสูญเสียที่ครอบครัวต้องเผชิญ ประเทศชาติต้องแบกรับรัฐบาลสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เอาที่ได้มาขึ้นตาชั่งกับที่เสีย ผมว่าได้ไม่คุ้มเสียการหยุดยาวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเหมือนฝันมากกว่าจริง
หมดวันหยุดยาวพอดี กลับมาโลกแห่งความเป็นจริงกันได้แล้วครับทุกคน